นายสุริยา หล้าอยู่ อายุ 47 ปี บิดาของผู้เสียหาย คือนายศรัญณญู หล้าอยู่ ชาวบ้านหมู่4 ต.บางแก้ว อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม ให้การว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม ประมาณ 4 ทุ่ม ลูกชายขับรถไปซื้อของ ตนไม่ได้สนใจอะไร พอตื่นมาวันรุ่งขึ้นยังไม่เห็นรถ แต่ก็ไม่คิดว่าหายเพราะที่บ้านใช้รถกันหลายคน ทั้งตนเอง ภรรยา ลูกและน้าชาย มารู้อีกที เช้าของอีกวัน เจอแต่กุญแจรถอยู่ในบ้าน แต่รถไม่อยู่ เลยเปิดกล้องวงจรปิดดู ที่บ้านมีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ได้มีคนร้ายแอบเข้ามาลักรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินดำ ทะเบียน 1 กข 1705 ตราด ซึ่งจอดไว้เป็นประจำที่หน้าบ้าน
นายสุริยา เล่าว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ผ่อนอีก 6 เดือนก็จะหมดแล้ว แถวนี้ไม่เคยมีรถหายมาสองปีกว่า ล่าสุดมีแต่พื้นที่อื่น ไม่คิดว่าแถวนี้จะมีโจรมาขโมยอีก และตนทำประมงต้องออกทะเล จึงเป็นห่วงลูกและภรรยา ในตอนที่ตอนไม่อยู่ จึงปรึกษาเพื่อนก่อนแนะนำให้ประสานกับนายธนธัส ขุนนุช หรือรองเอส อดีตรองนายก อบจ.สมุทรสงคราม ผู้สมัคร นายก.อบจ.สมุทรสงคราม ให้ช่วยประสานเรื่องนี้ให้
ด้าน นายธนธัส ขุนนุช อดีตรองนายก อบจ.สมุทรสงคราม ผู้สมัคร นายก.อบจ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งผ่านทีมงานผู้ช่วยหาเสียงว่ามีชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือนร้อนจากการโดนโจรกรรมรถจักรยานยนต์ และต้องการความช่วยเหลือจากรองเอสเพื่อช่วยประสานงานกับตร.ในพื้นที่ให้เร่งติดตามนำจับคนร้าย ซึ่งผู้เป็นพ่อต้องออกทะเล และผู้เสียหายเป็นเด็กต้องไปโรงเรียน จึงเป็นห่วงเรื่องคดีและความปลอดภัยของครอบครัว จากนั้นตนจึงได้พาแม่ของผู้เสียหาย ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมประสานขอความช่วยเหลือไปยัง พล.ต.ท. นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7
หลังการประสานงานไปยัง ผบช.ภ.7 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ ผกก.สภ.สมุทรสงคราม ให้เรียกประชุมทีมสืบสภ.เมืองสมุทรสงคราม ทีมสืบภาค7 และทีมสืบจังหวัดสมุทรสงคราม โดยมี พ.ต.ท อเนก ขจีจิตร สว.สส.สภ.เมืองสมุทรสงคราม เป็นหัวหน้าชุด เพื่อเร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานจากล้องวงจรปิดเพื่อสืบหาคนร้ายคดีลักรถจักรยานยนต์ และยังได้มีการประสานความร่วมมือร่วมกับทุกสถานีตำรวจในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดราชบุรี จ.เพชรบุรี เพื่อเร่งรวบรวมหลักฐานและเส้นทางหลบนี้คนร้าย ซึ่งคาดว่า จะได้ตัวคนร้ายในเร็ววันนี้ อนึ่งเพื่อสนอง 15 นโยบาย ผบ.ตร. ซึ่ง1ใน15 นโยบายนั้นคือ “ปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน” โดยเร่งด่วน และตามวิสัยทัศน์ของผบช.ภ7 คือ “ภาค7 ปลอดภัย คืนความอุ่นใจให้ประชาชน”
นายธนธัส ขุนนุช และครอบครัวผู้เสียหายต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้คำปรึกษาและเร่งดำเนินการประชุมชุดสืบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านรู้สึกอุ่นใจขี้นมาก
