ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีอย่างล้นหลามทั้งจากสื่อมวลชนและผู้ชม สำหรับตำนานรักบ้านทุ่งสุดอมตะที่เคยโด่งดังจากในอดีต นำมาสู่ละครเวทีครั้งแรกในประเทศไทยอย่าง “มนต์รักลูกทุ่ง ทองกวาว เดอะมิวสิคัล” เรียกได้ว่าเป็นกระแสตอบรับตั้งแต่ก่อนแสดงแล้ว โดยทางโรงละครเคแบงก์ สยามพิฆเนศ ได้หยิบละครและภาพยนตร์ชื่อดังในอดีตที่ทุกคนต้องเคยรับชมอย่าง “มนต์รักลูกทุ่ง” นำมาทำเป็นละครเวที และก็ไม่ผิดคาดเพราะผลตอบรับที่พูดถึงต่อละครเวทีเรื่องนี้ยกให้เป็นละครเวทีที่สามารถสร้างความประทับใจจนทำให้ผู้ชมในโรงละครร้องเพลงตามได้ ตั้งแต่เพลง “มนต์รักลูกทุ่ง” , “สิบหมื่น” , “น้ำลงนกร้อง” , “รูปหล่อถมไป” นอกจากนี้ยังมีเพลงใหม่อีกมากมาย ที่ทำใหม่เพื่อสอดคล้องกับละครเวทีในครั้งนี้ และเพื่อให้เข้าใจในมุมมองใหม่ของผู้หญิงที่ชื่อ “ทองกวาว” ในแบบ “มนต์รักครั้งใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม”
จริง ๆ เปิดฉากมาด้วยความอลังการของแสงสีเสียงตระการตา พร้อมเหล่านักแสดงมาครบทีม ตั้งแต่ “เปา – เปาวลี พรพิมล” กับผลงานละครเวทีเรื่องแรก แต่ก็ทำได้ดีเยี่ยม ทั้งร้องทั้งเต้นและเสียงในแบบฉบับที่ยากที่ใครจะเลียนแบบ ด้าน “พี่คล้าว” รับบทโดย “ธัช กิตติธัช แก้วอุทัย” ผลงานการันตีจากแชมป์รายการเพลงเอกซีซั่น 1 กับความสามารถอีกด้านหันมาร้องเพลงลูกทุ่งแทนเพลงลูกกรุงที่ตัวเองถนัดได้เป็นอย่างดี แต่ที่สร้างสีสัน เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับผู้ชมได้ดีคงหนีไม่พ้นศิลปินเสียงดีจากเวทีเพลงเอก และศิลปินจากค่ายยุ้งข้าวเรคคอร์ด อาทิ “ซัน วงศธร” กับการสวมบทบาท “แว่น” นับเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีการเติมความพิเศษเข้าไปพร้อมโชว์ร้องลิเกที่ได้เรียบเรียงใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย ร่วมด้วย “ฟอร์ม ชลพิพรรธน์” กับบทของ “หมู่น้อย” แก๊งเพื่อนคล้าว ที่ออกมาทีไรก็เรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าแม่ยกได้ทั้งโรงละคร ถือว่าแปลกแหวกแนวในแบบมนต์รักครั้งใหม่ที่แตกต่างจากเดิม ส่วนเพื่อนนางเอกอย่าง “บุปผา” รับบทโดย “หมิว เขมจิรา” ออกมาแต่ละซีนสามารถสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชมได้ไม่แพ้กัน พร้อมกับโชว์พลังเสียงร้องที่การันตีจากรองแชมป์ไมค์ทองคำ 8 ไม่แปลกที่ใครหลายคนบอกว่า นี่เป็นจุดแจ้งเกิดของศิลปินจากค่ายยุ้งข้าวเรคคอร์ดได้ไม่ยาก…
นอกจากนี้ยังมี บทตัวร้ายอย่าง “เจิด” รับบทโดย “แบ็งค์ เฉลิมรัฐ” , “สายใจ” รับบทโดย “เอิงเอย ปภาวริญจ์” ที่เป็นตัวร้ายแต่แสดงได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู และตัวละครที่ดำเนินเรื่องอย่าง “โย่ง เชิญยิ้ม” และ “ไก่ อัญชุลีอร” ในบทบาทของ “พ่อทองก้อน” เป็นอีกสองศิลปินที่มีฝีมือซึ่งโชว์ทั้งความเก๋าบทเวทีเรื่องนี้ได้เข้าขากันดี สมแล้วที่ละครเวทีเรื่องนี้ ถูกจัดว่าเป็นละครเวทีที่สร้างความประทับใจ และไม่ควรพลาดชม สำหรับรอบการแสดงยังมีให้จับจองกันในรอบแสดงวันที่ 9 – 11 ธันวาคม 2566 ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 สยามสแควร์วัน
จับจองบัตรได้ที่ Thaiticketmajor โทร. 02 – 262 – 3456