ครั้งแรกกับ “AESTURA” แบรนด์เวชสำอาง (Derma Cosmetic Brand) อันดับหนึ่งที่ได้รับการแนะนำจากแพทย์ผิวหนังในประเทศเกาหลีใต้ กับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยผลิตภัณฑ์ของ AESTURA สร้างสรรค์ขึ้นจากการผสมผสานองค์ความรู้ด้านเภสัชกรรมและวิทยาศาสตร์ผิวหนังที่ล้ำสมัยกับเครื่องสำอางเข้าด้วยกัน พร้อมปล่อยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า “AESTURA A-CICA 365” ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าที่มีส่วนผสมของ CICA BPM™ หรือส่วนผสมที่มีใบบัวบก (Cica) ที่ประกอบกับ Beta-Glucan ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ชุ่มชื้นให้แก่ผิว Phytosterol ที่ช่วยปลอบประโลมผิวจากการระคายเคือง และ Madecassoside ตัวช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะในแบรนด์เวชสำอางของ AESTURA และ Niacinamide ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิว ผิวแพ้ง่าย และผิวบอบบาง มีคุณสมบัติเฉพาะในการปลอบประโลมผิวจากภาวะความเครียด ลดเลือนรอยจุดด่างดำและรอยสิวอย่างครบวงจร
นายอิม วุนซอบ (Woonsup Lim) AESTURA Division Leader กล่าวว่า แนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ AESTURA ที่เป็นแบรนด์เวชสำอางอันดับหนึ่งที่แพทย์ผิวหนังในประเทศเกาหลีใต้แนะนำ มาจากแรงบันดาลใจจากหลักทางเภสัชกรรม โดย AESTURA ได้ผสมผสานความรู้ด้านเภสัชกรรมที่สั่งสมมาอย่างยาวนานเข้ากับวิทยาศาสตร์ผิวหนังอันล้ำสมัย เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวสวยและสุขภาพดี ซึ่งที่ผ่านมา AESTURA ได้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์สกินแคร์ในประเทศไทยไปแล้วหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มปลอบประโลมผิว อาทิ A-CICA365 ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมอยซ์เจอไรเซอร์ และทำความสะอาดผิวหน้าแบบอ่อนโยน อาทิ ATOBARRIER365 ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย อาทิ DERMA UV365 และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มลดเลือนริ้วรอย อาทิ REGEDERM365
“ประเทศไทยเป็นประเทศล่าสุดที่ AESTURA ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ด้วยศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตของตลาดเครื่องสำอางและความงามในประเทศไทย ที่แบรนด์มองเห็นโอกาสการขยายตัว ในปี 2567 ประกอบกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์เวชสำอางบำรุงผิวที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์กลุ่มเวชสำอางแอนไท-เอจจิ้ง (Anti-aging) ซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของ AESTURA A-CICA 365 ที่มีส่วนผสมของ CICA BPM™ และ Niacinamide 2% ถือเป็นนวัตกรรมจากธรรมชาติที่ช่วยแก้ปัญหาและปลอบประโลมผิวคนไทยได้อย่างตรงจุด และช่วยลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดจากสิวแบบครบวงจร ทำให้ความรู้สึกผิวหน้าที่แข็งแรงขึ้น โดยไม่ทำให้ระคายเคืองและสร้างเกราะป้องกันผิวหน้าเราให้ดีขึ้นไปพร้อม ๆ กันด้วย”
นางสาวยูจิน จยอง (Ms. Yujin Jeong) ผู้บริหาร AESTURA Marketing Communication Team Leader กล่าว จากการพิสูจน์ทางคลินิกของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม AESTURA A-CICA 365 สามารถปลอบประโลมผิวได้มากถึง 52% สร้างสภาวะชุ่มชื้นให้กับผิวได้ -4.9°C ช่วยให้ผิวเรียนเรียนขึ้น 130% และพบว่า 13.9% ลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว บนผิวหลังใช้ 4 สัปดาห์ ซึ่งผู้ใช้จริงกว่า 76% เห็นด้วยว่ารอยบนผิวจางลงหลังใช้เป็นประจำทุกวัน และ 86% เห็นด้วยว่ามีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง (อ้างอิงจากการทดสอบทางคลินิกกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องร่องรอยบนใบหน้า สาเหตุจากผิวแห้ง ผิวที่มีจุดด่างดำ รอยสิว 31 รายเป็นเวลา 1 สัปดาห์) ผลิตภัณฑ์ AESTURA A-CICA 365 จะเป็นสกินแคร์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้มีปัญหาผิวแห้ง ผิวเป็นรอยดำจากสิว ผิวหมองคล้ำไม่เรียบเนียน ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีสภาพผิวแพ้ง่ายและมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ผลิตภัณฑ์ตัวดังกล่าวจะทำให้มีสภาพผิวที่แข็งแรงและมีความมั่นใจในผิวหน้ามากขึ้น
ด้าน ดร.ซุกฮยอน บัง Dermatologist of Gangnam DR Dermatology กล่าวถึงวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะกับสภาพผิวแพ้ง่าย ว่า ผิวแพ้ง่ายเกิดจากเกราะป้องกันผิวที่ถูกทำลายหรือเสียหาย จึงทำให้มีแนวโน้มการระคายเคืองผิวได้มากกว่าคนที่มีผิวสุขภาพดี ปัญหาที่มักเกิดขึ้น เช่น รอยแดง การอักเสบของผิว ปัญหาความแห้งกร้านของผิวจากภายใน ซึ่งผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายก็จะถูกกระตุ้นไวเป็นพิเศษ ดังนั้นการรักษาความชุ่มชื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทางเลือกที่ดีคือจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นจากภายในซึ่งจะเหมาะสมกับกลุ่มผิวแพ้ง่ายมากกว่า
นอกจากนี้คนที่ผิวแพ้ง่ายมักจะมีเกราะป้องกันผิวที่อ่อนแอและไวต่อส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ควรมีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดก่อนว่าอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย ผ่านการทดสอบความปลอดภัย ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือสีสังเคราะห์หรือไม่ โดยคนที่มีผิวแพ้ง่ายจึงควรมองหาการหาผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่เข้าใจธรรมชาติของผิวแพ้ง่ายสามารถดูผิวได้ตั้งแต่ต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหาผิว เพราะจะช่วยลดขั้นตอนในการดูแลผิวได้อย่างดี สิ่งสำคัญคือต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้ส่วนผสมเหล่านี้มีอนุภาคขนาดเล็กเพื่อดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายสามารถเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวที่ถูกทำลายได้ทันที
“หากจะให้เปรียบกระบวนการดูแลผิวแพ้ง่ายนั้นคงเปรียบได้กับนักดับเพลิง ที่เราจะต้องคอยตรวจสอบและพยายามดับไฟ ผิวที่เกิดการระคายเคืองไม่ต่างอะไรจากเพลิงที่กำลังลุกไหม้ สิ่งสำคัญคือเราจะต้องพยายามดับไฟที่เกราะป้องกันผิวเสียก่อน แล้วจึงค่อยๆ ซ่อมแซมผิว เสริมเกราะป้องกันและเติมความชุ่มชื้น ควบคู่ไปกับการปลอบประโลมผิวซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะช่วยสร้างให้ผิวแข็งแรงและสุขภาพดี โดยจะต้องมี Phytosterol (P) เป็นส่วนประกอบหลักที่ใช้ในครีมบรรเทาแผลไฟไม้ ต่อมาคือ Madecassoside (M) จะช่วยรักษาบาดแผลโดยสร้างเกราะป้องกันผิวที่ถูกทำลายขึ้นมาใหม่ให้แข็งแรง สุดท้าย Beta Glucan (B) ช่วยเสริมสร้างความชุ่มชื้นรอบบริเวณที่เสียหาย กำจัดความรู้สึกไม่สบายผิวที่หลงเหลือจากการเผาไหม้ ” ดร.ซุกฮยอน บัง กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากผลิตภัณฑ์ที่ดีแล้วการเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิวยังถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เป็นสิว ผิวแพ้ง่าย “อิ๊งค์ ชยธร กิตติยาดิศัย หรือ อิงกุ เจ้าของช่อง INGCK” เล่าว่า ผิวของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไป สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือผิวระคายเคือง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวหน้า โดยสกินแคร์ที่ควรเลือกใช้นั้นจะต้องไม่มีส่วนผสมใน กลุ่ม Preservatives หรือสารกันบูด ซึ่งเป็นสารที่ใช้แทนพาราเบน กลุ่ม Fragrance น้ำหอมสังเคราะห์และน้ำมันหอมระเหย กลุ่ม Plant Extracts สารสกัดธรรมชาติ กลุ่ม UV Filters ฟิลเตอร์ครีมกันแดดเคมีรุ่นเก่า รวมไปถึงสกินแคร์ที่มีส่วนผสม Active มากจนเกินไป เพราะส่วนผสมเหล่านี้จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงภายในอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่ม AHA BHA VitaminC VitaminA ส่วนผสมเหล่านี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นสำหรับใครที่ผิวอ่อนแอ มีแนวโน้มผิวแพ้ง่ายหรือระคายเคืองง่าย ผิวเป็นสิว ผิวหมองคล้ำไม่เรียบเนียนและมีจุดด่างดำ จะต้องเลือกสกินแคร์อย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะการเลือกส่วนผสมของ สกินแคร์นั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการดูแลรักษาผิวหน้า
อิ๊งค์ ชยธร แนะนำว่า สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาจากความร้อนแรงของแดดประเทศไทย หรือใครที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย และต้องเจอกับอากาศที่ร้อนบวกกับฝุ่นมลภาวะ ผิวก็จะเริ่มแดง รู้สึกวูบวาบและสุดท้ายก็อักเสบขึ้นมา สิ่งที่ต้องมองหาเพื่อมาช่วยผิวของเราเลยคือส่วนผสมกลุ่มที่จะมาช่วยทั้งปลอบประโลมผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงโดยเฉพาะส่วนผสม Cica BPM Complex™️ (Beta-Glucan, Phytosterol และ Madecassoside) – เป็นกลุ่มส่วนผสมที่มีความสามารถในการปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีมาก มาในรูปแบบเทคโนโลยีแบบ Micro-Some หรือการทำให้ส่วนผสมทั้งสามตัวให้มีขนาดเล็กมาก เพื่อให้ซึมเข้าผิวได้ง่ายและลงไปในชั้นผิวที่ลึกขึ้น ซึ่งส่วนผสมก็จะทำงานได้อย่างเต็มที่ ตรงจุด และออกฤทธิ์ในการปลอบประโลมผิวได้ดีมาก ซึ่งเหมาะสำหรับใครที่มีผิวอักเสบง่าย ระคายเคืองง่ายหรือเป็นสิว ตัวนี้จะช่วยปลอบประโลมผิวหรือกู้ผิวให้กลับมาสงบได้ดีมากๆ ที่สำคัญไม่มีน้ำหอม ส่วนผสมน้อยและเรียบง่ายอีกด้วย
ด้าน ดัง ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ นักแสดงหนุ่มสุดฮอตจาก GMMTV ที่มาร่วมในงานนี้ด้วย ได้แชร์ความลับในการเลือกใช้สกินแคร์รูทีนเพื่อผิวที่แลดูเนียนเด้ง กระจ่างใส และสุขภาพดี แม้ว่าจะทำงานหนักต่อกันหลายวัน เนื่องจากสกินแคร์รูทีนจำเป็นอย่างมากสำหรับการดูแลผิวหน้า เพราะด้วยอาชีพที่ต้องทำงานหนัก พักผ่อนน้อย รวมถึงความเครียดสะสมต่าง ๆ ส่งผลให้ผิวหน้าไม่สดใส ดังนั้น “ดัง” จึงเลือกสกินแคร์รูทีนที่จะเข้ามาช่วยปลอยประโลมผิว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว มีคุณสมบัติในการเสริมเกราะป้องกันผิว ลดเลือนรอยดำ จึงกลายเป็นคุณสมบัติสำคัญที่เลือกใช้เป็นอันดับแรก ๆ ในการเลือกซื้อสกินแคร์ดูแลผิวหน้า พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ A-CICA 365 จากแบรนด์ AESTURA ที่จะให้ความรู้สึกผิวหน้าที่แข็งแรงขึ้น ลดการระคายเคือง และสร้างเกราะป้องกันผิวหน้าเราให้ดีขึ้นไปพร้อม ๆ กันด้วย
ติดตามความเคลื่อนไหวของ AESTURA Thailand ได้ผ่านช่องทาง Facebook AESTURA THAILAND หรือ Instagram @aestura_thailand หรือเข้าไปเยี่ยมชมช้อปออนไลน์ได้ ที่นี่
AESTURAComingToThailand #AESTURAOfficialLaunchTH #AESTURATH #AESTURA