ภาพยนตร์อะนิเมชั่นต้นฉบับ The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim จะพาผู้ชมกลับสู่มิดเดิลเอิร์ธอีกครั้ง ถ่ายทอดเรื่องราว 183 ปีก่อนเหตุการณ์ในภาพยนตร์ไตรภาคระดับตำนานที่สร้างจากวรรณกรรมของ เจ.อาร์.อาร์. โทลคีน โดยเนื้อเรื่องจะเล่าถึงชีวิตของเฮล์ม แฮมเมอร์แฮนด์ กษัตริย์แห่งโรฮันผู้เกรียงไกร ในศึกปกป้องป้อมปราการโบราณฮอร์นเบิร์ก ซึ่งต่อมากลายเป็นที่รู้จักในชื่อ “เฮล์มสดีพ”
ภาพยนตร์กำกับโดยผู้กำกับเจ้าของรางวัล เคนจิ คามิยามะ (Blade Runner: Black Lotus, Ghost in the Shell: Stand Alone Complex) พร้อมทีมพากย์เสียงนำโดย ไบรอัน ค็อกซ์ (Succession) ในบท เฮล์ม แฮมเมอร์แฮนด์, ไกอา ไวซ์ (A Walk in the Woods) ในบท เฮร่า ลูกสาวของเขา และ ลุค ปาสคัวลิโน่ (Snowpiercer) ในบท วูล์ฟ ศัตรูผู้ชาญฉลาดและโหดเหี้ยม นอกจากนี้ยังได้ มิแรนด้า ออตโต้ กลับมารับบท เอโอวีน ท่านหญิงขาวแห่งโรฮัน ผู้ทำหน้าที่พากย์บรรยายเรื่องราว
ทีมนักพากย์เสียงเพิ่มเติม ได้แก่ ลอร์เรน แอชบอร์น (Bridgerton), ยาซแดน กาโฟริ (I Came By), เบ็นจามิน เวนไรท์ (World on Fire), ลอว์เรนซ์ อูบง วิลเลียมส์ (Gateway), ฌอน ดูลีย์ (The Witcher), ไมเคิล ไวลด์แมน (Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw), จู้ด อาคูวูไดค์ (Beasts of No Nation), ไบลิล แฮสนา (Sparks) และ จาไนน์ ดูวิตสกี้ (Benidorm)
เรื่องราวเน้นไปที่การโจมตีของวูล์ฟ ลอร์ดดันเลนดิ้งที่ต้องการล้างแค้นให้บิดา เฮล์มและประชาชนโรฮันต้องรวมพลังกันปกป้องบ้านเกิด โดยเฉพาะป้อมปราการฮอร์นเบิร์ก ในขณะที่เฮร่า ลูกสาวของเฮล์มเผชิญกับชะตากรรมที่ดูสิ้นหวัง
เบื้องหลังการสร้าง ภาพยนตร์อำนวยการสร้างโดยเจ้าของรางวัล Oscar ฟิลลิปป้า โบเยนส์ พร้อมด้วยทีมผู้สร้างจาก The Lord of the Rings และ The Hobbit ขณะที่บทภาพยนตร์พัฒนาโดย เจฟฟรีย์ แอดดิส, วิล แมทธิวส์, โฟบี้ กิตตินส์ และ อาร์ตี้ ปาปากอร์กิว โดยมีปีเตอร์ แจ็คสัน และฟราน วอล์ช ร่วมอำนวยการสร้างบริหาร
ทีมงานสร้างสรรค์ได้ผู้เชี่ยวชาญอย่าง อลัน ลี และริชาร์ด เทย์เลอร์ เจ้าของรางวัล Oscar กลับมาร่วมออกแบบ รวมถึง จอห์น ฮาว ศิลปินชื่อดัง ดนตรีประกอบภาพยนตร์แต่งโดย สตีเฟน แกลลาเกอร์ ผู้เรียบเรียงดนตรีจาก The Hobbit
The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim สร้างโดย นิวไลน์ ซีเนม่า และ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส อะนิเมชั่น ร่วมกับ Wingnut Films และ Sola Entertainment มีกำหนดฉายในประเทศไทย 13 ธันวาคม 2024 และต่างประเทศเริ่มตั้งแต่ 11 ธันวาคม 2024