ตำรวจสืบ น.6 จับยาบ้า 15.6 ล้านเม็ด

               วันที่  10 ธ.ค.67 เวลา 10.00 น. ที่ บก.น.6 แถลงผลปฏิบัติการจับยาบ้าล๊อตใหญ่ โดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สยาม บุญสม จตร.รรท.ผบช.น., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.นพศิลป์  พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วสันต์  เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุม สกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด ปราบปราม และขยายผลเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ รายย่อย ทั่วทุกพื้นที่ และยึดทรัพย์ผู้ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือทุกรายโดยให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม บก.น.6 โดย พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6, พ.ต.อ.เอกรัตน์ เปาอินทร์ รอง ผบก.น.6, พ.ต.อ.ธรา แบ่งเครื่อง รอง ผบก.น.6 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.กก.สส.บก.น.6, พ.ต.ท.วิสิทธิ์ สายบัวทอง รอง ผกก.สส.บก.น.6, พ.ต.ท.ชยุต ยอดยิ่งนาทกุล รอง ผกก.สส. บก.น.6 พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ จุติวรกุล รอง ผกก.สส.บก.น.6 พ.ต.ท.ชูชีพ วงษ์บุญเพ็ญ สว.กก.สส.บก.น.6 พ.ต.ต.ปัณณวัชร์ จิรัฐธรรมฤทธิ์ สว.กก.สส.บก.น.6 เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.สส.บก.น.6 พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทหาร กองทัพบก

               ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 ได้ทำการสืบสวนขยายผลเริ่มต้นจากการจับกุมผู้ค้ารายย่อยที่ล่อซื้อผ่านทาง X (ทวิตเตอร์) เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.66 จนนำไปสู่การจับกุมผู้ค้ารายสำคัญหลายราย ได้ของกลางจำนวนมาก จากการสืบสวนพบว่าเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวเมื่อถูกจับกุมไปแล้ว จะนำคนอื่นในเครือข่ายที่ไม่เคยมีประวัติมาทำหน้าที่แทน เมื่อติดตามพฤติการณ์ของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด พบว่า ในช่วงเดือน พ.ย.67 กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดย่านเชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีการเคลื่อนไหวขนลำเลียงยาเสพติดหลายครั้ง จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมประสานข้อมูลกับหน่วยต่างๆ ไปเฝ้าติดตามกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว

               ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายวัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 03.00 น. พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา แบบมีคอกเหล็กสูง ใช้ผ้าใบปิดคลุม กำลังขับมาที่กลางซอยถนนรณชัย หมู่ที่ 8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้ขนยาเสพติดมาเก็บที่โกดัง จึงได้ทำการสกัดกั้นรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดและทำการตรวจค้น พบว่าภายในรถกระบะบรรทุกประเภทเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ขนม เครื่องดื่มชูกำลัง เส้นบะหมี่ ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิต และนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน วางไว้อยู่ด้านท้ายและด้านบนเพื่อปกปิดอำพรางการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จากการรื้อตรวจค้นด้านในกระบะพบกระสอบสีขาว ซึ่งเป็นยาเสพติด (ยาบ้า) 78 กระสอบๆ ละประมาณ 200,000 เม็ด รวมจำนวนยาบ้า ประมาณ 15,600,000 เม็ด (ยาบ้าสีส้มประทับตรารูป UFO, ยาบ้าสีแดงประทับตรารูปเครื่องบิน F35 ที่หีบห่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาชาย อายุ 30 ปี ภูมิลำเนา ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ในข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน เป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาเบื้องต้น ไม่พบประวัติการกระทำความผิด พร้อมของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่ในถุงกระสอบ ประมาณ 78 กระสอบๆ ละประมาณ 200,000 เม็ด รวมยาบ้าประมาณ 15,600,000 เม็ด, 2.รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา 1 คัน

               สอบถามผู้ต้องหาให้การว่ารับสารภาพว่า ตนเองทำหน้าที่ขับรถยนต์ไปขนลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลางตามจุดนัดหมาย แล้วนำยาเสพติดมาพักเก็บไว้ที่โกดังในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.อยุธยา โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 10,000-30,000 บาท เป็นรายได้เสริม ซึ่งผู้ต้องหามีงานประจำทำอยู่ที่โรงงานย่านนวนคร จ.ปทุมธานี ได้รับเงินเดือนๆ ละ 17,000 บาท และเมื่อปลายเดือน พ.ย.67 ผู้ต้องหารับว่าได้ร่วมกับกลุ่มคนในเครือข่ายยาเสพติดไปร่วมทริป “น้ำไม่อาบ” ที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

               การขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดของ กก.สส.บก.น.6 ตั้งแต่ 10 มิ.ย.66 – 9 ธ.ค.67 (รวม 18 เดือน) รวม 7 เครือข่าย ผู้ต้องหา 17 คน ของกลาง ยาบ้า 56,348,000 เม็ด, ยาไอซ์ 407 กก., เคตามีน 96.44 กก., เฮโรอีน 1.51 กก., ยาอี 9,000 เม็ด, อาวุธปืน 1 กระบอก กระสุน 16 นัด

ทีมข่าวอาชญากรรม…รายงาน

Related posts