พิจิตร เมืองเล็ก…แต่น่ารัก
ถิ่นประสูติพระเจ้าเสือ แข่งเรือยาวประเพณี พระเครื่องดีหลวงพ่อเงิน เพลิดเพลินบึงสีไฟ ศูนย์รวมใจหลวงพ่อเพชร รสเด็ดส้มท่าข่อย ข้าวอร่อยลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน คำขวัญจังหวัดพิจิตร เมืองแห่งตำนานประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย อยุธยา ธานี มาจนถึงวันนี้ พิจิตร เมืองแห่งอู่ข้าวอู่น้ำ หล่อเลี้ยงคนไทยมาช้านาน ตำนานเรื่องราว ของชาละวันอันโด่งดัง. พิจิตรยังมีสิ่งสวยงามในด้านการท่องเที่ยว เมืองแห่งผลไม้หลากหลาย ไร่นาสวนผสมกับศูนย์การเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง มองไปทางไหนท้อง ทุ่งนาเขียวขจีตลอดเวลา ประตูเมืองพิจิตร เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์มั่นใจ ได้หากมากราบไหว้หลวงพ่อเพชร แห่งวัดท่าหลวง ริมลำน้ำน่าน รับรองว่าอยากกลับมาพิจิตร เพราะหลงเสน่ห์ไปแล้วแบบไม่รู้ตัว
จังหวัดพิจิตร ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท.สำนักงานนครสวรรค์ ที่กำกับดูแลพิจิตรด้วย ได้มีการวางแผนโฆษณา ประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร กับการแถลงข่าวเปิดมุมมอง พิจิตร เมืองเล็ก…แต่น่ารัก โดยเปิดสถานีรถไฟพิจิตร เพื่อจัดงานแถลง ข่าวครั้งนี้ ทำให้บริเวณสถานีรถไฟกลายเป็น ตลาดนัดแห่งความสุข รองรับนักท่องเที่ยวที่ จะมาเยือนพิจิตรทางรถไฟ ต้องได้เห็นภาพสวยงามของตึกโบราณการรถไฟที่สวยสง่ามานานแล้ว กับเรื่องราวที่น่าสนใจของพิจิตร
เรานัดหมายกันที่หน้าอาคารสำนักงานใหญ่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ในเช้าวันหนึ่งกับอากาศ แสนดีเย็นสบายในฤดูหนาว จุดมุ่งหมายในการเดินทางครั้งนี้ จะเข้าไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองของจังหวัดพิจิตร สอดรับกับนโยบายการท่องเที่ยวปีนี้ ท่องเที่ยววิถีไทย ดึงเอาศักยภาพเมืองรองของการท่องเที่ยวมาสร้างกระแสต่อยอดในการกระจายรายได้ให้กับชุมชุมที่จะดึงเอาโปรดั๊กของสถานที่นำมาเป็นจุดขาย สนองตอบการท่อง เที่ยวให้ยั่งยืนต่อไป พิจิตรยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายทั้งศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ตำนานโบราณที่สามารถเป็นสตอรี่ เรื่องราวที่น่าสนใจ วันนี้เราจึงต้องเดินทางไป เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในด้านการท่องเที่ยว ของเมืองพิจิตร เมืองชาละวันตำนานจระเข้
เราเดินทางมาตามทางด่วนซึ่งจะออกบางปะหันเข้าสู่ ถนนสายเอเซีย แวะรับประทานอาหารเช้ากันแถวบางปะหันกับข้าวแกงเลิศรส แล้วออกเดินทางผ่านอ่างทอง-สิงห์บุรี-ชัยนาท-อุทัยธานี-เข้าสู่นครสวรรค์ เดินทางมาถึงรอยต่อ แวะทานอาหารมื้อเที่ยงด้วยเมนูอาหารที่เต็ม ไปด้วยปลาน้ำจืดแสนอร่อย เรามาลองลิ้มอาหารปลาก่อนที่จะสัมผัสรสชาติอาหารที่ทำจากปลาอันเลิศรสของเมืองพิจิตร
พวกเราเดินทางมาถึงจังหวัดพิจิตรในช่วงบ่ายๆ สิ่งแรกที่ทาง ททท.นำสื่อมวลชนทั้ง หมดมาไหว้หลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวงริมแม่น้ำน่าน เพื่อเป็นสิริมงคล เพราะหลวงพ่อเพชร คือพระคู่บ้านคู่เมืองพิจิตร สร้างในสมัย สุโขทัย สวยงามน่าเลื่อมใส พูดถึงวัดท่าหลวงจะมีงานสมโภชประจำปีในวันเพ็ญเดือน3ขึ้น15ค่ำ จะมีการไหลเรือไฟอย่างสวยงามกับตะเคียงนับแสนดวง บนเรือไฟ ขนาดใหญ่ 2 ลำจะทำให้เห็นความยิ่งใหญ่ของงานสมโภชประจำปีของวัดท่าหลวงและ ของจังหวัดพิจิตร ซึ่งจะมีอีกไม่กี่วันจนถึงสิ้นเดือนมกราคม นับว่าเป็นงานใหญ่งานหนึ่ง
กราบนมัสการหลวงพ่อเพชรเสร็จ เราเดินทางไปยังวัดคลองคู้ ศูนย์การเรียนรู้ทางพุทธศาสนา ภายในบริเวณวัดร่มรื่น เต็มไปด้วยพระรูปของเกจิอาจารย์ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จโตพรหมรังสี(หลวงพ่อโต) หลวงปู่ทวด ครูบาศรีวิชัย หลวงปู่ฝั้น คือมีทุกภาค นำมาสร้างไว้ในวัดแห่งนี้ ยังมีรูปปั้นเกี่ยวกับนรก-สวรรค์ให้คนได้เรียนรู้และศึกษากับการ ดำรงชีวิตที่อยู่ในกรอบศีลธรรม จะทำให้ชีวิตรุ่งเรืองได้ ซึ่งทางวัดคลองคู้ ได้สร้างสถานปฏิบัติธรรมขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้เป็นสถานปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานจริงๆ มีการปลูกพืชสมุนไพรเพื่อการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับตำรับยาไทยโบราณ ซึ่งจะกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้อีกแห่งหนึ่ง วัดคลองคู้ในอดีตที่หลวงพ่อแววได้มาพลิกฟื้นให้กลายเป็นวัดที่สร้างความศรัทธาบารมีให้กับสาธุชน ภายในวัดมี มากมายให้ได้เรียนรู้ ลองแวะเข้าไปสัมผัสดู จะรู้ว่าวัดคลองคู้น่าสนใจไปศึกษา
เราออกจากวัดคลองคู้ เพื่อเดินทางไปท่าฬ่อ เพื่อไปกราบนมัสการศาลเจ้าแม่ทับทิมที่แห่งนี้เคยเป็นตำนานเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ทับทิม เป็นที่แห่งเดียวในพิจิตรที่มีการเดินลุยไฟในเทศกาลกินเจ ดำเนินมาอย่่างต่อเนื่องมายาวนาน แม้ทางเข้า ไปสู่ศาลเจ้าจะคับแคบไปหน่อย พอถึงหน้า ศาลเจ้าจะมีต้นก้ามปูยักษ์อายุนับร้อยปีตั้งตระหง่านรองรับผู้ศรัทธาเจ้าแม่ทับทิมได้มากราบไหว้กัน ทางศาลเจ้าแม่ทับทิมอยากจะสร้างทางเดินคือทางลาดให้กับผู้สูงอายุคนพิการได้มาสักการะได้อย่างสะดวก คงต้องรองบประมาณจากทางจังหวัดซึ่งผู้ว่าพิจิตร รับปากไว้แล้ว คงจะต้องดีขึ้นในอนาคต
ออกจากศาลเจ้าแม่ทับทิม เวลาใกล้เย็นมากแล้ว เรามีนัดกับพระอาทิตย์ที่จะตกเวลาค่ำในบึงสีไฟ จึงต้องเดินทางกลับเข้ามาในเมืองเพื่อมาบึงสีไฟ ดูพระอาทิตย์ในยามอัศดงจะสวยงามแค่ไหน บึงสีไฟ มีรูปจระเข้ ยักษ์อยู่ด้านหน้าทางเข้า บึงแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นบึงใหญ่อันดับ3ของประเทศไทยรองกว๊านพะเยา-บึงบอระเพ็ด แล้วมาบึงสีไฟซึ่งเรานัดพระอาทิตย์ไว้แล้ว แต่ท้องฟ้ามีเมฆมาบดบังด้วยความอิจฉา เราจึงไม่สามารถเก็บภาพความสวยงามในยามอาทิตย์อัศดงที่บึงสีไฟต้องอำลากลับไปทานข้าวกับเมนูอาหารที่ เกี่ยวกับปลาเลิศรสนุ่มลิ้น ก่อนที่จะเดินทางเข้าไปพักโรงแรม คืนนี้อากาศแสนดีไม่หนาว เกินไป คืนนี้ต้องการพักผ่อนหลังจากที่ลุยงานมาทั้งวัน พรุ่งนี้เช้าเรามีนัดกันที่ตลาดต้องชม หน้าจวนผู้ว่าพิจิตรกับกิจกรรมเพื่อสานฝันให้เยาวชนกับการรู้จักทำมาหากิน คืนนี้หลับอย่างสบายๆพรุ่งนี้ตีห้าตื่นมาทำบุญ