เสียงประชันระนาดเอกอันก้องกังวานสะกดใจ ภายในหอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นี่ถือเป็นโชว์การแสดงครั้งแรกของลูกศิษย์ครูปอง ณรงค์ โตสง่า เจ้าสำนักปี่พาทย์โตสง่า หรือที่คนไทยรู้จักในนาม “ขุนอิน”
คือ “ขุนอิน” ตัวเอกในภาพยนตร์อมตะอันอุโฆตของเมืองไทย “โหมโรง” จากผลงานการสร้างของสหมงคลฟิล์ม เรื่องราวเนื้อหาของ “ระนาดเอก” เครื่องดนตรีไทย ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประวัติของหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
“โหมโรง” กำกับภาพยนตร์โดย อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์ เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าหน้าหนัง Mood & Tone อารมณ์ความรู้สึก และความทุ่มเทของตัวนักแสดง โดยเฉพาะ โอ อนุชิต สพันธุ์พงษ์ ที่ขอฝึกตีระนาดเอกเอง เพื่อที่จะได้ซึมซับศาสตร์ศิลป์ “ระนาดเอก” บทภาพยนตร์ ภาพดนตรีประกอบรวมหล่อหลอมแม้จะดีเลิศแค่ไหน?
หลังรอบปฐมทัศน์ และเปิดรอบฉายในช่วงแรกกับไม่ได้รับความนิยม ส่วนหนึ่งธีม ของหนังอนุรักษ์นิยม สวนทางกับกระแสแห่ชื่นชมวัฒนธรรมต่างชาติของคนไทย และเยาวชนในยุคนั้น
ว่าไปแล้วหากไม่มีฉาก “ไอ้เทิด” รับบทโดยภูวฤทธิ์ พุ่มพวง ไปต่อยหน้า พันโทวีระ ที่รับบทโดย พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง จนจุดกระแสเขื้อไฟในเว็ปไซต์พันทิป ว่า “ต่อยหมัดเดียวมันน้อยไป”
และคอมเม้นท์ต่างๆ ของผู้คนส่วนใหญ่ที่ไปรับชมภาพยนตร์แล้วเกิดอาการอึดอัด กอปร แสลงใจในคำว่า “อารยะ” ของคนภาครัฐ
ไฟที่ลุกฮือ! ในพันทิปหนัง “โหมโรง” สร้างปรากฏการณ์ จากที่กำลังจะปิดม่านม้วนเสื่อ คนไทยแห่ไปชมมากจนต้องเพิ่มรอบฉายไปร่วม 5-6 เดือน
“เป็นอารยะโดยลืมรากเหง้าของตนอย่างนั้นหรือ ต้นไม้จะเติบใหญ่แข็งแกร่งได้อย่างไร ถ้าไร้ซึ่งรากเหง้าที่ลึกหยั่งดิน”
ไดอะล็อคคำพูดที่ติดหู ของครูศร หลวงประดิษฐไพเราะ รับบทโดย อดุลย์ ดุลยรัตน์ และเป็นที่มาเพลง “แสนคนึง” ฉากตีระนาดไล่ส่ง พันโทวีระ เรียกน้ำตาคนดู ให้หวงแหนรากเหง้าของความเป็นไทย
เอาล่ะ! เวลาล่วงเลยมาถึง 20 ปี แต่ “ระนาดเอก” หรือ ปี่พาทย์ดนตรีไทย ก็ยังจมปลักแค่ “โหมโรง” ม่าน-ฉาก-บาท-องก์ ยังแช่นิ่งไม่ก้าวข้าม “แอ๊คชั่น”
ยิ่งผมได้รับฟังจากปาก ครูปู บุญสร้าง เรืองนนท์ มือระนาดแห่งกรมศิลปากร ศิษย์เอกของครูประสิทธิ์ ถาวร พูดว่า
“ทุกวันนี้ปี่พาทย์ดนตรีไทย วัดยังไม่เอาเลย มันหนวกหู แต่พอรถแห่ดนตรีฝรั่ง วิ่งหน้าตั้งเต้นรำเป็นผีเข้า”
เฮ้อ! มาเข้าเรื่องเลย กับโครงการ “ตามรอยขุนอิน 20 ปี โหมโรง” อ.ปอง หรือ ขุนอิน ท่านได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวการประกวดเดี่ยวระนาดสุด ชิงเงินรางวัล 100,000 บาท ไปแล้ว!
อ.ปอง ท่านเปลี่ยนชื่อไปใช้ ขุนอิน ณรงค์ โตสง่า ตำแหน่งผู้บริหาร บริษัทขุนอิน โชว์ จำกัด ท่านอยากร่วมระลึกถึง 20 ปีโหมโรง ที่ท่านผูกพันและกลายเป็นที่รู้จักของคนไทย ในฝีมือเดี่ยวระนาด เมื่อท่านตีระนาดเก่ง เลยยกระดับจัดการประกวด “ระนาด” กระตุ้นให้เยาวชนที่รักตีระนาดได้มีการตื่นตัว
จัดทั้งทีต้องไม่ธรรมดา อ.ปอง มุ่งหวังให้ “ระนาด” แพร่ขยายในวงกว้างในแบบ “ซอล์ฟพาวเวอร์” เหมือนกระแส “มวยไทย” ทุ่มรางวัลเงินแสนที่ตัวเองต้องควักกระเป๋า แถมใจกว้างไม่เรียกเก็บค่าสมัคร
ถ้วยรางวัลชนะเลิศ ท่านยังดีไซน์ให้เป็น “เข็มขัดเเชมป์” เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวงการดนตรีไทย
แลดู! เป็นสัมพันธ์ มือที่หุ้มกำ จะสะบัด สะเดาะ ไหว รัว คาบลูกคาบดอก ล้วนมีเป้าหมาย เชิงหมัดหนักปานภูผา ฤา ลีลาลิ่วพระพาย มือที่หุ้มกำ ล้วนกำหนด
โครงการ 20 ปี โหมโรง ประกวดประชันระนาดเอก โชคดีที่นักธุรกิจใจบุญคุณวีระพล มงคลพูนเกษม ผู้บริหาร เคเค ริเวอร์ไซด์รีสอร์ท และคุณประณัย สายชมภู กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท ขอสนับสนุนเงินรางวัล
แถมยังให้สถานที่จัดแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ในระหว่างวันที่ 6 เมษายนนี ณ KK Riverside Resort แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
ส่วนกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เขาสนับสนุนแค่สถานที่จัดงานแถลงข่าว ย้ำอีกครั้งแค่สถานที่ล้วนๆ
วันแถลงข่าว นอกจากโอ อนุชิต จะไปร่วมงานโดยไม่รับค่าตัวแล้ว “ไอ้เทิด” ว่าน ภูวฤทธิ์ ก็ไปและขอไม่รับเงินค่าตัวเช่นกัน!
“ไอ้เทิด” เอ๊ย! แค่ตอนนั้น คุณ “กำหมัด” แล้ว “เปิดฉาก” (สักตุ๊บ) กับ คนรัฐอารยะ ป่านนี้! ปี่พาทย์มโหรีบรรเลงชัย เราคนไทยจะไม่จมปลักแค่ “โหมโรง”
เสียงสะท้อนคงไม่ใช่แค่ในพันทิป โลกโซเชียลทุกแพลทฟอร์มคงพูดเป็นเสียงเดียว