ถิ่นวัฒนธรรมทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ : พาไปรู้จักต้นลิ้นจี่2ต้นแรกเมื่อครั้งเป็นเมืองแม่กลองในอำเภออัมพวาจังหวัดสมุทรสงคราม

               ถิ่นวัฒนธรรมทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม,สุทนพาไปรู้จักจุดเริ่มต้นของสวนลิ้นจี่เมืองแม่กลอง เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้เดินทางท่องเที่ยวใน “สวนเกษตรย่านตำบลแควอ้อม-ถนนสายผลไม้” อําเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

              ในเส้นทางท่องเที่ยวถนนสายผลไม้วัดบางเกาะเทพศักดิ์ซึ่งครั้งนี้ในวันที่ 26เมษายน – 1 พฤษภาคม 2568 จะมีงานลิ้นจี่ที่ชาวสวนลิ้นจี่ในตำบลแควอ้อมนำผลผลิตของลิ้นจี่มาจำหน่ายให้ผู้ที่ชอบกินลิ้นจี่เมืองแม่กลองหรือจังหวัดสมุทรสงคราม ให้ได้เลือกซื้อผลไม้ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม ซึ่งปีนี้มีผลผลิตของลิ้นจี่มีมากจริง ๆ ประมาณ 3,500 ตัน เนื่องจากต้นปีอากาศหนาวก็เลยทำให้ต้นลิ้นจี่ออกดอกออกผลผลิตได้ดีทุกสวนที่ปลูกลิ้นจี่พันธุ์ค่อมมีหนามห่างสั้น ๆ เนื้อแห้งมีรสหวานตามธรรมชาติและกลิ่นลิ้นจี่หอมมาก ๆ ครับ

               สำหรับต้นลิ้นจี่เมืองแม่กลองหรือจังหวัดสมุทรสงครามมาจากไหนอาจเป็นคำถาม? ส่วนคำตอบแนะนำให้เข้าไปเยี่ยมชมได้ในสวนลิ้นจี่หมู่ 5 ตำบลแควอ้อม อําเภออัมพวา ในสวนนี้มีต้นพันธุ์ลิ้นจี่ 2 ต้น เรียกว่า “ต้นตาทวด” กับ “ต้นยายทวด” ถือเป็นจุดกำเนิดคำว่าพันธุ์ค่อมหรืออีค่อมและต้นลิ้นจี่ 2 ต้นนี้ มาจากไหนอะฮิ ๆ มีเรื่องราวของต้นลิ้นจี่เมืองแม่กลองน่าสนใจมากจริง ๆ ขอย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2397 ถ้าดูปี พ.ศ. ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์เมื่อครั้งกระโดดมี นายติ มีแก้วกุญชร ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหนังขอมหรือภาษาขอมท่านได้ไปสอนหนังสือหรือเรียกว่าจานหนังสือขอมในย่านตรอกจันทร์และวัดยานนาวาอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทุก วันนี้ติดกับถนนเจริญกรุงเขตยานนาวาเมื่อครั้งนั้น “นายติ มีแก้วกุญชร” ได้มากินข้าวในวัดยานนาวาเมื่อพระสงฆ์ฉันข้าวแล้วเสร็จปรากฏว่ามีผลลิ้นจี่อยู่ด้วยเข้าใจว่าชาวจีนในเรือสินค้าที่จอดเทียบท่าหน้าวัดยานนาวานำมาถวายพระสงฆ์ พอนายติ!!!ได้กินผลลิ้นจี่แล้วก็ถูกใจหรือคิดว่าผลไม้นี้แปลกดีจึงได้เก็บเมล็ดลิ้นจี่ไวัพอกลับมาบ้านตนเองในย่านคลองแควอ้อมจึงเอาเมล็ดลิ้นจี่ลงดินไว้ปรากฏว่า หลายปีต่อมาก็เริ่มเป็นต้นลิ้นจี่แรก ๆ ออกผลรสของลิ้นจี่ยังไม่ถูกใจ!!

               ต่อมาสันนิษฐานว่าต้นลิ้นจี่คงปรับเข้ากับพื้นดินหรืออากาศได้ดีอาจเป็นไปได้ทำให้รสชาติเริ่มดีขึ้นจึงได้ขยายพันธุ์ปลูกเพิ่มมากขึ้นนี่เองคือจุดเริ่มต้นการขยายพันธุ์ต้นลิ้นจี่!!! ทำไมถึงเรียกชื่อ “พันธุ์ค่อม” ขอเขียนเล่าเรื่องให้ฟังต่อเพราะว่าอำเภออัมพวาได้ประกวดผลไม้ในท้องถิ่นเมืองแม่กลองหรือจังหวัดสมุทรสงครามเมื่อครั้งนั้นมีชาวสวนเกษตรนำผลไม้ต่าง ๆ เข้าร่วมงานกันมากโดยเฉพาะผลไม้ลิ้นจี่บ้าน “นายติ มีแก้วกุญชร” เมื่อพิธีเริ่มคณะกรรมการเดินชิมผลไม้ต่าง ๆ จนแล้วเสร็จคณะกรรมการก็ตัดสินเพราะได้รสชาติผลไม้ถูกใจคือ “ลิ้นจี่” อะฮิ ๆ กรรมการได้ถามว่านี่ลิ้นจี่พันธุ์อะไร? เจ้าของสวนตอบว่าพันธุ์อีค่อมให้เหตุผลเพราะต้นลิ้นจี่ดั้งเดิมต้นเตี้ย ๆ ดูค่อม ๆ หรือเหมือนคนหลังค่อมจึงเรียก “พันธุ์อีค่อม” ฮ่า ๆ นี่เองคำตอบ!! ส่วนคณะกรรมการลงความเห็นว่าเรียก “พันธุ์อีค่อม” ฟังแล้วไม่เพราะก็ลงความเห็นให้เรียกว่า “ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม” สั้น ๆ แทนจ้า นี่เองที่มาของลิ้นจี่พันธุ์ค่อมของจังหวัดสมุทรสงครามมีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2397

               แน่นอนครับดินดี น้ำดีแล้วก็อากาศดีเป็นเหตุผลในปี พ.ศ. 2568 ทำให้มีผลผลิตลิ้นจี่ออกมากเยอะมาก ๆ ครับ สวนลิ้นจี่ในลุ่มน้ำคลองแควอ้อมสายน้ำที่ไหลกั้น 2 อำเภอคืออำเภออัมพวากับอำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ดังนั้นท่านผู้อ่านทุกท่านถ้าชอบกินลิ้นจี่เมืองแม่กลองไม่ควรพพลาดเดินทางไปเที่ยวได้ย่านถนนผลไม้หรือจะเข้าเส้นทางวัดบางเกาะเทพศักดิ์มากด้วยสวนลิ้นจี่หรือเข้าชมสวนลิ้นจี่ 200 ปี จุดต้นกำเนิดของลิ้นจี่พันธุ์ค่อมมี “ต้นตาทวดกับต้นยายทวด” ฮ่า ๆ ปีนี้มีผลผลิตเต็มต้นจริง ๆ

               ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับสำหรับคนชอบกินลิ้นจี่ต้องไปให้ได้ครับ เพราะไม่รู้ว่าปีหน้าจะออกไหม ปีนี้ออกมาเยอะต้องรีบไปกินให้ได้ครับ น่าจะมีไปถึงช่วงปลายเดือนเมษายนต้องรีบครับ “กินเที่ยวทั่วไทย เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป…กับ…ผมหนุ่ม-สุทน” แล้วฝากติดตามฟังรายการ “กินเที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์” ทางคลื่นข่าว fm 100.5 mhz ฟังเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ วิถีชุมชน วัฒนธรรมและอาหารถิ่นของชุมชนได้ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น.  ขอบคุณและสวัสดีครับ

พิกัด “ถนนสายผลไม้คลองแควอ้อม จ.สมุทรสงคราม”

เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์

แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/

#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น.

#ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ค #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel

Related posts