โครงการสัมมนาสื่อมวลชนสัญจร2
รุ่งเช้า อากาศ7องศา เราเดินทางไปยังค่ายฝึกการรบพิเศษประตูผา แหล่งท่องเที่ยวในเขตทหารที่มีภาพเขียนประวัติศาสตร์อายุกว่า 3,000 ปี ที่ศาลเจ้าพ่อประตูผาที่มีเรื่องราวตำนานกล่าวขานกันมาเนิ่นนาน ที่นี่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะช่องเขาทั้งสองลูกกั้นแดนเหมือนเป็นประตู ใครเดินทางสายนี้มาถึงที่นี่มักจะบีบแตรรถขอผ่านทางทุกคน ทางสายนี้คือถนนพหลโยธินที่ไปสิ้นสุดเส้นทางที่อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย เราไปถึงที่นี่ในช่วงสายๆแดดกำลังอบอุ่น สักการะกราบไหว้เจ้าพ่อประตูผาแล้ว ใกล้ศาลเจ้าพ่อมีตลาดนัดของพื้นเมืองที่ชาวเขานำมาวางขายรองรับนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะเป็นของป่าน้ำผึ้งยาสมุนไพร และอีกหลากหลายที่เป็นของฝาก จุดประทัดบูชาเจ้าพ่อแล้วก็เดินขึ้นไปชมแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์
กับภาพเขียนอายุหลายพันปี ขึ้นไปบนเทือกเขาสูงที่มีภาพเขียนหลายกลุ่มบ่งบอกถึงอารยะธรรมในยุคโบราณพื้นที่แห่งนี้คงเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์มาก่อน. ภาพสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่ง สามารถเข้ามาศึกษาได้ทุกวัน จะมีเจ้าหน้าที่ทหารให้การต้อนรับและให้คำอธิบายในการเรียนรู้ภาพเขียนตามเทือกเขากับความสำคัญอย่างไรที่เราควรศึกษากันต่อไปในอนาคต ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในเขตทหารบกรับผิดชอบที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง
ลงมาแล้วถ่ายรูปที่ป้ายเสร็จเราออกเดินทางไปยังอำเภอแจ้ห่ม ต้องขึ้นเขาไปนมัสการสถูปเจดีย์เกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคเหนืิอ นำมาบรรจุไว้ในพระธาตุเจดีย์บนยอดเขาซึ่งเป็นยอดเขาจริง บนวัดเฉลิมพระเกียรติซึ่งพระอาจารย์ทางสายวิปัสสนา มีศรัทธาแรงกล้านำสาธุชนผู้เลื่อมใส ขึ้นไปก่อสร้างพระธาตุเจดีย์ด้วยความยากลำบากมากที่สุดบนยอดเชาแห่งนี้ ซึ่งมีทางขึ้นลำบากยากเข็ญเป็นแท่งภูเขาสูงมากกว่าที่จะเป็นเขาทั้งลูก ข้างบนเขานั้นก็มีพื้นราบน้อยมาก แต่ด้วยศรัทธาแรงกล้าสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์จากน้ำมือมนุษย์ได้ นับว่าเป็นความมุมานะอุตสาหะค่อนข้างสูง แล้วผู้ที่มีศรัทธาเท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้ขึ้นไปกราบสักการะได้ เริ่มต้นไปถึงเชิงเขาหรือทางเหนือเรียกว่าดอย จะมีรถสองแถวของชุมชนมาจอดรับผู้โดยสารที่จะขึ้นไปบนเขา คนละ 100 บาทค่ารถ ทางขึ้นลงลาดชันตลอดเส้นทางสามกิโลครึ่งขึ้นๆลงๆทำให้เสียวหัวใจตลอดทาง พอขึ้นไปถึงลานจอดรถ เขาบอกให้เดินอีก 800 เมตรก็ถึงแล้ว เดินมาสักพักราวสองร้อยเมตรก็ถึงจุดสิ้นสุดท่ารถด้านใน แล้วเริ่มต้นปีป่านขึ้นไปยังวัดเฉลิมพระเกียรติซึ่งอยู่ด้านบนอีกราวห้าร้อยเมตรกว่า ทางชันระดับเก้าสิบองศา มีแผ่นเหล็กทำเป็นทางเดินมีบันไดบ้างเป็นบางช่วง. เหนื่อยสุดๆกับการปีนป่านขึ้นไปยังวัดแห่งนี้ ถ้าไม่แข็งแรงใจไม่ถึง ไม่มีความศรัทธาพอคงหมดโอกาสได้เห็น พอขึ้นไปถึงบริเวณวัดแล้ว มองลงมาเห็นอำเภอแจ้ห่มมาแต่ไกล อากาศหนาวเย็นกว่าจะขึ้นไปถึง เล่นเอาหอบเลยทีเดียว.แต่ก็คุ้มค่านะ พระและช่างก่อสร้างท่านช่างคิดได้เหลือเกินในการวัดศรัทธาว่าจะไปถึงไหม
ก่อนที่จะปีนป่ายขึ้นไปนมัสการวัดเฉลิมพระเกียรติ เราออกจากบริเวณเจ้าพ่อประตูผา เดินทางเข้ามาศึกษางานในโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระราชินีในรัชกาลที่ 9 ที่บ้านทุ่งจี้มีโครงการศิลปาชีพหลายอย่างที่กองทัพบกเข้ามาช่วยดูแลจัดการ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานเครื่องปั้นดิน เผาเซรามิค การทอผ้าไหม สาวไหม หรือ จะมาดูวิธีการแกะสลักไม้สักในรูปแบบต่างๆศิลปะแบบล้านนา ก็มีให้ศึกษากันอย่างมากมาย เพราะเป็นศูนย์การเรียนรู้ของชาวหมู่บ้านแห่งนี้ ใช้เวลาว่างจากการทำนาทำสวยเข้ามาอบรมเสริมการศึกษา. สร้างรายได้จากอาชีพเสริมมาเป็นรายได้อาชีพเลย ทางศูนย์แห่งนี้จะมีร้านค้าของชุมชน ขายผลิตผลงานที่ทำด้วยตัวเองมากมายในราคาถูกมากๆเป็นสินค้าที่ส่งไปขายทั่วโลกด้วย คณะของเราช่วยกันเหมาแทบจะหมดร้านเลย และได้ทานข้าวเหนียวไส้อั่วน้ำพริกตาแดงบนรถ ซึ่งเราต้องเดินทางไปต่อเพื่อปีนเขาทั้งแท่งขึ้นไปกราบไหว้สถูปเจดีย์ของเกจิอาจารบ์ชื่อดังบนวัดเฉลิมพระเกียรติ
กว่าจะปีนกลับลงมาจากวัดเฉลิมพระเกียรติได้ ก็ต้องระวังขาลงไม่เหนื่อยเท่าขาขึ้นแต่ก็ต้องใช้เบรกเท้าเยอะหน่อยทางลงมันชันเหมือนทางขึ้นนั่นแหละขึ้นลงทางเดียวในอนาคตจะมีกระเช้าขึ้นไปเหมือนต่างประเทศหรือเปล่า ยังไม่รู้แต่อยากให้มีนะทางมันชันเหลือเกิน การลงต้องระวังเพราะมันดิ่งจะต้องยึดตัวให้ดี กว่าจะลงมาถึงท่ารถแทบหมดแรง เรายังมีเวลาพอเหลือ จะต้องเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ซึ่งอยู่ไกลออกไปจุดประสงค์จะไปอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนก่อนกลับมากินข้าวในเมืองลำปางค่ำนี้ แต่เราเสียเวลาในวัดเฉลิมพระเกียรติมาก การเดินทางมายังน้ำพุร้อนในอุทยายแจ้ซ้อนเย็นมากไป ทางกองทัพบกแจกไข่ดิบคนละชะลอมเล็กมีไข่สามใบเพื่อเอาไปต้มในน้ำแร่ที่บ่อน้ำแร่กระจายกันไปทั้งผืนที่ ต้องระมัดระวังเย็นมากแล้ว ทางเป็นปุ่มหินต้องระวัง มาจับจองบ่อแร่พุร้อนที่ใช้เวลาต้น 17 นาทีสุก ต่างคนจ่างกระจายกันให้เต็มพื้นที่กันไปหมด ก่อนที่ความมืดจะเข้ามาคลุม พวกเรารีบกลับขึ้นรถเพื่อจะเดินทางมาทานอาหารค่ำกันที่ร้านอาหารชื่อดังบนเรือนแพ เพื่อสังสรรค์กันในคืนที่สอวคืนนี้รีแล็กซ์เต็มที่ใครที่ร้องเพลงได้ เปิดกันเต็มที่กัลอาหารพื้นเมืองเลื่องชื่อของชาวลำปางด้วยลาบคั่วแสนอร่อยกับไก่ย่างหนังกรอบน้ำพริกหนุ่มแสนนุ่มปาก ทานไปฟังเพลงไปได้อรรถรสมาก เหนื่อยมากทานมากเป็นเรื่องธรรมดา พรุ่งนี้เรายังมีทริปสุดท้ายตามรายทางก่อนกลับบ้านเรากรุงหาเทพมหานครซึ่งอำเภอเสริมงามและเกาะคาเป็นสองแหล่งสุดท้ายของทริปท่องเที่ยวครั้งนี้