หนังดีติดดาว***

หนังดีติดดาว***

               “Bad Genius แบด จีเนียส” ฉบับฮอลลีวูดที่รีเมกจากภาพยนตร์ไทยปรากฏการณ์พันล้าน “ฉลาดเกมส์โกง” (2560) สู่อีกขั้นของการโกงข้อสอบระดับนานาชาติ! กับเรื่องราวของ “ลินน์” (คัลลินา เหลียง) นักเรียนสาวสุดจีเนียสมากพอที่จะไม่หยุดฉลาดแค่เพียงเพื่อทุนการศึกษาของตัวเอง แต่เธอกลับใช้ความฉลาดของเธอแลกเปลี่ยนเป็นเงินมหาศาลด้วยการรับจ้างโกงข้อสอบภายในห้องเรียนจากเพื่อนร่วมชั้นผู้ร่ำรวย จัดรอบเกมโกงที่ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า

               หนังฮอลลีวูดที่เอาหนังไทยเรื่อง “ฉลาดเกมส์โกง” (2560) รีเมกขึ้นมาใหม่ เนื้อเรื่องหลัก ๆ จะคล้ายกับต้นฉบับเดิม มีการปรับปรุงเรื่องความสมเหตุสมผล การถูกสถานการณ์บังคับ ที่ดูมีน้ำหนัก สมเหตุสมผล เป็นไปได้ในชีวิตจริงมากขึ้น เล่ห์กลที่ทำขึ้นมามีที่มาที่ไป ในการคิดได้แนบเนียน ดูเป็นธรรมชาติมาก ดูแล้วปิ๊งได้เลย ไม่ต้องถึงขั้นต้องอัจฉริยะเท่านั้น หรือให้ต้องรู้สึกคิดไอเดียนี้ ได้ไงเนี่ย เหตุผลที่ทำให้ตัวละครแต่ละคนเลือกทำการโกง โดยแต่ละคนดูมีน้ำหนัก เบื้องหลังที่ดี การกระทำของตัวละครดูมีเหตุผลในตัวมันเองชัดเจน แต่ที่โดดเด่นแตกต่างกัน คือ การมีใจที่จะช่วยเหลือ กลุ่มฝรั่งผิวขาว จะแนวลงตัวได้ด้วยผลประโยชน์ งานเป็นงาน ส่วนกลุ่มคนต่างชาติ ทั้งผิวสีและเอเชียจะแนวให้ใจผสมไปด้วย ซึ่งมันมีมากกว่าแค่ผลประโยชน์ในด้านแง่คิด ดูสรุปแล้ว ให้แง่คิดในทางที่ดีมากกว่าต้นฉบับ โดยเฉพาะเรื่องการได้รับผลของการกระทำ ตัวเอกในหนังรีเมค ดูจบแล้วมีคุณธรรมมากกว่าต้นฉบับอย่างชัดเจน ในส่วนของการแสดงนั้นตัวละครหลักเล่นได้เป็น ธรรมชาติมาก รู้สึกได้ถึงบทบาทที่ได้รับของตัวละคร สถานการณ์นั้น ๆ ในเรื่องการแสดง สำหรับการเดินเรื่องทำได้ไหลลื่นกว่าต้นฉบับ แต่ต้นฉบับมีช่วงกดดัน ทำได้เข้มข้นมากกว่า นั่นคือความต่างของหนังต้นฉบับกับรีเมคเนื้อหาดูกลมกล่อม ดูมีคุณธรรมมากกว่า

ติดให้ *** ครึ่ง

000

               “PREY ขย้ำ” นำเสนอโดย มูฟวี่ ก็อปปี้ไรท์ (ไทยแลนด์) นำคอหนังสู่เส้นทางหฤโหดเมื่อ “ผู้ล่า” กลายเป็น “ผู้ถูกล่า” และเมื่อนั้นหนทางสู่การเอาตัวรอดก็เริ่มต้นขึ้น โดยผู้กำกับฯ มูกุนดา ไมเคิล เดวิล ผลงานเรื่องล่าสุดของ ไรอัน ฟิลิปเป้, มีนา ซูวารี และ เอมิล เฮิร์ช เปิดรอบขย้ำ ณ เมเจอร์ รัชโยธิน

               หนังก็ออกแนวผู้ประสบภัยสู้กับสัตว์ป่าในท้องทุ่งแอฟริกา แนวคล้าย ๆ เอาตัวรอด แล้วก็มีตัวหลักเป็นสิงโต พวกที่เหลือจากเครื่องบินตกก็ต้องหาทางรอดในป่าซาฟารี ก็ตื่นเต้นในระดับนึงแต่ลุ้นระทึกมันยังไม่สุด แค่พอดูได้ แล้วบางอย่างก็ไม่สมเหตุสมผลเท่าที่ควร กรณีเครื่องบินตกมีคนตายคนเดียว แถมแว่นตาของพระเอกนี่ยังไม่หลุดจากหน้าแค่กรอบร้าวเท่านั้น ส่วนคนอื่นไม่ได้บาดเจ็บกันเลยเดินกันตัวปลิวควรมีสาหัสหน่อย เพราะเครื่องบินขาดสองท่อนเลย ส่วนตัวเอกผู้หญิงที่รอดก็บาดเจ็บเลือดออกซึ่งเป็นสาเหตุให้สัตว์กินเนื้อได้กลิ่นเลือดจึงมาที่ซากเครื่องบิน ฉากก็ดูได้ ส่วนสิงโตก็พอดูรู้ว่ากราฟฟิกมาผสม ซึ่งหนังไม่มีอะไรน่าลุ้นมากมาย แต่บางฉากก็ทำให้ลุ้นในที่แคบ ๆ หน่อย ทว่ามันก็ยังไม่สุด ดูแล้วหว่า มันน่าจะตื่นเต้นกว่านี้ หรือให้ลุ้นระทึกกว่านี้ ซึ่งคุ้น ๆ มันเคยมีหนังสิงโตขย้ำเหยื่อแนวนี้แต่จำชื่อหนังไม่ได้แล้วซึ่งเรื่องนั้นระทึกว่า แต่เรื่องนี้มีเรื่องของการศรัทธาพระเจ้ามาเกี่ยวข้องด้วย ส่วนฉากขย้ำไม่ได้ให้เห็นภาพแค่เห็นกองเลือด กองไส้ที่ถูกสัตว์กัดกิน ก็อาศัยอารมณ์สื่อและเสียงซาวน์ประกอบ เสียงซาวน์ก็พอใช้ได้ เช่นเสียงสิงโตคำราม แต่ไม่ค่อยหลอน สำหรับนักแสดงหน้าคุ้น ๆ พวกเขาโตกว่ายุคที่เราเคยเห็นเขาแสดง ฝีมือการแสดงทุกคนเล่นกันดี เล่นกับกราฟฟิกได้ดี

ติดให้ ** ครึ่ง

000

               Taklee Genesis : ตาคลี เจเนซิส ผลงานของผู้กำกับผู้กล้าทำแนวไซไฟ มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ที่นำแสดงโดย พอลล่า เทย์เลอร์, ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล, วอร์ วนรัตน์ รัศมีรัตน์, นีน่า ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน, ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล จัดรอบพิเศษ ณ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ศูนย์การค้า The Emquartier

               เป็นหนังไทยไซไฟที่มาจาก need ของผู้สร้างมากกว่าความคาดหวังคนดู ซึ่งเป็นครั้งแรกของผู้กำกับ มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ที่กล้าก้าวสู่ไอเดียใหม่ ๆ พร้อมกับงานโปรดักชันซีจีที่อยากยกระดับหนังไทยจนเข้าตาค่ายวอร์เนอร์ บราเธอร์ส รับเป็นผู้จัดจำหน่ายให้ กับเรื่องราวที่เป็นตำนานเล่าขานเรื่องแหวนวิเศษของดอนหาย หนังมีความเป็นแฟนตาซีผจญภัยภารกิจอยู่ในเนื้อเรื่อง โดยมีสเตลล่า (พอลล่า เทย์เลอร์) ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเป็นตัวเอกที่ออกเดินทางและพบอุปสรรค โดยเนื้อเรื่องมีทั้งการผจญภัยของตัวละครที่ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ และผ่านกาลเวลา มีการเมือง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาผสมรวมกับไซไฟทำให้เรื่องดูน่าติดตาม จากนั่งดูบางฉากก็ไม่รู้จะยัดเข้ามาทำไมไม่สมเหตุผล แต่บางฉากก็น่าสนใจ ภาพรวมของหนังที่ผสมปนเปกันเป็นเรื่องราวที่ผู้กำกับนำหลายอย่างมาผสมทั้งวิทยาศาสตร์ เรื่องลี้ลับ ตำนาน สัตว์ดึกดำบรรพ์ เบ็ดเสร็จเรียงร้อยเรื่องให้ดูสนุกได้เหมือนกัน เมื่อตัวละครเริ่มออกเดินทางผจญภัยโดยมีเราตามลุ้นว่าจะไปสิ้นสุดตรงไหนอย่างไร มาที่การแสดงของพอลล่าที่ห่างการแสดงไปนานเลยบางฉากก็สื่ออารมณ์ออกมาให้เชื่อได้ แต่บางฉากอารมณ์ก็ไปไม่สุด แท้จริงหนังต้องการสื่อให้เห็นจากที่กล่าวข้างต้นโดยพาเราไปไกลถึงสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่ซีจีเนียนประมาณหนึ่ง ถือว่ามะเดี่ยวกล้าทำหนังแนวนี้เพื่อมีชื่อผู้กำกับหนังไทยไซไฟก็พอได้นะ

ติดให้ ***

000

               บริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานรอบกาล่า พรีเมียร์ภาพยนตร์อะนิเมชันสัญชาติไทยเรื่องแรก “Out of The Nest องครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ” กับการถ่ายทอดเรื่องราวของ “อาร์เธอร์” แพะหนุ่มวัยรุ่นที่มีความมุ่งมั่นมาร่วมผนึกกำลังกับเหล่าลูกเจี๊ยบทั้ง 7 เพื่อทำภารกิจสุดยิ่งใหญ่ในการกำจัดพลังมืดของพ่อมดชั่วร้ายและกอบกู้อาณาจักรแคสตีเลีย อันเป็นที่รักกลับคืนมาให้ได้ โดยจัดรอบฉาย ณ ไอคอนสยาม

               เป็นอะนิเมชันของไทย นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนแล้วเข้าไปดูเลย คงคิดว่ามาจากประเทศจีน แน่นอน เพราะทั้งเรื่องราว ฉากสถาปัตยกรรม หรือ ชื่อตัวละคร ก็แทบเป็นชื่อจีนทั้งสิ้น ซึ่งทำออกมาได้ดีมาก ๆ เป็นตัวตนแบบจีนแท้ ๆ บทภาพยนตร์ เรื่องราว ดูง่ายได้ทัศนคติที่สอนแฝงไว้เรื่อย ๆ เป็นอะนิเมชันที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยไม่ใช่เฉพาะเด็ก ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ไปดูก็สนุกเช่นกัน ตัวเอกแต่ละตัวก็สีสันสดใสน่ารัก เนื้อเรื่องมีการผจญภัยตลอดไม่พาให้ง่วงหรือเบื่อเลย เพราะเนื้อเรื่องสนุกตลอดเรื่องจนจบ แต่ละตัวละครมีความโดดเด่น ความสามารถเฉพาะตัวชัดเจน เว้นแต่กลุ่ม ‘ลูกเจี๊ยบ’ นั้นดูเหมือนความสามารถ บทบาท ทั้ง 7 ตัว ไม่ค่อยสมดุลเท่าไหร่ บางตัวโดดเด่นมาก ทั้งความสามารถ และโอกาสแสดง ในขณะที่บางตัวบทบาทน้อยเกินไป ในส่วนของฉากต่าง ๆ วาดออกมาได้ดีเยี่ยม สวย เนียนตา ฝีมือเทียบระดับโลกได้สบาย เรื่องกราฟฟิกการเคลื่อนไหวของตัวละครดูเป็นธรรมชาติไม่ติดขัด ชื่นชมอะนิเมชันฝีมือคนไทยที่เทียบเท่าระดับโลก ดูสนุก แถมได้แง่คิด และทัศนคติที่ดี

ติดให้ ****

000

   คำถามจากภาพยนตร์เรื่อง “องครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ” : ในเรื่องมีลูกเจี๊ยบกี่ตัว?

ทราบคำตอบเขียนใส่ ไปรษณียบัตร พร้อมชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรให้ชัดเจน ส่งมาที่

“หนังดีติดดาว” 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ผู้ตอบถูก 2 ท่าน จะได้รับของรางวัล จาก บริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัลเล่นเกม

000

               “วีนา คืนบาป สาปจากหลุม – VINA: BEFORE 7 DAYS” เป็นภาพยนตร์สยองขวัญปนชีวิต สัญชาติอินโดนีเซีย ที่โปรดิวเซอร์โดย Dheeraj Kalwani, ผู้เขียนบท: Bounty Umbara, Dirmawan Hatta และผู้กำกับ Anggy Umbara ภายใต้การผลิตของบริษัท    Dee Company ได้จัดฉายรอบสื่อที่ เมเจอร์ รัชโยธิน

               สร้างจากเรื่องจริงสุดสะเทือนขวัญและน่าสยดสยองที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย เมื่อวิญญาณเหยื่อสาว “วีนา” เข้าสิงเพื่อนสนิทเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง จากถูกฆ่าข่มขืนโดยกลุ่มคนร้ายใช้อิทธิพลมืดปิดคดีให้เป็นคดีอุบัติเหตุ มันเป็นเรื่องจริงที่ทุกประเทศผู้หญิงมักโดนกระทำแบบนั้น แต่ผู้กำกับกล้าที่จะนำความจริงมาตีแผ่ให้ทั่วโลกรับรู้ความอำมหิตของมนุษย์ที่มีเลือดมีเนื้อเหมือนกันแต่ทำร้ายคนอื่นอย่างกับตัวเองเป็นสัตว์ หนังเดินเรื่องกระชับ ไม่เห็นภาพวีนาโดนข่มขืน แต่ต้องการเน้นวิญญาณของวีนาลุกจากหลุมมาทวงความเป็นธรรมโดยยืมร่างคนอื่นเข้าสิง ยิ่งตัวถูกผีวีนาเข้าสิงต้องใช้พลังเยอะ ไม่เน้นสวย เน้นท่าทางถูกผีเข้าไม่รู้ว่าเธอเคยเจอเหตุการณ์นี้ไหม แสดงออกมาชวนหลอนน่าดู ฉากผีเข้าทำให้นึกถึงหนังไตรภาคฝรั่งที่บาปหลวงมาไล่ผี จุดขายของเรื่องคือฉากผีวีนาเข้าสิงถ่ายทอดท่าทาง อารมณ์ได้เกร็งตามคนถูกผีเข้า เรื่องผีนี่อย่าลบลู่เชียวเพราะบ้านเราก็มีหมอปราบผี ซึ่งเป็นหนังออกวังเวง ทึม ๆ เสื้อผ้าก็เหมาะกับบ้านเมืองทางโน้น หนังเดินเรื่องไม่ยืดเยื้อ ซึ่งหนังผีก็จะทำไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ แต่ยกนิ้วให้ผู้สร้างที่กล้าตีแผ่โฉมหน้าพวกชั่วแม้จะมีอิทธิพลก็ตาม จากดูจบก็อยากให้คนที่ถูกกระทำโดยไม่ยุติธรรมมาเข้าสิงและทวงความเป็นธรรมแบบวีนานะ แม้จะหลอนแต่ก็สะใจดี แล้วทำให้ได้รู้ว่าไม่ใช่เฉพาะเราที่สร้างหนังคืนบาปพรหมพิรามที่มาจากเรื่องจริง ประเทศที่วีนาอยู่ก็มีคนกล้าตีแผ่ความจริงที่เกิดขึ้นเช่นกัน

ติดให้ ** ครึ่ง

000

               “Beetlejuice Beetlejuice” ของ “ทิม เบอร์ตัน” กลับมาแล้ว พร้อมด้วย ไมเคิล คีตัน และนักแสดงคนอื่นที่กลับมาร่วมงานกัน อาทิ แคทเธอรีน โอ’ฮาร่า ในบท ดีเลีย ดีตซ์ พร้อมด้วยนักแสดงใหม่ในทีม จัสติน เทอรู, โมนิก้า เบลุคชี่, อาร์เธอร์ คอนติ ร่วมกับ เจนนา ออร์เทกา ในบท แอสทริด ลูกสาวของลิเดีย และวิลเล็ม ดาโฟ ได้จัดรอบฉาย ณ พารากอน ซีนีเพล็กซ์

               เป็นภาพยนตร์ภาคต่อสุดเบาสมอง เลยหันไปถามคนข้าง ๆ เคยดูภาคแรกไหม เขาตอบว่าเคยแต่จำไม่ค่อยได้นานนนแล้ว จากที่ภาคแรกจนมาถึงภาคนี้ผ่านไปนานทำให้ต้องเกริ่นตัวละครแต่ละคนพอสมควร ก่อนจะเริ่มเข้าสู่เรื่องราว และภาคนี้เพื่อเป็นการนำ บีเทิลจู๊ดส์ มาให้ fc หายคิดถึงและเอาใจก็ยังคงมีกลิ่นอายความเพี้ยนแบบกอทิกที่เป็นเอกลักษณ์ของทิม เบอร์ตันเช่นเดิม ถ้าใครไม่เคยดูภาคแรกพอมาดูภาคนี้ก็เป็นการนำภาคก่อนมาเล่นซ้ำโดยไม่มีอะไรแปลกใหม่มากนัก และบางฉากใส่อะไรมาก็ไม่รู้ดูเยอะเกินไปจนรู้สึกอ้าปากขำไม่ออก มิหนำซ้ำขาดความน่าตื่นเต้นเร้าอารมณ์ หากก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Beetlejuice Beetlejuice ยังคงความสนุกสนานอยู่พอตัวนะ  มาที่นักแสดงนำ อย่าง ไมเคิล คีตัน ในบท บีเทิลจูดส์ และ เจนนา ออร์เทกา ในบท แอสทริด ทั้งสองสะกดคนดูให้อยู่กับจอได้ดีทีเดียว อย่างว่าทั้งสองชั่วโมงบินการแสดงสูงมากกก ถ้าพูดตรง ๆ จากดูจบภาคนี้เป็นการมอบความสุข ความคิดถึงในช่วงที่ห่างหายไปนานจึงกลับมามอบความตลกในแบบที่เบอร์ตันถนัด รวมถึงปีศาจของเบอร์ตันก็ยังทำให้ทุกคนตกใจได้เสมอที่ออกมา เราก็เป็น fc เบอร์ตันหลายเรื่อง ถือว่าการกลับมาของบีเทิลจูดส์เป็นการมอบความบันเทิงให้หายคิดถึง พร้อมความสดใหม่และน่าตื่นเต้น สำหรับคอหนังที่เป็นแฟนของบีเทิลจูดส์ภาคแรกหรือชอบผลงานของเบอร์ตันก็จะเพลินก็ได้

ติดให้ ***

000

   คำถามจากภาพยนตร์เรื่อง “Beetlejuice Beetlejuice” : ใครรับบท บีเทิลจูดส์?

ทราบคำตอบเขียนใส่ ไปรษณียบัตร พร้อมชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรให้ชัดเจน ส่งมาที่

“หนังดีติดดาว” 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ผู้ตอบถูก 3 ท่าน จะได้รับของรางวัล จาก วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัลเล่นเกม

000

               “EXIT ปิด เกม ล่า” ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญชวนลุ้นของแก็งเพื่อนที่ต้องมาเล่นเกมสุดโหด เพื่อหาทางออกเอาชีวิตรอดให้ได้ แสดงนำโดย ออกัส-วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์, มุก-วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์, เฟรม-ศุภัคชญา สุขใบเย็น, ไบร์ท-รพีพงศ์ ทับสุวรรณ, ร่วมด้วย  Nguyen Ngoc Lan Vy (หง็อก ลาน วี), กัน-ณภัทร ณ ระนอง, ดรีม-ณัฐณิชา เหลืองอนันต์คุณ,พิม-พิมพ์สัจจี ไชยสัจ, เฟริสท์-ฉลองรัฐ นอบสำโรง, แอล-ณัฏฐ์พัชร์ เทอดธนกาญจน์, บลอสซั่ม-ธงทอง กล่อมกมล, เป๊ก-เมืองไทย จิรวงศ์นิรันดร และ เกริก ชิลเลอร์ โดยผู้กำกับมากฝีมือไฟแรง “เฮนรี่ วิลเลี่ยม เอเฮินต์”

               เป็นหนังไทยที่ทำออกมาได้สร้างสรรค์ดี มีการนำภาพวาดเกี่ยวกับศาสนาคริสต์มาเป็น ความหมายของแต่ละช่วงตอนด้วย จุดนี้ถือว่าสวยงามมาก เป็นเอกลักษณ์ดี ในส่วนของบทภาพยนตร์เดินเรื่องไม่ค่อยมีที่มาที่ไปสักเท่าไหร่ ทำให้ดูแล้วจับประเด็นที่ต้องการจะสื่อได้ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ความสัมพันธ์กับชื่อตอนก็มีบางส่วน ไม่ได้เด่นชัดมาก จะมีแค่ตอนเดียวที่ทำออกมาได้ชัดตรงมาก ไอเดียในการสร้างเงื่อนไขแต่ละเกม ถือว่าสร้างสรรค์ดี คนที่รอดกับไม่รอดนั้นเดากันแทบไม่ถูก พลิกไปมาได้ลุ้นดี ถือว่าทำให้คนดูคาดการณ์อะไรไม่ได้ ซึ่งได้อรรถรสการถูกไล่ล่า ไม่แน่นอนได้ดี แต่ฉากที่ใช้ในการแสดงดูเรียบง่ายไปหน่อยไม่มีอะไรมาก บรรยากาศก็ยังทำได้ไม่สยองมากเท่าไหร่นัก  ทว่าจังหวะทำให้ตกใจ ประหลาดใจทำได้ลงตัวดี แต่ก็มีน้อยไปหน่อย มาที่นักแสดงแต่ละคน ดูดีหล่อสวยเป็นหลัก แต่ยังเล่นได้ไม่เข้าถึงตัวละคร ยังติดเก๊กผสมอยู่มากเกินไปดูไม่เป็นธรรมชาติ ทำให้ดึงอารมณ์ได้ไม่เท่าที่ควร ทำให้ดูแล้วเหมือนต่างคนต่างเล่น ดูไม่ธรรมชาติ ซึ่งจะเล่นเข้าขากันแค่บางช่วงเท่านั้น

ติดให้ **

000

               “Project Silence เขี้ยวชีวะคลั่งสะพานนรก”อภิมหาภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากเกาหลี พร้อมสร้างความระอุครั้งใหม่ให้กับผู้ชมทั้งโลก พบ “อีซอนคยุน” (Parasite), “จูจีฮุน” (Along With the Gods 1-2), “คิมฮีวอน” (Moving) และ “คิมซูอัน” (Train to Busan) นำทีมจุดชนวนความมันกับสามความพินาศที่ต้องรอด! “มหันตภัยหมอก” ปกคลุมทั้งสะพาน ทำทัศนวิสัยแทบเป็นศูนย์ก่อเกิดอุบัติเหตุวินาศสันตะโรจนเส้นทางข้ามไปสู่อีกฝั่งกลายเป็นอัมพาต

               เห็นฝีมือการแสดงของ “อีซอนคยุน” แล้วเสียดายและคิดถึงยังไม่อยากเชื่อเขาเสียชีวิตแล้ว แต่เขาได้ฝากฝีมือการแสดงในบทเจ้าหน้าที่ของรัฐมนตรีความมั่นคงและบทพ่อที่ต้องปกป้องลูกจากหมาวายร้ายที่ไล่ล่าขย้ำผู้คนที่ติดแหง็กบนสะพานจากอุบัติเหตุไม่คาดคิด  พล็อตไม่ได้แปลกใหม่เปลี่ยนจากซอมบี้เป็นหมา มิหนำซ้ำหมาก็เป็นหมาที่มีหัวจิตหัวใจของความเป็นแม่ที่อยากปกป้องลูกเหมือนกับพระเอกที่พยายามปกป้องลูกตัวเองจากหมาที่ถูกดัดแปลงใช้เป็นอาวุธสงคราม แต่มันดันมาล่าคนเพราะอุปกรณ์ขัดข้อง บทลุ้นระทึกดี บู๊มันสะใจและตื่นเต้นแถมมุกตลกที่มาเรื่อย ๆ ให้คลายความตึงเครียดจากหมาที่ดุร้าย แววตาดุดัน เกาหลีเขียนบทเก่งเข้าใจผูกเรื่องว่าทุกคนที่เจอกันที่สนามบินต้องมาเผชิญชะตากรรมเสี่ยงชีวิตด้วยกันอย่างไม่คาดคิด เสียดายจริง ๆ ยิ่งเห็น อีซอนคยุน ในบทพ่อที่เขาทุ่มเทการแสดงฝากให้เราจดจำมันน่าเศร้า อย่างที่บอกเขาผูกเรื่องดี มีครบรสเลยทั้ง บู๊มันตื่นเต้น ลุ้นระทึก ซาวน์เสียงหมาทำดีน่ากลัว เสียเห่าก็ดุดัน แถม กราฟฟิกก็ทำให้หมาดูดุดัน น่าเกรงขาม และเห็นถึงความรักลูกเหมือนมนุษย์ โดยหนังสอดแทรกความรักของสามีภรรยา ความรักของครอบครัว ความรักของสัตว์ซึ่งมีให้กันด้วย จริง ๆ ก็เหมือนซอมบี้ล่าคนแต่เปลี่ยนจากซอมบี้เป็นหมา แต่ end credit ทำภาคต่อได้เลยนะ

ติดเต็ม *****

000

Related posts