ผกก.ตม.จว.เลย จับต่างด้าวลาวหนีคดียิงคนลาวกันเอง หนีเข้าไทย ทำงานไม่ได้รับอนุญาต ส่งตัวกลับลาว แบล็คลิสต์ห้ามเข้าไทย

               สนองนโยบาย ผบ.ตร.และ ผบช.สตม. เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศไทย ผกก.ตม.จว.เลย พร้อมชุดปฎิบัติการสืบสวนปราบปรามสแกนพื้นที่รับผิดชอบ จับกุมต่างด้าวลาวหนีคดียิงคนลาวด้วยกัน และแอบเข้ามาหลบหนีพักพิงในไทย ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต โดนจับดำเนินคดี ขึ้นบัญชีแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศไทยอีกต่อไป และส่งตัวผลักดันกลับลาวตามความร่วมมือระหว่างไทย-ลาว     

               เมื่อวันที่ 17 พ.ย.66 พ.ต.อ.ชนะพณ สุวรรณศรีนนท์ เปิดเผยว่า ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.อิทธิพล  อิทธิสารรณชัย  ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาณุมาศ  บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ  นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิยะอนันต์  โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ  แสงเดือน  รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.มณุวัฒน์  กอสนาน รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.ชนะพณ สุวรรณศรีนนท์  ผกก.ตม.จว.เลย บก.ตม.4, พ.ต.ท.หญิง อารมณ์  ขวัญเนตร รอง ผกก.ตม.จว.เลย บก.ตม.4 มอบหมายให้ ว่าที่ พ.ต.ท.โสภณ  ศิลารัตน์  สว.ตม.จว.เลย บก.ตม.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปราม ตม.จว.เลย ผลักดันส่งกลับผู้ต้องหาคดีสำคัญตามความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมระหว่างประเทศ

               ราย Mr.L. (นามสมมุติ) ชาวลาว อายุ 35 ปี ซึ่งได้ก่อเหตุยิงราษฎรลาวด้วยกันที่ บ.คกงิ้ว เมืองสานะคาม แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ภายหลังก่อเหตุได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ทางจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว อ.ท่าลี่ จ.เลย ด้วยหนังสือเดินทางหมายเลข P2215676 ได้รับยกเว้นการตรวจลงตราประเภท ผผ.30 เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปราม ตม.จว.เลย ได้ทำการสืบสวนหาข่าวร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ทราบว่า Mr.L  เข้ามาทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดและดูแลสวนผัก ณ ร้านอาหารไม่มีเลขที่ พื้นที่ บ.หนองหญ้าไซ ม.9 ต.นาดินดำ อ.เมืองเลย จ.เลย จึงได้ร่วมกันวางแผนติดตามจับกุมตัว และสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2566 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวส่ง พงส.สภ.นาดินดำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และศาลจังหวัดเลยได้มีคำพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว จากนั้นได้รับการติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ขอความร่วมมือส่งตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวตามความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมระหว่างประเทศ จึงได้ดำเนินการผลักดันส่งกลับออกนอกราชอาณาจักรให้เจ้าหน้าที่ ตม.สปป.ลาว รับตัวไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว อ.ท่าลี่ จ.เลย