สกู๊ปพิเศษ
โดย…ยอดเยาวพา
เชิญสัมผัส “บ้านทะเลดาว” สงบ ร่มรื่นเสมือนบ้านหลังที่สอง
ที่พัก “บ้านทะเลดาว” ประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบย่างเข้าไปเหมือนอยู่ในโลกการ์ตูนพวกสเมิร์ฟ หรือ คนแคระ น่ารัก ๆ ทางเดินคดเคี้ยวออกแบบร่มรื่น ยังรักษาต้นไม้เอาไว้ให้ความร่มรื่นเยอะมาก เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงสระว่ายน้ำและทะเล ถือว่าบ้านทะเลดาวเน้นความสงบ ร่มรื่น พนักงานทุกคนตั้งแต่ รปภ. พนักงานต้อนรับ พนักงานทำความสะอาด และพนักงานดูแลอาหารเช้าของแขกที่เข้าพัก ทุกคนพูดจาเพราะ ทั้งใส่ใจการดูแลด้วยรอยยิ้มอย่างกระตือรืนล้นทุกคน จากช่วงที่พักผ่อนก็จะเห็นพนักงานทำความสะอาดห้องพักทุกวัน เพื่อเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวแขก เพราะเปียกจากเล่นน้ำสระกัน หรือแม้แต่เห็นพนักงานเก็บวาดใบไม้ที่ร่วงไม่ให้รกตาแขกที่มาพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้มีสระน้ำและทะเลให้ความรื่นเริง หากผู้มาพักต้องการนวดฝ่าเท้า ทางเดินในรีสอร์ตมีนวดฝ่าเท้า ได้ลองเดินดูกดโดนจุดที่ทำให้รู้สึกหายตึงตั้งแต่เท้ายันเส้นประสาทในร่ากายเลย
แต่ที่สร้างความประทับใจในวันลอยกระทง น้ำทะเลลดลงจึงนำกระทงที่พนักงานรีสอร์ตนำมาให้แขกที่มาพักได้ไปลอยในทะเล หรือจุดที่ทางหัวหินจัดงานลอยกระทง เรากับแฟนก็มัวถ่ายรูปนานทำให้พนักงานต้องมาชะเง้อดูสองหน เพราะห่วงความปลอดภัยกลัวตกทะเลไป นี่คือความประทับใจที่พนักงานให้การดูแลแขกเสมือนญาติ เมื่อได้มาเยือนที่พักที่ชอบ ชอบมากจึงอยากสัมภาษณ์ผู้บริหารที่เนรมิตรีสอร์ตแห่งนี้ รวมถึงบรรยากาศบ้านทะเลดาวให้สวยงาม ร่มรื่นเสมือนบ้านหลังที่สอง จนคิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปพักอีก ครั้งนี้ได้ขอสัมภาษณ์ “นายอุดม ศรีมหาโชตะ” กรรมการบริหาร “บ้านทะเลดาว” และกรรมการและประธานฝ่ายสิ่งแวดล้อม สมาคมโรงแรมไทย อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก ที่สละเวลาให้สัมภาษณ์ถึงธุรกิจรีสอร์ตสวยงามนี้ว่า
“บ้านทะเลดาว เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2547 ซึ่งเกือบยี่สิบปีแล้ว โดยสถานที่พักรีสอร์ตแห่งนี้เกิดจากการต้องการสร้างขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวศรีมหาโชตะ ที่นำบ้านพักตากอากาศสมัยก่อนของครอบครัว (ซึ่งปัจจุบันคือ Club House ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี) มาปรับปรุงและสร้างที่พักเพิ่มขึ้นมาเป็นบูติด รีสอร์ตขนาด 32 ห้อง บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่กว่าริมทะเลหัวหิน ที่สวยงามและเงียบสงบ โดยจากความคิดของพี่น้องทั้งหมด 9 คนที่จะสืบทอดเจตนารมย์และแรงบันดาลใจของคุณพ่อคุณแม่ ด้วยการสร้างและพัฒนาที่ดินผืนนี้ที่เป็นที่รักของคุณพ่อคุณแม่ให้ผู้คนได้เข้ามาเยี่ยมเยือน ทักทาย พักผ่อนด้วยบรรยากาศของสวนป่าริมทะเล และใส่ใจดูแลรักษาธรรมชาติ ด้วยการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดำเนินธุรกิจด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตลอดไป และส่งต่อให้กับลูกหลานและเหลนต่อไปในอนาคตที่ปัจจุบันนี้มีมากกว่า 25 คน
ด้วยการที่บ้านทะเลดาวบริหารแบบธุรกิจครอบครัว และการแข่งขันอย่างสูงมากของด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม ทางผู้บริหารจึงใช้วิธีการพัฒนาบุคลากรและการบริการให้ได้คุณภาพ ให้เกิดความประทับใจเหมือนมาพักบ้านหลังที่สองของลูกค้าผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทางรีสอร์ตจึงได้เข้ารับการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ และรางวัลมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจากการเรียนรู้จากประสบการณ์ และการชี้แนะของผู้ทรงคุณวุฒิที่เข้ามาตรวจมาตรฐานต่าง ๆ เพื่อที่จะได้แข่งขันกับโรงแรมที่เป็น International Chain ต่างประเทศได้ โดยบ้านทะเลดาวได้รับรองมาตรฐาน และรางวัลต่าง ๆ ที่เชิดชูเกียรติให้กับทางพนักงาน เช่น ได้รับรางวัลดีเด่น (Silver) สำหรับที่พักโรงแรมน้อยกว่า 80 ห้องของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (รางวัลกินรี) ตั้งแต่ครั้งที่ 8 ติดต่อกันมาจนถึงครั้งที่ิ 14 ที่เพิ่งได้รับมาเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 รวมถึงรางวัลพิเศษในโอกาสการจัดประกวดรางวัลครั้งพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองรัชกาลที่ 9 ครองราชย์ 60 ปีด้วย
นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลเกี่ยวข้องกับการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย Green Hotel Gold Certificate อย่างต่อเนื่องมา 3 ครั้ง จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม, Greenleaf ระดับ 3 ใบไม้ จากมูลนิธิใบไม้เขียว, ASEAN Green Hotel 4 ครั้ง จากกรมการท่องเที่ยว, มาตรฐานที่พักระดับ 3 ดาว ติดต่อกันมาถึง 7 ครั้ง ของกรมการท่องเที่ยว, มาตรฐาน SHA และ TAT Star จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ Travelife Gold Certificate 2 ครั้ง ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศทางยุโรป ที่เป็นความต้องการของลูกค้าทางยุโรป
นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการของรีสอร์ตจะเป็นชาวไทยประมาณ 60% และชาวยุโรป 40% จะเป็นกลุ่มลูกค้าแบบครอบครัว และลูกค้าผู้สูงวัยเป็นส่วนใหญ่ จากการที่ทั้งผู้บริหารและพนักงานมีแนวความคิดในเรื่องของการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนของการท่องเที่ยว จะส่งเสริมและสนับสนุนการจ้างงานและการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นคนท้องถิ่นและสนับสนุนให้คนท้องถิ่นได้มีรายได้จากการท่องเที่ยว รีสอร์ตยังเป็นสถานที่ให้สำหรับหน่วยงานต่าง ๆ และผู้ประกอบการโรงแรม ตลอดจนนักเรียนนักศึกษาได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ถึงการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเรียนรู้ด้านการปลูกพืชผักสวนครัว ที่ไม่ใช้สารเคมีในการปลูก ในสวนรักษ์ทะเล ของบ้านทะเลดาวที่นำผลผลิตมาใช้ประกอบอาหารบริการให้ลูกค้าที่มาพัก หรือลูกค้าสามารถเดินเข้ามาดูและเก็บผลผลิตจากแปลงผักนำไปปรุงอาหารได้ครับ
นอกจากนี้ทางบ้านทะเลดาวยังส่งเสริมเรื่องศิลปะวัฒนธรรมประเพณี โดยเฉพาะลูกค้า สามารถทำบุญตักบาตรให้แด่พระสงฆ์ ที่ท่านเดินบิณฑบาตในยามเช้าบนชายหาดหัวหินที่สะอาดสวยงาม ในช่วงเวลาที่น้ำทะเลลดลงในตอนเช้า (ประมาณ 9 เดือน) รวมถึงร่วมช่วยในการอนุรักษ์สัตว์ป่า สัตว์น้ำ และพรรณพืชพื้นถิ่นต่าง ๆ ด้วยการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าที่สนใจไปร่วมการปล่อยลูกปูม้า และลูกสัตว์น้ำต่าง ๆ กลับลงสู่ท้องทะเลที่ทางชุมชนหมู่บ้านเขาตะเกียบจะมีการจัดกิจกรรมในทุก ๆ วันด้วย (ในช่วงที่ไม่มีคลื่นลมแรง) ตลอดจนลูกค้าหรือผู้สนใจที่จะนำเอาต้นกล้า หรือเมล็ดพรรณไม้ภายในรีสอร์ตสามารถขอกลับไปปลูกที่บ้านได้ เช่น ต้นพยอม ต้นมะค่าแต้ ที่ทางรีสอร์ตจะมีการเพาะเมล็ดพรรณไว้ในทุก ๆ ปี เราเองก็ได้ขอชบาสีชมพูกลับไปปลูกเช่นกัน
ในช่วงวิกฤตโควิดแพร่ระบาดนั้นทางผู้บริหารไม่ได้มีการจ้างพนักงานออกเลยครับ ยังคงดูแลพนักงานทั้งหมดเกือบ 30 ชีวิตไว้ เพราะพนักงานเปรียบเสมือนคนในครอบครัวของบ้านทะเลดาวที่จะต้องคอยดูแล เอาใจใส่ให้พวกเขาได้มีความสุขจากการทำงาน โดยขอความร่วมมือพนักงานช่วยกันซ่อมแซม ปรับปรุง ทาสี จัดสวน ในงานต่าง ๆ ของรีสอร์ตช่วงที่ไม่มีลูกค้า หรือถูกสั่งให้ปิดกิจการชั่วคราว ในช่วงเวลาที่แสนเหนื่อยยากเกือบสามปีที่ผ่านมานั้น ก็ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐในการสนับสนุนเงินทุนสินเชื่อ Softloan จากธนาคารแห่งประเทศไทย และการสนับสนุนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จากทางกระทรวงท่องเที่ยวฯ ซึ่งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ถือว่าเป็นการช่วยเหลือได้อย่างดีมาก ๆ เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้คนไทยสามารถมาท่องเที่ยวด้วยส่วนลดพิเศษถึง40% เลย ถึงแม้ในขณะนี้การท่องเที่ยวยังไม่ได้ฟื้นตัวกลับมาเหมือนปกติ แต่ในฐานะผู้ประกอบการท่องเที่ยวและโรงแรม SMEs ก็ยังอยากให้ทางภาครัฐเล็งเห็นถึงการช่วยเหลือและสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เหมือนในช่วงวิกฤตต่อไป โดยเฉพาะการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำพิเศษ และโครงการเราเที่ยวด้วยกันต่อไปอีกสักพัก เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถกลับมาต่อสู้และแข่งขันในธุรกิจต่อไปได้ครับ”
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดที่พักและราคาพิเศษได้ที่รีสอร์ต โทร : 081-751-8638, 032-56024, สำนักงานกรุงเทพฯ โทร 081-821-5438, 02-751-6854
หรือติดต่อทาง Line : @baantalaydao
Facebook : https://www.Facebook.com/baantalaydao
Website : www.baantalaydao.com