สกู๊ปพิเศษ
โดย…ยอดเยาวพา
จากแค่เกิดอยากทานผัดไทยกลายเป็นเปิดร้านขายเป็นจริงเป็นจังใน “บ้านเพลินจิตต์” Baan Plern Jitt ที่มีผัดไทยหลากหลายเส้นนำเสนอ แต่ที่เป็นพระเอกในร้านเห็นจะเป็น “ผัดไทยโบราณ” ด้วยความที่เป็นอุตสาหกรรมครอบครัวการบริการดี หากแต่อาหารเสิร์ฟช้าเนื่องจาก “เม สุมนตา สุริยารุ่งเรืองกุล” แจ้งลูกค้าทุกครั้งจนคล่องปากว่า ‘รอนานนิดนึงเพราะผัดทีละกระทะนะ’ แต่จากที่เห็นลูกค้าที่ไปมักอิ่มเอมกับบรรยากาศริมคลองจนลืมอาหารที่รอนาน หรือบางคนหิวที่ร้านก็มีของว่างและขนมไทยไว้ทานคู่กับน้ำสมุนไพรชื่นใจขณะรอผัดไทย ถามว่าอร่อยแค่ไหน…บอกไปก็หาว่าอวย มีเวลาก็พาเพื่อน พาแฟน หรือพาครอบครัวไปทานก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แค่ชุมชนคลองบางหลวงนี่เองเปิดจีพีเอสหาก็เจอ โดยเมเล่าถึงการเปิดร้านผัดไทย พร้อมชวนให้ไปเที่ยวเพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน
“เอาจริง ๆ เมเปิดเป็นทางการเต็มโซนตั้งแต่ปี 67 ปีนี้ 68 เพิ่งเปิดได้ปีนิด ๆ เอง นี่หนูทำประมาณปีกะอีก 2 เดือนค่ะ กระแสตอบรับมันก็ดีนะ เพราะว่าช่วงนี้มันมีโซเซียลเน็ตเวิร์ก พอมีโซเซียลมาปุ๊บคนที่เขาถูกใจเรา เขาก็ช่วยรีวิวให้ หนูไม่ได้จ้างใครรีวิวเลย ก็คือลูกค้าที่เข้ามา เพราะเขาชอบบรรยากาศอย่างนึง ชอบอาหารด้วย และชอบบริการค่ะ หนูดูแลเอง ร้าน “บ้านเพลินจิตต์” หนูทำเป็นครอบครัว อย่างที่พี่เห็นก็จะมีพี่ชาย มีพี่สาว อันนี้ก็แม่ อันนี้ก็น้องอยู่แถวบ้านก็เลยชวนมาทำ เป็นแบบว่าคุย ๆ กันแล้วถูกคอก็เลยชวนมาค่ะ คือหนูทำเป็นอุตสาหกรรมครอบครัว หนูเลยแจ้งลูกค้าทุกคนว่ามันรอนานนิดนึงเพราะผัดทีละกระทะนะ
ร้านนี้เกิดจากเมอยากทานผัดไทยค่ะ แล้วผัดไทยส่วนใหญ่ที่สั่งมาเขาจะใช้พวกน้ำส้มสายชู แล้วก็เหมือนรสชาติไม่ถูกปาก เต้าหู้ก็อันเล็กบ้าง กุ้งแห้งก็ให้นิดเดียว ไข่ก็ไม่เต็มที่อะไรแบบนั้น หนูก็เลยบอกแม่ว่าอยากกินผัดไทย ก็เลยเปิดเว็บไซต์ลองทำเล่น ๆ ทำเล่น ๆ เลย แล้วแม่เขาชอบทำโรงทาน หนูก็เลยบอกแม่ทำแจกกันมั้ยหน้าบ้าน พอทำเสร็จปุ๊บก็แจกเลย แล้วป้าแถวบ้านคนแถวนี้เขาก็ “อร่อย ป้าว่าโอเคนะ สูตรนี้ใช้ได้ปรับนิดปรับหน่อย โอเคเลย” หนูก็เลยลองกับแม่ทำขายหน้าบ้าน ก็ขายวันนึง 20-30 กล่อง 10 กล่องก็มีแล้วแต่ เพราะหนูทำเล่น ๆ จริง ๆ มีแค่โต๊ะหน้าบ้านตัวเดียวเอง พอหลังจากนั้นระยะเวลาผ่านไปใช่ปะคะ หนูก็มองพื้นที่บ้าน แต่ก่อนหนูขายเสื้อผ้ามือสองแล้วพอเสร็จแล้วมันมีพื้นที่บ้านก็เลยเริ่มขยายเข้ามาข้างล่างก่อน พี่สาวเลยบอกทำแบบนั่งกินผัดไทยห้อยขามั้ย พอลูกค้าเริ่มมาเยอะขึ้น ก็รีโนเวทมาเรื่อย ๆ อันนี้เป็นบ้านเดิม 100% เพียงแค่หนูเคลียร์บ้านให้โล่ง แล้วก็เติมเฟอร์นิเจอร์ แต่พวกหนูก็อยู่ที่นี่ด้วยค่ะ
ถามว่าเสน่ห์ของผัดไทยบ้านเพลินจิตต์ จริง ๆ ถ้าถามหนู หนูว่าการบริการก็มีส่วน ส่วนอย่างที่สองคือคุณภาพอาหาร พริกถั่วหนูคั่วเองหมดเลยค่ะ 5 ทุ่ม เที่ยงคืนหนูก็นั่งตำ เพราะว่าแม่ไม่ให้ซื้อ พริกก็ไม่ให้ซื้อต้องมาคั่ว ปั่นเองทำเองทุกอย่างเลย เต้าหู้ กุ้งแห้งก็ต้องรวนแล้วก็เอามารวนก่อนใช้เต้าหู้ก็เช่นกัน ถ้าพูดตรง ๆ คุณแม่หนูเรื่องอาหารจะค่อนข้างพิถีพิถันนิดนึง มันก็เลยกลายเป็นว่าเรากินยังไงลูกค้ากินอย่างงั้น แล้วพ่อหนูเป็นโรคไตด้วย ก็เลยแบบพ่อทานได้คนอื่นก็ต้องทานได้ค่ะ ถ้าถามคนที่มาทานก็บอกว่า “อร่อย ชอบ อยากกลับมา” เพราะว่าเหมือนบริการดี เหมือนพวกหนูเป็นกันเอง ตอนที่ร้านคนไม่เยอะหนูถ่ายรูปให้ลูกค้าที่มาทานทุกคนเลย แต่ว่าหลัง ๆ มาคนเยอะหนูก็ไม่มีเวลาจริง ๆ แล้วบรรยากาศมันก็ดีน้ำตกก็เป็นความคิดของพ่อ ที่พ่อเขาทำเอาไว้โดยใช้น้ำคลองนำกลับมาใช้ค่ะ
หนูไม่ได้อยากฝากร้านหนูร้านเดียวนะ อยากฝากให้กระจายรายได้ให้ชุมชนคลองบางหลวงค่ะ อยากให้มาเที่ยวที่ชุมชนนี้เยอะ ๆ หนูอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาเที่ยวเพราะหนูมองว่าในกรุงเทพแทบจะไม่มีชุมชนแบบนี้อยู่แล้ว ถ้าชุมชนมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะขึ้นชุมชนมีรายได้ ทุกคนก็จะไม่ขายบ้านแล้วเปลี่ยนเป็นรูปแบบใหม่เป็นตึกเป็นอาคารบ้านช่อง อาจจะไม่ต้องมาอุดหนุนร้านหนูร้านเดียวก็ได้ มีลุง ๆ ป้า ๆ มีร้านโบราณ ๆ กระจายรายได้ทำให้เขาอยู่ได้มีกำลังใจ จากคนที่แบบอยู่เหี่ยวแห้งอยู่บ้านไม่มีรายได้พอมีรายได้เข้ามาเขาก็ดีใจรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า แล้วก็อีกอย่างนึงหนูว่า สิ่งหนึ่งคือหนูอยากให้ทุกคนอนุรักษ์บ้านเอาไว้ ถ้าวันนึงมีรายได้เข้ามาทุกคนก็จะรักบ้านอย่างมาก อย่างตัวหนูหนูไม่เคยรู้ว่าบ้านตัวเองดีเลย ไม่เคยรู้คุณค่าบ้านของตัวเองจนมาทำร้านแล้วลูกค้าต่างชาติชอบมาก ‘บ้านโบราณเหรอ ชอบมากเลย’ เพราะอย่างคนญี่ปุ่นจะมีตึกสมัยใหม่ ของเก่ามือสองเขายังใหม่อยู่เลยแต่พอเขามาดูแบบนี้ มันดูมีเสน่ห์ มันทำให้เรารักบ้านมากขึ้น หนูคนนึงแหละ อยากอนุรักษ์บ้าน ถ้าไม่มีใครมาไล่ หนูก็จะยังอยู่ที่นี่ทำร้านต่อไป”