หนังติดดาว***

“The Unbreakable Boy – เด็กชายหัวใจไม่แพ้” เสิร์ฟความอบอุ่นและฟีลกู๊ดโดย มงคลเมเจอร์ นำแสดงโดย เจคอบ ลาวาล ในบท ออสติน, แซกคารี ลีวาย รับบท สก็อตต์  โดยสร้างจากเรื่องจริงที่ถูกเขียนเป็นหนังสือ “The Unbreakable Boy: A Father’s Fear, a Son’s Courage, and a Story of Unconditional Love”  โดย ซูซี ฟลอรี และ สก็อตต์ เลอเร็ตต์  โดยเนื้อหาหลัก ๆ จากบันทึกของสก็อตต์ ที่เขียนถึงเรื่องราวในครอบครัว โดยเฉพาะ “ออสติน” ลูกชายคนโตของเขาที่มีโรคประจำตัวและภาวะออทิสติก ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่หลายคนเข้าใจยาก หรือเข้าไม่ถึง แต่สำหรับ สก็อตต์ เขาพบว่าหลายอย่างในชีวิตเขาก็ได้เรียนรู้จากการดูแล และเฝ้าสังเกตลูกชายคนนี้

          หนังที่สร้างจากเรื่องจริงของครอบครัวของสก็อตต์ ที่มีพันธุกรรมที่ทำให้เป็น “โรคกระดูกหักง่าย” รวมทั้ง ลูกชายคนโตก็เป็นออทิสติกด้วย เนื้อเรื่องมีการเล่าเรื่องโดยลูกชายคนโตที่เป็นออทิสติกแบบพูดไม่หยุดนี่แหละ ตั้งแต่แรกเริ่มที่พ่อและแม่ได้เริ่มเจอกัน เนื้อเรื่องอิงมาจากเรื่องจริงที่เรียบเรียงเรื่องราวได้ดีให้เราสามารถเข้าใจได้ง่าย นักแสดงนำพ่อกับแม่และเด็กที่รับบทออทิสติกเล่นได้สมบทบาทมาก ทำให้ดูแล้วอินตามต่อสภาพการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นที่ส่งผลต่อความเครียด การปรับตัว ฐานะการเงิน แต่การเล่าเรื่อง น้ำเสียงของเด็กออทิสติกก็ช่วยให้ผ่อนคลายลงได้ และมีกำลังใจในการสู้ต่อไป สมกับที่เป็นเด็กชายหัวใจไม่แพ้ จริง ๆ ถ้าใครที่ท้อต่อชีวิตมาดูเรื่องนี้น่าจะมีกำลังใจขึ้น ซึ่งหนังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงที่หนักอึ้งให้ออกมาละมุนและมีความ Feel Good ได้เยี่ยมมาก ติดให้ *** ครึ่ง

         

วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส และ เลเจนดารี่ พิกเจอร์ส เชิญคุณก้าวเข้าสู่โลกแห่งบล็อกสุดมหัศจรรย์กับ “A Minecraft Movie – ไมน์คราฟต์ มูฟวี่” ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันฟอร์มยักษ์ที่สร้างจากวิดีโอเกมยอดขายสูงสุดตลอดกาล นำแสดงโดย เจสัน โมโมอา และ แจ็ค แบล็ค ร่วมด้วย เอ็มม่า ไมเยอร์ส, แดเนียล บรูคส์, เซบาสเตียน ยูจีน ฮานเซน และ เจนนิเฟอร์ คูลิดจ์ กำกับโดย จาเร็ด เฮส

          หลังจากที่ดูจบ ความที่เราไปเห็นทีเซอร์ถือว่าหนังตรงปก กราฟฟิกก็ถือว่ารักษาต้นฉบับจากเกมมาได้ส่วนใหญ่เลย ตัวเหลี่ยม เกิดทันนะแต่ไม่เคยเล่นเกมนี้เลย ถ้าคนที่เคยเล่นเกมนี้เขาคงอินมาก และมีที่มาที่ไปอย่างไง มันคล้ายมาริโอ้เดินเคาะมีเห็ดโผล่ แต่เกมนี้เคาะเหมือนกันแต่เป็นการสร้างบล็อก ต่อบล็อกแล้วเป็นตัวหัวเหลี่ยม ๆ หนังดูได้เพลิน ๆ กราฟฟิกสวย และสไตล์แจ็ค แบล็คเลยคือต้องมีเพลง 555 แล้วพี่โมโมอามาเอามันเอาฮาไม่รักษาภาพเลย 555 ตอนแรกคิดว่าพี่โมโมอาจะมาแบบฮีโร่ของกลุ่มนี้ เหมือนดเวย์น จอนสันในJUMANJI ที่ไหนได้พี่แกมาลุคเสียฟอร์มอย่างเดียวเลย กล้ามไม่ได้มีผลพี่มาเอาฮาอย่างเดียว ไม่มีลุคหล่อ ก็เหมือนเขาจับถูกทางกับหนังเด็ก ดาราเด็กตัวประกอบก็เล่นดี หนังก็มีมุกขำให้ดูตลอดเรื่อง หนำซ้ำภาษาอังกฤษเหมือนได้ฝึกภาษาด้วย ถือเป็นหนังครอบครัวที่ดูเพลิน ติดให้ *** ครึ่ง

          คำถามจากภาพยนตร์เรื่อง “A Minecraft Movie – ไมน์คราฟต์ มูฟวี่” เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจาก?

          ทราบคำตอบเขียนใส่ไปรษณียบัตร พร้อม ชื่อ – นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรให้ชัดเจน ส่งมาที่ คอลัมน์ หนังดีติดดาว 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 ขอบคุณ วอร์เนอร์ บราเดอร์ส ที่สนับสนุนของเล่นเกม 3 รางวัล

          “A Working Man นรกหยุดนรก” นำโดย เจสัน สเตแธม กลับมาล้างบางเดนนรก โดยผู้กำกับ ผู้กำกับ เดวิด เอเยอร์ (Fury, Suicide Squad) โดยได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามทำให้กวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ

          เป็นหนังที่สนุก มัน เร้าใจ สไตล์พี่สเตแธมที่จับทางของตัวเองถูก พล็อตก็ไม่ต่างจาก The Beekeeper ที่เป็นคนทำงานอาชีพหนึ่ง เรื่องนี้แค่เปลี่ยนงาน เรื่องนั้นเป็นคนเก็บผึ้ง แต่เรื่องนี้เป็นช่างก่อสร้าง แต่ความมันได้เลย ดูแล้วเพลิน อาศัยว่าเขียนบทดี ดีไซน์ฉากบู๊แล้วตัดต่อดีก็สามารถทำให้หนังสนุกได้ ซึ่งส่วนใหญ่พล็อตเดิมพอทำใหม่ซ้ำซากดูไม่สนุกแต่เรื่องนี้ถือว่าโอเคเลย ดูแล้วสนุก และมีลุ้นว่าจะไปยังไงต่อ แล้วเฮียซิลเวสเตอร์ สตอลโลนร่วมงานกันมาจับทางกันได้แล้วเรื่องนี้มาร่วมเป็นโปรดิวเซอร์ต่างคนต่างช่วยกันทำให้หนังดูสนุก แอ็กชันมัน เร้าใจ ฉากบู๊ดีไซน์ดี เรื่องนี้มาพล็อตจอนห์ วิคมีองค์กรร้ายเป็นกลุ่มมาเฟียเฮงซวยค้ามนุษย์ จริง ๆ พระเอกกูก็อยู่ของกูดี ๆ ไม่น่ามายุ่งกับกูเลยนี่แหละ 555 พล็อตหลักก็คือกูอยู่ของกูดี ๆ มายุ่งกับกูทำไม? เลยถูกล้างบางซะ แต่ก็ชอบตรงเขาช่วยนายจ้างเพราะนายจ้างเป็นคนดีเปรียบเหมือนครอบครัวเขาก็เลยไปตามช่วยลูกกลับมาให้ ตัวผู้หญิงที่พระเอกไปช่วยเล่นดีนะ เล่นบทบู๊ดี ชอบตรงที่แม้จะถูกจับเป็นตัวประกันไม่ใช่ช่วยตัวเองไม่ได้แต่นี่รู้จักช่วยตัวเอง อย่างตอนพระเอกเข้าไปช่วยก็ไม่ได้งอมืองอเท้าอย่างเดียว สู้เป็นมีบทบู๊ประกอบ เพื่อนเขาแม้จะตาบอดก็มาสนับสนุนดี สไตล์ฆ่ามาคนเดียวและชอบเสียงซาวน์ เฮียพี่สเตแธมบู๊สมราคา เรื่องก็ปิดในตัวภารกิจสมบูรณ์ จะสร้างก็ได้ไม่สร้างก็ได้ แต่ก็อยากดูนะ ติดให้ *** ครึ่ง

ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น พร้อมปล่อยภาพยนตร์เรื่องล่าสุด “4 ป่าช้า” โดย 4 ผู้กำกับอย่าง ไมค์-ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ, เต๋า-อดิเรก โพธิ์ทอง, วุ้น-ทรงศักดิ์ มงคลทอง และ เต๊ะ-ศตวรรษ เศรษฐกร ที่จะมาร่วมการันตีความสุดสยองพร้อมกระชากความผวาขึ้นจากหลุมกับ 4 เรื่องสยองจากป่าช้า 

          หนังผี 4 เรื่อง ที่เล่าเรื่องราวที่มี ป่าช้า สุสาน อยู่ในแต่ละตอนด้วย ซึ่งแต่ละตอนก็มาจาก แต่ละศาสนา ความเชื่อ ทำออกมาได้คละอารมณ์กันไป แต่ละตอนก็มีอารมณ์แต่ละแบบ นำเสนอเรื่องราวมิติใหม่ ๆ เกี่ยวกับ ปีศาจ ผี โลกหลังความตาย โลกความเชื่อ ทั้งใน ตอนแบบชาวมุสลิม ตอนแบบชาวคริสต์ ตอนแบบชาวพุทธ หลากหลายดี ยิ่งตอนที่ 3 และ 4 ที่มี นักแสดงวัยรุ่นและเด็กแสดงออกมาได้ดีเกินคาด รับส่งกันอย่างลงตัว ไม่แพ้ 4 เกลอ ในเรื่อง พี่มากพระโขนงเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าผลงานการแสดงแต่ละคนทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ ติดให้ *** ครึ่ง

        

  “NE ZHA 2 – นาจา 2” มาภาค 2 ก็กวาดรายได้ไม่น้อยหน้าภาคแรก เป็นอะนิเมชันร่วมกันของ ENCOR FILM ร่วมกับ วอร์เนอร์ บราเดอร์ส กำกับโดย เจี่ยวจือ (อวี๋ หยาง)

เป็นอะนิเมชันที่ต่อจาก นาจาภาคแรก โดยเรื่องราวเกี่ยวเนื่องกันมาเลย ถ้าได้ดู ภาคแรกมาก่อนก็จะเข้าใจที่มาที่ไปตั้งแต่เริ่ม หากแต่ไม่เคยดูก็สามารถเข้าใจเรื่องราวได้ไม่ยากเช่นกัน  ซึ่งเรื่องราวดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วไม่ยืดยาด มีฉากบู๊กับช่วงตลก เฮฮาสลับกันไปมาตลอด ทำให้ดูสนุกมาก ๆ ภาพทำออกมาได้สวยงาม ละเอียดละออ แทบทุกจุด การเคลื่อนไหวพริ้วดูเป็นธรรมชาติมากไม่ต่างจากภาคแรก ในส่วนเอฟ       เฟกต์ฉากปล่อยพลัง มนต์วิชาต่าง ๆ ดูสวยงามเนียนตา มาที่บทภาพยนตร์ยังทำได้ดีมาก ร้อยเรื่องราวที่มีความซับซ้อนหลายชั้นแต่หลอกล่อให้คนดูเข้าใจ ทั้งฝั่งตัวร้ายกับตัวเอกสลับไปมาได้อย่างกลมกล่อมเข้าใจ แม้เนื้อหาหนังยาวมากกว่า 2 ชั่วโมง ก็นั่งดูอย่างไม่รู้สึกนานเลย เพราะทำออกมาดูสนุกครบรสมาก ติดให้ **** ครึ่ง

“ฮาลาบาลา ป่าจิตหลุด”  นำแสดงโดย เต๋อ ฉันทวิชช์, ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ และ ปู แบล็คเฮด กับภารกิจของ “สารวัตรแดน” ตำรวจมือเก๋าที่มีฉายาเท่ ๆ “แดนร้อยศพ” (เต๋อ ฉันทวิชช์) ซึ่งได้รับภารกิจให้ตามล่าผู้ร้ายสุดโหดชื่อ “ตั๊บตาไฟ” (ปู แบล็คเฮด) หัวหน้าแก๊งที่หนีเข้าไปใน “ป่าฮาลาบาลา” ป่าลึกเขตต้องห้ามที่คนแถวนั้นต่างเล่าลือกันว่าเต็มไปด้วยความลี้ลับ แต่ยิ่งเข้าไปลึก…แดนก็เริ่มพบว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของคนร้ายอีกต่อไป เพราะสิ่งที่อยู่ในป่า มันเหมือน “มีชีวิต” และเริ่มกลืนกินจิตใจทุกคนที่เข้าไป

หนังผีปีศาจ ที่ทำมาเหมือนกระแสหนังฝรั่ง ที่มีวิญญาณร้ายสิงสถิตย์อยู่ในป่าลึกลับ แต่เรื่องนี้คนไทยสามารถทำได้ซับซ้อนกว่า เรื่องราวดูมีมิติ มีที่มาที่ไป แต่เนื้อเรื่อง บทภาพยนตร์ ดูซ้อนทับเหตุการณ์ไปมา มีบ้างชวนงงเหมือนกัน ถือว่าซับซ้อนพอสมควร ได้นักแสดงนำอย่าง เต๋อก็เล่นได้ดีมาก ๆ ดูจิตหลุด รวมถึงสีหน้าถ่ายทอดออกมาจนทำให้เข้าถึงและคล้อยตามสถานการณ์ไปด้วย นางเอก ณิชา ก็เล่นได้ดี อึดถึก ทน ในการหนีตายจริง ๆ ส่วนนักแสดงประกอบก็เล่นได้ตามบทบาท การทำ CG ปีศาจนั้นทำออกมาหลอนน่ากลัวมาก เน้นปีศาจ ปากและฟันแหลม ๆ ซับซ้อนหลายชั้น ชวนน่ากลัวสยดสยองมาก ยิ่งดูไปดูไปยิ่งหลอน จิตจะหลุดตามเรื่องจริง ๆ ติดให้ ***

“The Stone พระแท้ คนเก๊”  นำแสดงโดย จินเจษฎ์ วรรธนะสิน, กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ, อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี กำกับโดย อารักษ์ อมรศุภศิริ, วุฒิพงษ์ สุขะนินทร์

หนังที่ตั้งชื่อเรื่องได้ตรงเนื้อเรื่องเป๊ะ ๆ เพราะเล่าถึง วงการพระเครื่อง ที่มีเรื่องการชิงเหลี่ยมเฉือนคมกันอย่างถึงพริกถึงขิง บทภาพยนตร์ก็ดีเยี่ยม เรื่องราวมีที่มาที่ไป พลิกไปพลิกมา มิตรเป็นศัตรู ศัตรูเป็นมิตร การเดินเรื่องทำได้เข้มข้น มีการกระทำที่ทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึกได้อย่างชัดเจนและแรง นักแสดงทุกคนนั้นเล่นได้เยี่ยม ไม่บกพร่อง แสดงนิสัย ภาวะของตัวละครนั้นอย่างดี พระเครื่อง องค์แท้ คือ องค์ไหน ไม่มีให้สังเกตได้ ทำให้ตามไม่ทัน แต่ก็อาจจะเพื่อให้รู้สึกถึงอารมณ์ของพระเอก ที่ก็ดู งง ๆ แยกไม่ออกเหมือนกัน จุดเด่นตรงการเชือดเฉือนที่ผลัดกันโดน แต่อาจให้ความรู้เรื่องดูพระเครื่องน้อยหน่อย ทว่าคนที่สนใจพระเครื่องและชอบหนังหักเหลี่ยม น่าจะชื่นชอบ ติดให้ ****

“ซองแดงแต่งผี” ยังคงเดินหน้าสร้างกระแสความฮิตอย่างต่อเนื่อง จากค่ายหนัง GDH ร่วมมือกับ Billkin Entertainment และ PP Krit Entertainment  โดยผู้กำกับ โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล โปรดิวเซอร์ และ หมู ชยนพ บุญประกอบ ที่นำแสดงโดย บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ร่วมด้วย ปิยะมาศ โมนยะกุล, กระทิง ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์, บอลชอน ธนวัฒน์ เชี่ยวอร่าม ฯลฯ

​เป็นภาพยนตร์ค่าย GDH ที่นำเอาหนังไต้หวัน Marry My Dead Body มารีเมคใหม่ ซึ่งทำออกมาอย่างเข้ากับวัฒนธรรม วิถีชีวิตในไทยได้อย่างลงตัว และก็มีการใส่ สเน่ห์เฉพาะตัวของ GDH เข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นความตลกที่ทำออกมาตลกพอดี ลงจังหวะ หรือจังหวะดราม่าก็ทำให้เชื่อและอิน แต่ที่สำคัญ Feel Good ถึงขั้นที่ถ้าไม่รู้มาก่อนนึกว่า GDH คิดเนื้อเรื่องใหม่ขึ้นมาเองเลยนะ ถือเป็นหนังรีเมคที่ทำถึง ทำออกมาอย่างสมบูรณ์ แถมเติมอรรถรสได้ดียิ่งขึ้นด้วย ส่วนนักแสดงนำทั้ง บิ้วกิ้น และ พีพี ก็เล่นเข้าขากันดี ทั้งบทรับส่งกัน สำหรับพีพีอาจจะมีบ้างที่เหมือนยังทำได้ไม่สุดมีติดหล่อบ้าง แต่บิ้วกิ้นนั้นดูโดดเด่นกว่า เรียกว่าผลงานการแสดงได้โชว์ศักยภาพมากกว่า หลานม่า ยิ่งขึ้นไปอีก ผลงานระดับชิงรางวัลได้แน่นอน แม้มีหลุด ๆ บ้างก็ยังดูเป็นธรรมชาติไม่ติดหล่อเลยแต่ดูหล่อเอง ติดให้ *** ครึ่ง

M STUDIO ชวนหลอนปนสยองใน “PRESENCE เป็น อยู่ ตาย” จากค่ายหนังคุณภาพ NEON ผลงานล่าสุดจากผู้กำกับมากฝีมือ “สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก” ที่นำแสดงโดย ลูซี หลิว, จูเลีย ฟ็อกซ์, คริส ซัลลิแวน, คาลลินา เหลียง, เอ็ดดี้ มาเดย์ และ เวสต์ มัลฮอลแลนด์

หนังมุมมองแปลกใหม่ ที่ใช้มุมกล้อง เหมือนกับคนดูได้เห็นในมุมมองของ ‘ผี’ แต่ด้วยการที่กล้องถ่ายเวลามีการเคลื่อนไหวจะคล้ายคนถือกล้องสาดไปมาก็ชวนปวดตาอยู่นะ หรือเวลาเดินก็จะมีการเคลื่อนขึ้นลงตามจังหวะการเดิน ตรงจุดนี้ไม่ค่อยให้ความรู้สึกมุมมองผีเท่าไหร่ เพราะผีน่าจะแนวเดินแบบลอย ๆ แต่พอเดินแบบในหนังชวนให้รู้สึกเหมือนพวกถ้ำมองผสมกับเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เพียงแต่คนอื่นมองผีไม่เห็นเท่านั้น เรื่องราวของหนังเก็บรายละเอียดตัวละครได้ดี มีที่มาที่ไป นิสัยชัดเจน ผีในมุมมองที่คนดูได้เห็นมาแนวช่วยเหลือ ทำให้ดูไม่น่ากลัว อีกทั้งบรรยากาศก็ไม่ได้หลอนจะออกแนวอบอุ่นซะด้วยซ้ำ ตอนจบคลายปมทุกอย่างได้ชัดเจนดี ติดให้ ** ครึ่ง

“MICKEY 17”  เรื่องใหม่ล่าสุดจาก “บงจุนโฮ” ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเกาหลีใต้ดีกรีออสการ์ ที่เคยแจ้งเกิดระดับโลกจากเรื่อง Parasite กลับมาอีกครั้งในผลงานใหม่ ซึ่งได้คว้าตัว “โรเบิร์ต แพททินสัน” มารับบทนำในครั้งนี้

หนังที่ว่าด้วย มนุษย์แบบ ใช้แล้วทิ้ง เพื่อให้สามารถเข้าไปในพื้นที่อันตรายได้ รวมถึงการวิจัยผลข้างเคียง ปฎิกิริยาต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ รวมถึงการเอามาทดลองยา วัคซีนด้วย หน้าปกหนังชวนให้เข้าใจว่าไปทำสงคราม ถึงมีการก๊อปปี้ใส่ชุดพร้อมรบ หลาย ๆ ร่าง แต่ในเนื้อเรื่องสร้างขึ้นมาทีละร่าง โดยที่สามารถถ่ายโอนข้อมูล ความทรงจำ ร่างเก่า มาสู่ร่างใหม่ได้ด้วย จะมีเพียงแค่นิสัยใจคอที่แตกต่าง โดยเรื่องราวหลัก ๆ จะเป็นของ “มิกกี้ ร่างที่ 17”  ที่น่าจะไม่รอดแต่กลับรอดมาได้ ทำให้เรื่องราวต่าง ๆ ซับซ้อน ชุลมุน พาให้สนุกมากขึ้น เนื้อเรื่องมีกล่าวถึงร่างกายหลัก ๆ อยู่ 3 ร่าง คือ ร่างต้นฉบับ ร่างแรกตั้งแต่กำเนิด ร่างที่ 17 ที่เป็นตัวหลักของเรื่อง และร่างที่ 17 ก็มีจิตใจดี บุคลิกอ่อนโยน มีศีลธรรมเป็นที่ถูกใจของสาวที่เกี่ยวข้องต่างจากร่างที่ 18 จะก้าวร้าว หัวรุนแรง ฉลาดในการต่อสู้ แต่ไม่มีศีลธรรม รวม ๆ เนื้อเรื่อง บทภาพยนตร์ทำได้ดี สอดคล้องรับส่งเรื่องราวลงตัวตลอดทั้งเรื่อง สำหรับฉากต่าง ๆ ไม่ได้อลังการ ทว่าบรรยากาศเหมือนนั่งดูหนัง Star Wars ยุค 80 หน่อย ๆ แต่ที่ไม่ชอบตรงแทบไม่มีฉากต่อสู้เท่าไหร่ ต่างจากโปสเตอร์ที่ใส่ชุดพร้อมรบ ติดให้ ***  

Related posts