ชื่อของ “แจ๋ว-เกศแก้ว ชิณะวงศ์” ในแวดวงคนทำงานสื่อบันเทิง น่าจะคุ้ยเคยกันดี ในฐานะที่คร่ำหวดอยู่ในสายงานเบื้องหลัง เป็นหนึ่งในทีมประชาสัมพันธ์ของค่ายเพลงดัง และต่อมาอีกหลายบริษัท เรียกว่าผ่านงานโปรโมทมาแล้วทั้งเพลง , ภาพยนตร์ , ละคร , รายการโทรทัศน์ ก่อนจะผันตัวเองมารับงานฟรีแลนซ์ ซึ่งก็ยังคงคาบเกี่ยวกับสายงานเดิมอยู่นั่นเองแต่วันนี้ เราไม่ได้พูดคุยกับเธอในฐานะนักประชาสัมพันธ์ เพราะบทบาทหน้าที่ที่พาให้เราได้มาคุยกัน คือในฐานะของเจ้าของโฮมลอดจ์ “เฮือนคำปุ๋ย” จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นการบูรณะบ้านหลังเดิมที่เธอเคยพิงพักอาศัย และบรรจุความทรงจำในวัยเยาว์ไว้มากมาย เปิดเป็นบ้านพักสำหรับรับรองแขกผู้มาเยือน
แจ๋ว เล่าย้อนให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นในการผันตัวเองมาสวมหมวกอีกหนึ่งใบ นอกเหนือจากการทำงานในวงการบันเทิงที่ผูกพันยาวนานมากว่า 30 ปี ว่า“เริ่มจากช่วงโควิด ที่ทุกคนกระทบหมด ก็เลยเริ่มคิดว่าเราต้องปรับตัวเองอย่างหนัก พอดีตอนนั้นบ้าน ที่ จ.น่านว่างอยู่ ซึ่งทำเลดีมากๆ อยู่ใจกลางเมือง จึงคิดจะทำเป็นบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว อีกอย่างเราก็ยังมีภาพความทรงจำดีๆ ของครอบครัว ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นภายในบ้านหลังนี้ และยังอยากจะเห็นภาพนั้นอยู่อีก จึงวางคอนเซ็ปท์ไว้ว่า อยากปรับปรุงบ้านไว้ว่าจะรับแขกที่มาเยือนเป็นกลุ่มเป็นก๊วน เช่นกลุ่มเพื่อน กลุ่มองค์กรเล็กๆ กลุ่มครอบครัว กลุ่มวัยเกษียณ ฯลฯ”
จากแนวความคิด ก็เริ่มลงมือค่อยๆ ทำ ทีละเล็ก ทีละน้อย จนบ้านในความทรงจำ ที่เคยถูกทิ้งว่างไว้ กลับมางดงามอีกครั้ง“เราก็เริ่มออกแบบตกแต่งบ้าน น้องชายก็มาช่วยเปลี่ยนระบบไฟระบบน้ำทั้งหมด น้าชายก็ช่วยทำประตูสวิงหน้าบ้าน ทำเก้าอี้นั่งหลังบ้าน ส่วนเราก็ทาสีบ้าน ทาสีรั้วเอง และบริหารจัดการดูแลที่เหลือ ทั้งซื้อวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ ในบ้าน นอกบ้าน ทำลานสวนหลังบ้าน ให้ช่างมาทำรั้วบ้านและศาลาฟ้าใส นั่งได้หลายคน สำหรับสังสรรค์ มีมุมจิบกาแฟหลายๆ มุม เพื่อให้แขกที่มาพักรู้สึกมีความสุข อบอุ่น สะดวก สบาย ปลอดภัย เหมือนบ้านหลังที่ 2 ของผู้มาเยือน”แม้แต่ชื่อบ้าน “เฮือนคำปุ๋ย” ก็ตั้งขึ้นตามชื่อของคุณแม่ของเธอนั่นเอง “คุณแม่เป็นคนน่านโดยกำเนิด นอกจากนี้เราได้รับความช่วยเหลือจากพี่ๆ เพื่อนๆ หลายคนในวงการบันเทิง ต้องขอบคุณมากๆ รวมถึง แหม่ม พัชริดา (แหม่ม สาวสาวสาว) ที่ได้วาดแผนที่ ออกมาแบบน่ารักมากๆ และ”เฮือนคำปุ๋ย” ก็พร้อม!เปิดบริการวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ปีที่ผ่านมา”
“เฮือนคำปุ๋ย” มีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว มีระเบียงหน้าบ้าน มุมจิบกาแฟใต้ต้นไม้หน้าบ้าน และลานสวนหลังบ้าน มีศาลาฟ้าใส ที่ปูหลังคาด้วยแผ่นใส สำหรับชมพระจันทร์ในยามค่ำคืน มีกระโจมสำหรับเด็ก ที่โรงจอดรถหลังบ้านจอดได้ 2 คัน ทั้งยังมีเครื่องอำนวยความสะดวกของแต่ละส่วน ที่จัดสรรไว้อย่างครบครับ “ห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ก็จะมีแอร์ทุกห้อง มีไดร์เป่าผม ส่วนห้องน้ำจะเป็นแบบชาวเวอร์ มีเครื่องทำน้ำอุ่น มีของใช้ หมวกคลุมผม สบู่ แชมพู ครีมนวด ให้ ห้องนั่งเล่นก็มีโซฟา ทีวี 50 นิ้ว ส่วนห้องครัว ก็มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว ที่สามารถประกอบอาหารทานกันได้ มีเครื่องดริปกาแฟ เครื่องต้มกาแฟ มีอินเตอร์เน็ต มีถังดับเพลิง ส่วนภายนอกบ้านติดตั้งกล้องวงจรปิด 2 ตัว เพื่อความปลอดภัย รวมพื้นที่ทั้งหมดเกือบ 100 ตารางวา คืออยู่กัน 6-9 คนแบบสบายๆ อีกทั้งทุกพื้นที่ในบ้าน ยังอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ อย่างเช่นในห้องน้ำ หรือตามบันไดเล่นระดับในบ้าน จะมีราวสแตนเลสให้จับด้วย เพราะเราคำนึงนึงความปลอดภัยของผู้พักอาศัยเป็นสำคัญค่ะ”นอกเหนือจากความครบครัน ที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเสมือนอยู่ในบ้านของตัวเองแล้ว
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของที่พัก ก็คือทำเล“จุดเด่นที่ดีที่สุดคือ ทำเลดีมากๆ ถือว่าเป็นจุดทำเลทอง อยู่ใจกลางเมือง แนะนำให้จอดรถไว้ที่บ้าน แล้วเดินเที่ยวได้แบบสบายๆ เดินเลี้ยวซ้ายออกจากบ้าน 100-200 เมตร ก็จะถึงสถานที่ท่องเที่ยวเช่น วัดช้างค้ำฯ วัดกู่คำ วัดภูมินทร์ (ปู่ม่านย่าม่าน) ถนนคนเดิน (ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์) สถานที่บริการนักท่องเที่ยว สถานีรถรางชมเมือง ซุ้มลีลาวดี พิพิทธภัณฑ์ฯ คุ้มเจ้าราชบุตร ฯลฯ ถ้าเดินเลี้ยวขวาออกจากบ้านประมาณ 300 เมตร ก็จะเจอตลาดสดเป็นตลาดใหญ่ในเมืองน่าน คือตลาดตั้งจิตนุสรณ์ (เช้า) ตลาดศรีคำ (เย็น) มีผัก ผลไม้ ขนม อาหารพื้นเมืองทุกชนิดของ จ.น่าน ซื้อมาทำอาหาร หรือมาทานที่บ้านได้เลย ส่วนสายสุขภาพ ก็มีสวนสาธารณะ ชื่อสวนศรีเมือง ให้เดิน-วิ่งออกกำลังกาย ห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตรค่ะ”
ผ่านมาถึงวันนี้ “เฮือนคำปุ๋ย” ก็เปิดให้บริการสำหรับผู้มาเยือนครบ 1 ปีเต็มแล้ว และมีผลตอบรับที่น่าพอใจระดับหนึ่งเลยทีเดียว“เพราะของเราจะไม่แมสมากเท่าไหร่ เน้นการพักแบบเป็นกลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อน กลุ่มวัยเกษียณสำราญ หรือกลุ่มองค์กรเล็กๆ พักทั้งหลังได้ 6-9 ท่าน เราให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวและผู้สูงอายุ คืออยากจะเห็นภาพแม่พาลูกๆเดินไปตลาดแล้วซื้ออาหารมาทานที่บ้านร่วมกัน นั่งดื่มคุยหยอกล้อกันในครอบครัว ปู่ย่า ตายาย พ่อ แม่ ลูก หลาน ซึ่งเราก็เห็นภาพนั้นจริงๆ เป็นภาพที่มองแล้วอบอุ่นหัวใจมากๆ ค่ะ ส่วนกลุ่มเพื่อนๆ กลุ่มองค์กร หรือกลุ่มวัยเกษียณสำราญ อันนี้ก็จะสนุกสนานมากๆ ถือว่าการมาเที่ยวและมาพักบ้านหลังเดียวกัน เป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีและเหนียวแน่นกันมากขึ้น หลายกลุ่มที่มาพักส่วนมากก็จะพึงพอใจ อันดับ 1 คือ ความสะดวก ทำเลดีมากๆ ถือว่าเป็นทำเลทอง เดินแป๊บเดียวถึงถนนคนเดิน สถานที่ท่องเที่ยว จุดแลนด์มาร์คของตัวเมืองน่าน และเดินไปซื้อของที่ตลาดสดใกล้มาก อันดับ 2 ความสะอาด เช่น เครื่องนอนสะอาด ที่นอนนอนสบาย ผ้าเช็ดตัวหนานุ่มผืนใหญ่ดี สบู่เหลวหอมมาก อาบน้ำแล้วหอมติดตัว บ้านสะอาด อันดับ 3 ความสบายในการใช้ชีวิตในบ้าน พื้นที่กว้างและส่วนตัว ทำให้มีความสุขในการดื่มพูดคุยสนุกสนาน และมีที่ให้จอดรถ อันดับ 4 ความปลอดภัย ภายนอกบ้านเราจะมีกล้องวงจรปิด 2 ตัว มีถังดับเพลิง รวมถึงข้างบ้าน เป็นหน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยน่าน อันนี้ปลอดภัยในชีวิตแน่นอน มีเหตุการณ์ฉุกเฉิน โทรฯเรียก 1669 จะมาแบบรวดเร็วเลยค่ะ”
จากงานในสายประชาสัมพันธ์ ที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับทั้งศิลปิน นักแสดง ในสังกัด รวมถึงสื่อมวลชนจากสำนักต่างๆ พอผันตัวเองมาทำธุรกิจเกสต์เฮ้าส์ อาจจะดูเหมือนเพียงแค่ปรับเปลี่ยนมาอำนวยความสะดวกให้กับผู้พักอาศัยแทน แต่ในความเป็นจริง ก็มีสิ่งที่จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกไม่น้อย“ด้วยอาชีพประชาสัมพันธ์ เราได้ทำงานกับสื่อมวลชนและคนจำนวนมากมาตลอด เลยไม่ค่อยมีปัญหาในการดูแล การพูดคุย และจิตใจเราก็พร้อมที่ให้บริการอยู่แล้ว แต่มีการเรียนรู้ที่เยอะมากค่ะ เช่นควรต้องเตรียมอะไรให้แขกที่พักได้รับรู้ได้มากที่สุด เราก็ไปติดต่อ ททท.น่านเพื่อขอแผ่นพับ สถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลดีมาก ปริ้นท์คิวอาร์โค้ดท่องเที่ยวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้ แล้วเราก็ต้องทำสมุดสำหรับแขกที่มาพักทั้ง 2 ภาษาด้วยว่า ภายในระยะทาง 100-300 เมตร จะเจอสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง แนะนำร้านกาแฟ ร้านอาหารที่อร่อย พร้อมกฎระเบียบของบ้านพัก เบอร์โทร ที่สำคัญ ในบ้านต้องมี ยาสามัญประจำบ้าน ถังดับเพลิง ฯลฯ พอเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยในบ้าน เราต้องไปที่อำเภอ เพื่อยื่นจดทะเบียนสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม แล้วเค้าก็จะมาตรวจสอบว่าที่พักเราผ่านกฎระเบียบที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งทาง ”เฮือนคำปุ๋ย” ก็ผ่าน พร้อมได้ใบ “แบบหนังสือรับแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม” จัดใส่กรอบไว้เลย คนมาพักจะได้รู้ว่าที่พักเราผ่านเกณฑ์มาตราฐาน นอกจากนี้เราก็ไปอบรมหลักสูตร ”เจ้าบ้านที่ดี” กับททท.เพื่อจะได้ดูแล อำนวยความสะดวกให้กับแขกที่มาพักได้มากที่สุด อันนี้สำคัญมาก คือถ้ามีชาวต่างชาติมาพัก เราต้องแจ้ง ตม.น่าน ภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมยื่นสำเนาพาสปอร์ตของแขกที่มาพักทุกคน อันนี้จะทำให้แขกที่มาพักรู้สึกดีและปลอดภัยกับสถานที่พัก และมีภาครัฐได้รับรู้ดูแลเขาเมื่อมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น และเราเจ้าบ้านก็รู้สึกสบายใจด้วย”แหละ….
เมื่อถามถึงโครงการในอนาคต ทั้งของตัวเอง และของ “เฮือนคำปุ๋ย” ก็ได้คำตอบว่า“สำหรับ “เฮือนคำปุ๋ย” คิดว่าถ้าตัวเองได้กลับมาอยู่ที่น่านแบบสมบูรณ์แบบ ในฤดูท่องเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวและฤดูหนาว 3-4 เดือน ก็เปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวตามปกติ แต่พอช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน ก็อยากพื้นใช้ที่ลานสวนหลังบ้าน และพื้นที่จอดรถ เป็นสถานที่เรียนรู้ เช่น สอนการทำขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นบ้าน การถักทอ จักสาน หรืออะไรที่เกี่ยวกับพื้นบ้านของ จ.น่าน เพื่อเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ อันนี้ที่คิดเอาไว้ และอยากจะทำค่ะ เราเกิดที่นี่ และมีความสำนึกรักษ์บ้านเกิด เราเห็นว่าอาหาร ขนมพื้นเมืองของน่าน อร่อยๆ มากมายและมีหลายเมนูที่หลายๆ ท่าน อาจจะยังไม่เคยได้ทาน เราก็จะมีคนเก่าแก่ดั้งเดิมใน จ.น่านมาสอนทำ”
แจ๋ว ทิ้งท้ายด้วยการกล่าวเชิญชวนให้ผู้ที่ตั้งใจจะมาท่องเที่ยวที่เมืองน่าน ลองมาสัมผัสบรรยากาศบ้านหลังที่ 2 ที่ “เฮือนคำปุ๋ย” “สำหรับท่านที่จะมาเที่ยว จ.น่าน และต้องการพักในตัวเมืองน่าน มาเป็นกลุ่มเป็นก๊วนแบบเพื่อน องค์กร ครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นวัยเกษียณสำราญ ผู้สูงอายุ หรือเด็กๆ ที่ “เฮือนคำปุ๋ย” ยินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความรักและความอบอุ่นใจ ทุกท่านจะได้พักผ่อนแบบส่วนตัว มีความสุข สะดวก สบาย อยากให้มาเที่ยวน่านกันเยอะๆ ค่ะ”
สนใจที่พัก ติดต่อ เบอร์โทรฯ 081-875-2217 หรือ www.facebook.com/KumpuiHome ยินดีต้อนรับทุกๆท่านที่มาเยือน “เฮือนคำปุ๋ย” นะคะ