สกู๊ปพิเศษ
โดย…ยอดเยาวพา
“ซอสทัย” ซอสมะม่วงเจ้าแรกได้รางวัลการันตี คนไทยและต่างชาติยอมรับความอร่อย
13 กันยายน 2563 จุดกำเนิดของ “ซอสทัย” ซอสมะม่วงเจ้าแรกที่มีรางวัลการันตี ถ้ากล้าจะเปิดใจก็จะได้ลิ้มรสชาติของซอสที่ทำจากมะม่วงดีต่อสุขภาพ จากที่ได้คุยกันซอสมะม่วงไม่ใช่สิ่งที่ตั้งใจทำแต่เป็นความบังเอิญ เริ่มจากทำเยลลี่แต่ไหงกลายเป็น “ซอสมะม่วง” ออกมา ทำให้ทุกวันนี้ซอสทัยดังไกลไปต่างแดนด้วยฝีมือคนไทยทำให้คนไทยลิ้มลอง เป็นไปได้อยากให้ภาครัฐให้ความสนใจนำไปเข้าในโรงเรียน หรือสมาคมต่าง ๆ ที่ภาครัฐดูแลเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากกลุ่มโอท็อป เพียงคุณกล้าเปิดใจ ฟังแล้วสนใจแวะไปชิมซอสคนไทยทำ หรือซื้อเป็นของขวัญของฝากได้ในงาน “OTOP MID YEAR 2024” จัดระหว่างวันที่ 8-16 มิถุนายน 2567 ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี แวะไปได้ที่บูธ Y57 ครั้งนี้มีโอกาสได้สัมภาษณ์เจ้าของผลิตภัณฑ์ซอสทัย “ขวัญจิต จูเภา” ซึ่งเล่าถึงการผลิตซอสมะม่วงออกมา 3 รสชาติอย่างหมดเปลือกว่า
“เป็นผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ OTOP ที่ 4 ดาวของจังหวัดฉะเชิงเทราค่ะ “ซอสทัย” ‘ทัย’ คำนี้มาจากชื่อสามีค่ะ ซอสของเราเพิ่งได้รางวัลอาหารเกษตรแปรรูป EEC Select ที่ได้ผลิตภัณฑ์แปรรูปเจ้าเดียวในประเทศ จากท่านจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี เป็นผู้มอบค่ะ ซอสทัยคิดค้นและทำจากมะม่วงในท้องถิ่นของเรามาแปรรูปเป็นซอสในเชิงดูแลสุขภาพของคนไทยค่ะ ซึ่งมะม่วงที่ใช้เป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทราค่ะ ที่สวนเรามีนิดเดียวแต่เป็นสวนของชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ เราทั้งหมดนำมาขายให้ค่ะ ชาวสวนจะเจอปัญหามะม่วงมีราคาตกต่ำ ถ้าเกิดว่ามันเยอะเกินไป มะม่วงที่คุณภาพมีตำหนินิดหน่อยชาวสวนจะขายไม่ได้ นั่นแหละค่ะ เราใช้เนื้อไม่ได้ใช้เปลือก เนื้อเรานำมาแปรรูปเป็นซอสของเราค่ะ ในสภาวะที่มะม่วงตั้งแต่ลูกแก่จนถึงเก็บได้ซึ่งเป็นมะม่วงตกเกรดชาวบ้านก็จะมาขาย เราจะรับมะม่วงดิบมาหลังจากนั้นเริ่มทำการบ่มตามระยะเวลาที่กำหนด จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนในการทำซอส ซึ่งมะม่วงใช้ในการผลิตซอสเราจะได้จากชาวสวนจนกว่าจะหมดฤดูและเพียงพอต่อการทำซอสออกมาค่ะ
ถามว่าเราตั้งใจทำซอสมั้ย? จะบอกว่าอันนี้เป็นเรื่องเล่าที่ทุกคนก็แปลกใจมาก เราไม่คิดจะทำซอสนะคะ เราคิดจะทำเยลลี่มะม่วง แต่ทำยังไงก็ไม่ประสบผลสำเร็จกับการทำเยลลี่ ซึ่งเรามีอาจารย์จาก สสว. มาแนะนำท่านก็แปลกใจเหมือนกัน ท่านไปสอนใคร ๆ ก็ทำสำเร็จแต่ทำไมเราทำไม่สำเร็จ ทว่าเราต้องออกตลาดในวันที่ 13 กันยายน 2563 อันนี้เป็นสิ่งที่เราขายหน้ามากเลยคิดว่ามันไม่ได้แล้ว ทำไงดีก็มองรอบ ๆ บ้านเรามีพริก มีกระเทียม มีเกลือ คือที่บ้านเคยทำสุกี้มาก่อน เรามีความรู้อยู่บ้างแล้ว นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการทำซอส ตอนแรกเราทดสอบทำ 60 ขวดก่อนนะคะ ครั้งแรกเราไปเปิดบูธที่เซ็นทรัลเวสเกต ก็ให้น้อง ๆ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดลช่วยชิมหน่อย ช่วยคอมเมนต์หน่อย พอเราบอกว่าซอสมะม่วง น้องๆ บอกไม่รู้จักเลยทำหน้าเหวอ ๆ น้อง ๆ ถามว่ามันกินได้เหรอ มันเป็นของหวานไม่ใช่เหรอ แต่พอลูกค้าได้ชิมก็ตามมาที่บูธ ทำให้เรามีโอกาสเล่าเรื่องว่าซอสของเราเกิดจากมะม่วงของสวนที่บ้านเราเอามาแปรรูปเป็นซอสที่อยู่ในขวดนี้ค่ะ เราอยากให้คนไทยได้ทานซอส โดยความเปรี้ยวความหวานของซอสมันคือเนื้อมะม่วง ซึ่งในแต่ละขวดใส่มะม่วง 50 เปอร์เซ็นต์ค่ะ
เรามาออกบูธในงาน OTOP ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่ 5 มีลูกค้ารู้จักขึ้นเยอะ มีโทร.สั่งซื้อค่ะ แต่ครั้งแรกลูกค้ายังไม่รู้จักก็จะถามว่า ซอสอะไร ซอสศรีราชาเหรอ ซอสพริกเหรอ ซอสมะเขือเทศเหรอ เราเลยขออนุญาตลูกค้าอธิบายว่า เราใช้มะม่วงจากสวนที่บ้านเรามาแปรรูป มีคนงานปลอกมะม่วง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อยู่บ้านเฉย ๆ ก็มาปลอกมะม่วงกันเยอะ หรือช่วงเด็กปิดเทอมก็มาปลอกมะม่วง ทำให้คนในละแวกนั้นมีรายได้ บางคนปลอกมะม่วงได้วันละ 300-700 บาทกลับบ้าน เรารู้สึกดีใจที่สร้างรายได้ให้คนในละแวกบ้านค่ะ
สำหรับซอสทัยของเราตอนนี้มี 3 รสชาตินะคะ ซอสมะม่วงรสดั่งเดิม ขวดละ 70 บาท ทานกับปิ้งย่าง ชาบู หมูกระทะ บาบีคิว แม้กระทั่งไข่เจียวง่าย ๆ ก็ทานกับซอสเราได้ค่ะ, ซอสมะม่วงสามรส เด็กก็ทานได้จิ้มกับไก่ทอด ราคาขวดละ 70 บาท, และตัวที่ 3 ซอสมะม่วงสุกี้ 75 บาท เราเอาใจแม่บ้านที่ชอบทำสุกี้ ถ้าที่บ้านมีผัก มีวุ้นเส้นและเนื้อสัตว์ใส่ซอสของเราทำเป็นสุกี้แห้งและสุกี้น้ำได้ แต่ไม่ต้องปรุงรสชาติเป๊ะเลยค่ะ เราจึงอยากให้มีซอสของเราไปอยู่ในครัวของแต่ละบ้าน และอยากให้คนไทยเปิดใจซอสทัย เป็นซอสออกมาใหม่และอร่อยโดยได้กระแสตอบกลับจากลูกค้าเวลาออกบูธจะมีชาวต่างจาก อาทิ สิงคโปร์ (ขณะสัมภาษณ์ก็มีช่องยูทูบมาไลฟ์สด), เกาหลี, มาเลเซีย ฯลฯ และซอสของเรามีส่งออกนอกประเทศมี ฮ่องกง จริง ๆ มีไปตุรกีแต่เขาบอกต้องไปทำฮาลาลก่อน ตอนนี้เราได้ฮาลาลแล้วนะคะ (เล่าไปยิ้มไป) แล้วเราเตรียมตัวจะไปอีกหลาย ๆ ประเทศค่ะ
เพิ่งทราบว่าซอสทัยมีโอกาสได้เข้าวังด้วย? จริง ๆ ทางจังหวัดส่งพี่ไปทำให้ซอสของเรามีโอกาสเข้าไปอยู่ในห้องเครื่องในวังสระปทุมค่ะ โดยก่อนหน้ารับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ ท่านเห็นซอสมะม่วงทรงถาม พี่ก็เล่าให้ท่านฟังเป็นเวลานาน จนองครักษ์มาถามว่าท่านตรัสถามเรื่องอะไรค่ะ
ส่วนในอนาคตมีไอเดียต่อยอด “MANGO PUREE” เป็นมะม่วงธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์เลยค่ะ ลูกค้าสามารถนำไปทำเค้ก ทำขนม ทำไอศกรีม ทำเป็นกาแฟมะม่วง ซึ่งก็มีลูกค้าสนใจซื้อในปริมาณมาก ๆ ค่ะ แต่ปีนี้เราไม่สามารถขายในจำนวนเยอะ ๆ ได้เราจะขายแค่ที่เรามีมะม่วงก่อน ส่วนปีหน้าว่ากันอีกทีค่ะ แต่สำหรับซอสทัยเราเตรียมจะนำเข้าไปจำหน่ายใน Gourmet Market กูร์เมต์ มาร์เก็ต สำหรับลูกค้าสนใจสั่งซื้อได้ที่ 081-927-4274, เฟซบุ๊ก saucethaigroup หรือแวะมาที่บูธ Y57 เสาที่ 30 ฉะเชิงเทรา ได้ค่ะ”