หนังดีติดดาว***

หนังดีติดดาว***

               “มงคลซีนีม่า” ไม่ช้าส่ง “I, The Executioner คู่เดือด นรกต้องกราบ” ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่สร้างปรากฏการณ์ความแรงมาแล้วจากการฉายเปิดตัวครั้งแรกที่ “เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 77” (2024) ในรอบ “Midnight Screening” ของผู้กำกับสายแอ็กชันมือรางวัล “รยูซึงวาน” ที่คว้านักแสดงมากฝีมือกระชากเรตติ้งโคจรมาปะทะกัน  ฮวังจองมิน ปะทะ จองแฮอิน ร่วมด้วยนักแสดงดังอีกคับคั่ง จัดรอบเดือดที่ เมเจอร์ รัชโยธิน

               ตอนแรกก่อนดูไม่รู้ข้อมูลอะไรเห็นโปสเตอร์ เรื่องย่อก็โอเค ก็เดาว่าแนวตำรวจบู๊หรือคู่หูร่วมกันบู๊ แต่พอดูเริ่มมาก็เอาฮาเลยพลิกล็อก นึกว่าเปิดมาจะบู๊ดุเดือดแต่กลายเป็นบู๊ตลกฮา จริง ๆ แล้วเหมือนหนังเฉินหลงเลยแค่เปลี่ยนตัวแสดงเป็นนักแสดงเกาหลี เพราะบรรดาตำรวจไม่ใช้ปืนแต่ใช้หมัดเตะต่อยล้วน ๆ หนังแนวนี้เด็กดูได้เลยนะ อีกทั้งแทรกมุกฮา ๆ  หลายฉากแม้เป็นภาษาเกาหลีก็ฮาขำได้ แล้ว ฮวังจองมิน ที่รับบทนักสืบตัวพ่อฝีมือฉกาจเล่นดีมากส่งอารมณ์ปล่อยมุกกับทีมของตัวเองได้ดีมาก ๆ แล้วต้องบู๊กับตัวร้ายก็บู๊แบบตามอายุแต่สู้ขาดใจ เป็นหนังแนวบู๊ตลก แต่เตะต่อยเสียงเอฟเฟกต์เตะต่อยหนักแน่นดูแล้วเจ็บแทน แต่ไม่มีหลุดให้เห็นเลย ที่สำคัญนักแสดงทั้งเรื่องเอาตัวท็อปของเกาหลีที่คุ้นหน้าคุ้นตาทั้งนั้นมาเล่นแม้บางคนออกกันนิด ๆ หน่อย ๆ ก็มาเล่นให้ หนังดูเพลินดูแล้วสะใจกับบู๊ ดีไซน์ฉากเตะต่อยออกมาเท่มันส์ แต่ฉากที่ประทับใจก็ฉาก ‘บู๊ตกบันได’ ย้ำอย่าละสายตาฉากนี้เด็ดขาด เคยเห็นตกบันไดมาก็เยอะแล้ว สำหรับฉากบู๊ตกบันไดได้น่ากลัวมากเพราะมีบู๊ขณะนั้นด้วย แต่ดูแล้วไม่มึนตา ต้องชื่นชมสตั้นแมนเล่นกันดีและตัดต่อออกมาดีเยี่ยม แบบ โอ้โห! ร่วงไม่หยุดเลย 555 ไม่ถึงขั้นสุดท้ายซะที คือมันส์ดีบู๊ตกบันไดได้นาน ชอบ ๆ นอกจากนั้นฉากบู๊อื่น ๆ ก็ดีไซน์ออกมาดี นักแสดงเล่นบู๊สะใจหมัดแลกหมัด เพียงแค่พล็อตและตัวร้ายไม่ต้องปิดบังสีหน้าก็รู้เลยเป็นใคร? ด้วยตัวหนังเน้นบู๊สะใจ แต่ก็มีลุ้นว่าในฐานะนักสืบที่ทำงานดีทุ่มเทแต่มีปมครอบครัวจะเลือกหน้าที่หรือความเลว! ตามแรงยุยง

ติดให้ ****

000

               ผลงานล่าสุดของ เซียะถิงฟง หรือ นิโคลัส เซียะ เรื่อง “Customs Frontline – คนมหากาฬพิฆาตนรก” ร่วมด้วย “จางเซียะโหย่ว” (จาก Bullet in The Head – กอดคอกันไว้อย่าให้ใครเจาะกะโหลก) ภาพยนตร์แอ็กชันเรื่องล่าสุดของ “เฮอร์แมน เหยา” เจ้าของฉายา ไมเคิล เบย์ แห่งวงการภาพยนตร์จีน-ฮ่องกง ได้ชื่อว่าเป็น 1 ในหนังจีนฟอร์มยักษ์ของปี 2567 ที่คอหนังทั่วโลกรอคอย ซึ่งเปิดฉากบู๊ระห่ำ ณ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนมา เซ็นทรัล ลาดพร้าว

               สนุกดี ดูแล้วเซียะถิงฟงจะหันมาเอาดีทางบู๊อย่าง เฉินหลง เขาพยายามเล่นบู๊เอง แต่เจ็บจริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่เนื้อเรื่องหลายฉากไม่ค่อยปะติดปะต่อกัน ส่วนฉากบู๊สะใจดี บู๊ลงทุนมาก นักแสดงทั้งเรื่องก็เล่นเข้าขากัน ส่วนหมีเซียะถ้าไม่สังเกตก็ไม่รู้เลยเพราะไม่ค่อยพูดเยอะ แต่ก็เข้าใจเน้นพระเอกนางเอก ส่วนคติเรื่องนี้สอนเรื่องความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ซึ่งบางคนรักษาความซื่อสัตย์ แต่บางคนรักษาความรักมากกว่า ถ้ามาเอาบู๊เอามันส์แนะนำเรื่องนี้ มีดราม่าไม่เยอะแต่เน้นบู๊ ชอบเอฟเฟกต์เสียงปืนยิงกันสะใจ ตุ่มตั้ม ๆ  ดูแล้วนึกถึงอาฉลอง ภักดีวิจิตรแนวระเบิดภูเขาเผากระท่อม โดยหนังทุ่มทุนทำฉากเอฟเฟกต์อลังการมาก โอ้โหยิงกันสนั่นหวั่นไหว ยิ่งฉากเรือชนท่าเรือ ถือเป็นฉากสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่พาให้นึกถึงตอนไปเที่ยวฮ่องกงจำท่าเรือนั้นได้เห็นแล้วเสียดายถ้าเป็นเรื่องจริง เพราะทำออกมาหวาดเสียว คนวิ่งหนีตายอลหม่านดูเนียนตา มาที่บทของมาดามผู้หญิงเยอะกว่าจางเซียะโหย่ว แต่นางวางมาดหัวหน้าได้ดี มิหนำซ้ำหลอกเราได้แนบเนียนจนเชื่อว่าคนนั้นเป็นคนทรยศ? และหนังยังสอดแทรกเรื่องโรคไบโพล่าที่เป็นกันเยอะอีก ทำให้เห็นถึงความเสี่ยงหากขาดยาทาน มิหนำซ้ำในเรื่องระดมนักแสดงระดับพระเอกรุ่นเก๋ามารวมกันแม้จะออกกันไม่กี่ฉากแต่ก็เล่นกันเต็มที่ ที่ชอบอีกฉากก็ฉากพระเอกเสี่ยงตายปีนข้ามรถมาที่รถของพยานเพื่อช่วยให้รอด ก็เนียนตากับฉากนั้น โดยรวมเป็นหนังที่ลงทุนทั้งลูกปืน ฉากเรือพุ่งชน ฉากบู๊ข้ามรถเสี่ยงตายและอีกหลายฉาก ไปดูไม่ต้องคิดเยอะ คิดว่าดูหนังบู๊ล้างผลาญเอามัน

ติดให้ *** ครึ่ง

000

               GDH  จัดงานกาล่าพรีเมียร์หนัง “The Substance สวยสลับร่าง” ที่รวม 3 นักแสดงระดับโลกฟาดฟันฝีมือการแสดงกันอย่างดุเดือด อย่าง เดมี่ มัวร์, มาร์กาเร็ต ควอลลี่ย์ และ เดนนิส เควด โดยภาพยนตร์การันตีคุณภาพด้วยรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ปี 2024 ซึ่งจัดฉายในบ้านเรา ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7

               ถือเป็นหนังเขย่าขวัญแนววิทยาศาสตร์หน่อย ๆ ที่สร้างออกมาเรื่องราวน่าสนใจ ไม่เหมือนใครดี โดยที่สามารถสร้างอีกร่างกายนึง ที่สมบูรณ์แบบในเรื่องความงดงามลงตัว สาวสะพรั่ง การถ่ายภาพมุมมอง ทำได้ดีมาก ๆ เน้นความเหมือนจริงสุด ๆ ทั้งเรื่องความสวยงามและน่าเกลียดน่ากลัว แม้กระทั่งการฉีกขาด รอยแผล การเย็บ ที่ทำออกมาได้เหมือนจริงสุด ๆ ดูไปก็ขนลุกหน่อย ๆ และสามารถเข้าถึงความเสียว ความเจ็บปวด อารมณ์ของตัวละครได้เต็มที่ การใช้กล้องถ่ายมุมต่าง ๆ ของร่างกายทำออกมามีศิลปะดีมาก จุดที่งามก็ขับออกมาได้งามดีแท้ จุดที่น่ากลัวก็ทำให้ สยดสยองจริง ๆ ส่วนของนักแสดงนำเปลือยกายให้เห็นทุกซอกทุกมุม ได้ความดิบกันสุด ๆ เล่นกันได้ดีมาก ทั้ง 2 คน 2 ร่าง ส่งต่ออารมณ์ผ่านสายตา สรีระ ท่าทางได้อย่างสมบูรณ์แบบ งานตกแต่งเนื้อเยื่อที่ผิดเพี้ยนก็ทำได้ดูเหมือนจริงมาก ทว่าการกระทำของพวกเธอบุคคลแวดล้อมในชีวิตต่าง  ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นหรือแม้แต่จะสงสัย มาที่บทภาพยนตร์ทำออกมาดี ทั้งให้แง่คิดได้ในหลาย ๆมุมมอง รวมถึงเผยให้เห็นถึงผลข้างเคียงจากการใช้ยาที่ไม่ทำตามวิธีการใช้อย่างเคร่งครัดด้วย ถือเป็นหนังตีแผ่ความงดงามที่สาว ๆ ทั้งโลกต้องพึงระวัง

ติดให้ ****

000

               “ศึกค้างคาวกินกล้วย – BAT WAR” เมื่อศึกครั้งนี้ เดิมพันด้วย “ดนตรี” และ “ความรัก” ได้สองนักแสดงประชันบทบาท อย่าง พีช พัชร ประชันฝีมือ เก้า จิรายุ ร่วมด้วย โจริญ 4EVE, นิคกี้ ณฉัตร, เจแปน ภาณุพรรณ (นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์), หมูเติ้ล หกฉาก, นาย มงคล สะอาดบุญญพัฒน์ และโปรดิวเซอร์ ‘ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์’ พร้อมด้วยผู้กำกับภาพยนตร์ ‘กฤษณะ จิตรเนาวรัตน์’  จัดศึกโดย M STUDIO และ KARMAN LINE  ซึ่งฉายรอบพิเศษที่ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ชั้น 4 ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์

               เป็นหนังที่หยิบเอาบริบทของหนังโหมโรงมาเล่าเรื่อง แต่เล่าในทิศทางของความเบาสมองและตลกขบขัน ที่อัดแน่นไปด้วยความทีเล่นทีจริง ซึ่งความหมายของความสมจริงและความจริงจังของหนังลดลงเรื่อย ๆ ตามเส้นเรื่องที่ขยับไปข้างหน้าแบบกระท่อนกระแท่น แม้เรื่องนี้จะมีนักแสดง 2 คนมาเป็นแม่เหล็ก แต่งานสร้างมีความสุขเอาเผากินและไม่ใส่ใจ บวกกับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ผิดยุคผิดสมัย ก็ยิ่งทำให้ความสมจริงและจริงจังที่ซ่อนอยู่ในแกนกลางของเรื่องราวถูกทำลายลงไปด้วย คำหยาบก็ฟุ้งเฟ้อตามแบบฉบับหนังตลกไทยขายขำคำพูด ในเรื่องมีเยอะจนชวนเวียนหัวเหมือนเน้นมากกว่าเนื้อเรื่องเลยไม่ชูเนื้อหาเท่าที่ควร แต่ท่ามกลางบาดแผลเหล่านั้น ที่จริงหนังมีประเด็นดี ว่าด้วยเรื่องของดนตรีไทย ซึ่งเป็นสิ่งควรค่าให้สืบสานกันต่อทุกยุคทุกสมัยแม้ยุคสมัยเปลี่ยนไป ทว่ามันควรจะเป็นของทุกคนและควรจะได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นต่อไปเรื่อย ๆ จริง ๆ

ติดให้ * ครึ่ง

000

               “Never Let Go” ที่ได้นักแสดงตัวแม่ออสการ์ “ฮัลลี เบอร์รี” (Monster’s Ball, John Wick: Chapter 3) มาเผชิญหน้าฝ่าอันตรายจากสิ่งชั่วร้ายที่มิอาจคาดเดา เพื่อปกป้องครอบครัวของเธอให้รอดชีวิต หนังจัดรอบพิเศษที่ มาบุญครอง

               หนังจะอยู่ในบริเวณป่าสนและปีศาจ ที่ทำให้ออกจากป่าไม่ได้จากเห็นทีเซอร์ปล่อยออกมา เมื่อเข้าไปดูได้เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นและข้อจำกัดต่าง ๆ อีกทั้งปีศาจก็จะหาทางเข้าใกล้ เมื่อยามที่ใจของตัวละครไขว้เขว เรื่องนี้จุดเด่นชัดของเรื่องก็คือ ตัวละครวัยเด็ก ที่มีอิทธิพลต่อทิศทางของเรื่องมาก และด้วยความเป็นเด็กที่ทำให้ผู้ชมต้องกังวลใจในการตัดสินใจ หรือควบคุมตัวเอง ทำให้เดาเรื่องต่อไม่ง่ายเลย แต่ได้ลุ้นระลึกดีทีเดียว ถือว่านักแสดงเด็กเล่นได้ดี สามารถถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกและสีหน้าออกมาได้เป็นธรรมชาติ อีกทั้งเขามีความคิดตามวัยของเขา สำหรับเนื้อเรื่อง ดูมีเหตุผลน้อยไปหน่อยกับเชือก หรือที่มาที่ไปที่ทำให้ ตัวแม่(ฮัลลี เบอร์รี) ไม่หาทางออกจากป่านี้ สำหรับฉากบรรยากาศก็ดูธรรมดาไม่ได้น่ากลัวอะไรมากนัก ดูเป็นไปตามธรรมชาติ มาที่ฉากตกใจถามว่ามีไหม ไม่ได้มีเยอะมากมายเท่าไหร่ สรุปแกนหลักของเรื่องอยู่ที่ เด็กที่ต้องลุ้นว่าจะทำอะไร แต่ก็มีจุดด้อยของหนังที่ว่าเรื่องความไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าที่ควรในบางฉาก

ติดให้ **

000

Related posts