กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สนองนโยบายรัฐเดินหน้าผลักดันผลิตภัณฑ์อาหารไทยสู่ตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ผ่านตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เครื่องหมายการันตีคุณภาพมาตรฐานสินค้าอาหารไทยสำเร็จรูปที่แสดงถึงรสชาติไทยแท้ตามต้นตำรับ โดยมุ่งเป้าสนับสนุนอาหารไทยเป็น Soft Power ด้วยเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว จากวัตถุดิบ รวมถึงกรรมวิธีการรังสรรค์เพื่อให้ได้รสชาติที่ไม่เหมือนใครทำให้อาหารไทยดึงดูดนักชิมจากทั่วโลกให้มาลิ้มลองรสชาติแบบไทยแท้ จนติดอันดับของสถาบันชื่อดังหลายสำนักในอันดับต้น ๆ ของโลก
แกงไทยครองใจคนทั่วโลก ทำเองได้รสชาติไทยแท้เหมือนทานในประเทศไทย
คุณปนิตา ผลิศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี เอ็น พี ฟู๊ด จำกัด เล่าว่า จุดเริ่มต้นของ พี เอ็น พี ฟู๊ด เป็นการต่อยอดมาจากร้านอาหารที่ชื่อ “อร่อย@หัวหิน” เป็นร้านอาหารอยู่ในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับตรา Thai SELECT ติดต่อกันมา 3 – 4 ปีแล้ว เนื่องจากลูกค้าชาวต่างชาติที่มารับประทานที่ร้านต่างก็ชื่นชอบในรสชาติของอาหารไทย และอยากเอากลับไปทำเองที่ต่างประเทศ ซึ่งด้วยความชื่นชอบในการทำอาหารไทยเป็นทุนเดิมและเป็น supplier อาหารทะเล รวมถึงเป็นเชฟที่ดูแลเรื่องสูตรอาหารและควบคุมการทำอาหารในครัวทั้งหมด คุณปนิตา ผลิศักดิ์ จึงริเริ่มคิดค้นสูตรซอสและเครื่องแกงที่มีรสชาติแบบไทยแท้ เข้มข้น ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จัดจ้าน เสมือนกับรสชาติดั้งเดิมของไทย ไม่ว่าจะเก็บไว้นานแค่ไหน เมื่อเอาออกมาปรุงรสชาติก็ยังคงความอร่อยเหมือนเดิม
โดยในช่วงแรก คุณปนิตา ผลิศักดิ์ ได้เก็บข้อมูลจากการสังเกตความนิยมของต่างชาติว่านิยมแกงไทยอะไรบ้าง หลังจากนั้นจึงได้เริ่มคิดค้นสูตรออกมา 6 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน ได้แก่ แกงเขียวหวาน พะแนง มัสมั่น ต้มยำ ต้มข่า แกงเผ็ด ซึ่งเป็นรสชาติดั้งเดิม และที่สำคัญไม่ใส่สารกันเสีย โดยสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี ซึ่งวิธีทำปรุงก็ง่าย และสะดวก เพียงแค่เติมน้ำ เติมเนื้อสัตว์ เติมผักตามชอบแล้วแต่ว่าประเทศไหนมีวัตถุดิบอะไร ก็สามารถใส่เพิ่มเข้าไปได้เลย โดยส่วนใหญ่ลูกค้าต่างชาติจะชื่นชอบรสชาติแบบไทย ๆ ไม่ต้องการให้ปรับเปลี่ยนรสชาติแต่อย่างใด โดยรสนิยมในแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน เช่น ลูกค้าญี่ปุ่นมักชอบมัสมั่น พะแนง และแกงเขียวหวาน ในขณะที่ลูกค้าเยอรมันจะชื่นชอบต้มยำ ต้มข่า และแกงเขียวหวาน ปัจจุบันเรากำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรวีแกน (Vegan) โดยตั้งเป้าจะเจาะกลุ่มลูกค้าที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ หรือทานมังสวิรัติ และส่งออกไปตลาดต่างประเทศ
บริษัท พี เอ็น พี ฟู๊ด จำกัด เป็นบริษัทเล็ก ๆ ที่เติบโตมาด้วยทุนของตัวเอง เปิดบริษัทในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยปีที่ผ่านมาได้สมัครขอรับตรา Thai SELECT ให้กับ 5 ผลิตภัณฑ์แรกไปแล้ว ปีนี้จึงได้กลับมาขอตราเพิ่มให้กับแกงเผ็ด (Red Curry) เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงรสชาติและคุณภาพของอาหาร เนื่องจากเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค รวมถึงสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจได้จริง
ความภาคภูมิใจจากชุมชน นำสินค้าท้องถิ่นสู่ตลาดโลก
คุณประภัสสร รังสิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพิ่มทรัพย์บุญทวี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า ประเภท อาหารพร้อมทาน อาหารพร้อมปรุง และของทานเล่น เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัท เพิ่มทรัพย์บุญทวี จำกัด ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จำนวน 6 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน ได้แก่ น้ำแกงส้มพร้อมปรุงรสชาติน้ำแกงส้มแท้ถึงเครื่อง น้ำแกงส้มพริกสดพร้อมปรุงที่ทำจากพริกสด 3 ชนิด (พริกแห้ง พริกจินดา พริกขี้หนู) น้ำต้มส้มสับปะรดพร้อมปรุงที่ใช้สับปะรดที่เป็นสินค้า GI ของอำเภอสามร้อยยอด ซุปแกงเลียงก้อนที่ได้รับความนิยมมาก ปลากุเลาหยองจากทะเลประจวบคีรีขันธ์ และซุปแกงเขียวหวานสูตรเด็ดของคุณแม่
โดยเราเลือกวัตถุดิบหลักทั้งหมดมาจากพื้นถิ่นอำเภอสามร้อยยอด 100% โดย คุณประภัสสร รังสิโรจน์ เล่าเพิ่มเติมว่า ‘เราจะไม่โตคนเดียว แต่เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ’ เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เราให้องค์ความรู้และสนับสนุนชุมชน ตั้งแต่ขั้นตอนการหาปลาตลอดจนกระบวนการผลิต เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาว และเนื่องจากเรากำลังจะส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ การได้รับตรา Thai SELECT จึงถือเป็นมาตรฐานที่สำคัญ และช่วยให้เราเป็นที่รู้จักในต่างประเทศได้
ปัจจุบันอาหารไทยได้กลายมาเป็น Soft Power ที่ชาวต่างชาติให้ความนิยมอย่างมาก นั้นถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะเพิ่มมูลค่าการส่งออกของสินค้าไทย โดยประเทศไทยนั้นได้รับการยอมรับทั้งในเรื่องของรสชาติ และมาตราฐานการผลิตระดับสากลมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวัตถุดิบและเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่ใช้ในการประกอบอาหาร อาทิ ผงปรุงรส ซอสพริก ซอสถั่วเหลือง เครื่องแกงสำเร็จรูป และอีกหนึ่งสิ่งที่ชาวต่างชาติให้การยอมรับว่าเป็นเครื่องปรุงที่มีความอร่อยและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ “น้ำปลา” จากประเทศไทย จนทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำปลาเป็นอันดับต้นๆ ของโลกมาอย่างต่อเนื่อง
น้ำปลาตราปลาหมึก บทบาทและความท้าทายในตลาดน้ำปลาโลก
คุณธิติญา นิธิปิติกาญจน์ รองกรรมการผู้จัดการ (ฝ่ายบริหาร) บริษัท โรงงานน้ำปลาไทย (ตราปลาหมึก) จำกัด เล่าว่า “น้ำปลาตราปลาหมึก” อยู่คู่ครัวไทยมากว่า 80 ปี เริ่มต้นจากโรงงานน้ำปลาเล็ก ๆ ในอำเภอท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร จนค่อย ๆ เติบโตขยายปริมาณการผลิตและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องจนสามารถขยายตลาดสู่คนไทยทุกระดับทั่วประเทศ และเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ส่งออกน้ำปลาไปยังตลาดต่างประเทศเป็นเวลานานกว่า 50 ปีแล้ว ปัจจุบัน บริษัท โรงงานน้ำปลาไทย (ตราปลาหมึก) จำกัด ส่งออกน้ำปลาไป 70 ประเทศทั่วโลก โดยมีตลาดหลัก คือ อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา อังกฤษ จีน เกาหลี มาเลเซีย และอินเดีย
น้ำปลาเป็นเครื่องปรุงสำคัญที่ขาดไม่ได้ของครัวไทย เป็นสัญลักษณ์สำคัญที่สื่อถึงความเป็นอาหารไทย ในทุกประเทศก็มีการนำวัตถุดิบหลักของตนเองมาชูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว น้ำปลาไทยเองก็มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร น้ำปลาตราปลาหมึกนั้นใช้ปลากะตักจากท้องทะเลไทย เมื่อผ่านกระบวนการผลิตหมักบ่มจนได้ที่แล้ว จะได้น้ำปลาที่มีสีน้ำตาลอมแดง มีลักษณะที่ใสไม่มีตะกอน มีกลิ่นหอมของปลา เป็นน้ำปลาที่มีกระบวนการตามธรรมชาติ 100% อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 โพแทสเซียม และแคลเซียมในปริมาณที่สูง ทั้งยังเป็นปลาตัวเล็กที่ไม่ต้องคว้านใส้ ราคาไม่แพง และได้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงน้ำปลาในราคาที่ไม่สูง ในปัจจุบันประเทศไทยมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มีมาตรฐานรับรองสินค้าในระดับสากล นโยบายสนับสนุนอาหารไทยของรัฐบาล “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ก็จะเป็นส่วนช่วยให้น้ำปลา ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของอาหารไทยได้รับความนิยมไปด้วย
ในปีนี้ บริษัท โรงงานน้ำปลาไทย (ตราปลาหมึก) จำกัด ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จำนวน 5 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน ได้แก่ “น้ำปลาแท้” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “น้ำปลาขวดฝาเขียว” ซึ่งถือเป็นตัวชูโรง ที่เป็นตัวออริจินัล ทำมาจากปลากะตัก ไม่ได้ผสมปลาอื่น “น้ำปลาแท้สูตรพรีเมี่ยม” หรือเรียกว่า น้ำปลาฝาสีทอง เป็นหัวน้ำปลาแท้ ๆ ไม่มีการผสมน้ำตาลและไม่มีการปรุงรส มีโปรตีนสูง “ซอสปรุงรสวีแกน” ตอบโจทย์คนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะผู้บริโภคในยุโรปที่นิยมรับประทานมังสวิรัติ หรือ วีแกน ตั้งใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวนี้ขึ้นมาให้เทียบเท่ากับน้ำปลาแท้แต่ไม่มีส่วนผสมของปลา ได้รับ Vegan certified จากประเทศอังกฤษ ทำมาจากสาหร่ายคอมบุและเห็ดชิตาเกะจากเกาหลี “น้ำปลาแท้ เกรดพรีเมี่ยม สูตรเกลือหิมาลายัน” ที่ชูความพรีเมี่ยมด้วยวัตถุดิบที่เป็นราชาของเกลือ หวังให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันที่รักสุขภาพ และ“น้ำปลาร้าสูตรแซ่บนัว” เนื่องจากโรงงานของเรามีปลากะตักเป็นวัตถุดิบหลักอยู่แล้ว จึงพัฒนาสูตรออกมาให้เป็น น้ำปลาร้าสูตรแซ่บนัวและส่งออกไปต่างประเทศ
ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภครายใหม่ ที่เพิ่งรู้จักหรือเริ่มสนใจในอาหารไทยแต่ยังไม่มีข้อมูลเรื่องวัตถุดิบมากนัก เมื่อมีเครื่องหมายการันตีคุณภาพจะช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจง่ายขึ้น เนื่องจากตรา Thai SELECT เป็นสัญลักษณ์ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในระดับสากล
คุณธิติญา นิธิปิติกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางกระแสข่าวในเรื่องของการแข่งขันในอุตสาหกรรมน้ำปลานั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่เราอาจจะต้องติดตามกันต่อไป แต่อย่างไรก็ตามเราจำเป็นต้องรักษาคุณภาพพร้อมกับพัฒนาสินค้าของเราอยู่เสมอเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมองว่า “น้ำปลาไทย” เป็นน้ำปลาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น และยังคงเป็นสินค้าประเภทเครื่องปรุงที่ชาวต่างชาติยังคงเลือกใช้
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับตรา Thai SELECT แล้ว 734 รายการ จากผู้ประกอบการ 81 บริษัท ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้ใช้ตราฯ ประจำปี 2567 จำนวน 244 รายการ จากผู้ประกอบการ 41 บริษัท โดยจะมีพิธีมอบเกียรติบัตรให้แก่บริษัทที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ประจำปี 2567 ในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 บริเวณคูหา Thai SELECT Hall 9 (9-CC01) ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มหรือผู้ที่สนใจ ขอเชิญชวนไปพบกับผลิตภัณฑ์และผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/thaiselectditp หรือโทรศัพท์สายด่วนกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 1169