ตรุษจีน กับ สภาวะเศรษฐกิจ ‘ไทย-จีน’ 2025

              ตรุษจีน เป็นวันหยุดตามประเพณีของจีนที่สำคัญที่สุดของประเทศจีน โดยมีอีกชื่อหนึ่งว่า “เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ” เพราะฤดูใบไม้ผลิตามปฏิทินจีนเริ่มต้นด้วย “วันลี่ชุน – เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ”  ซึ่งเป็นวันแรกในทางสุริยคติของปีปฏิทินจีน ถือเป็นวันสิ้นสุดฤดูหนาว ซึ่งเทศกาลนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจีนโบราณและสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ด้วยเทศกาลโคมไฟ ที่สำคัญในคืนก่อนตรุษจีนเป็นวันซึ่งครอบครัวจีนมารวมญาติเพื่อทานอาหารเย็นเป็นประจำทุกปี เรียกว่า “การผลัดเปลี่ยนยามค่ำคืน” ตรุษจีนจึงถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามคตินิยมของจีน

               และเพราะตรุษจีนเป็นงานเฉลิมฉลองที่ยาวที่สุดและสำคัญที่สุดของจีน มีประวัติที่ยาวนานมาหลายศตวรรษ มีทั้งตำนานและประเพณีหลายอย่าง จึงถือเป็นเทศกาลทางวัฒนธรรมของจีน เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้  ซึ่งมาถึงในปัจจุบันโลกได้มีการเชื่อมต่อ มีการโยกย้ายอพยพของประชากร ทำให้ชาวจีนมีอยู่ทั่วโลก การเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนทุกวันนี้จึงเกิดขึ้นในหลายๆประเทศ โดยเฉพาะที่มีชาวจีนอาศัยอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย สหรัฐ แคนาดา เม็กซิโก เป็นต้น   ซ้ำยังมีอิทธิพลต่อการเฉลิมฉลองการขึ้นปีใหม่จันทรคติของประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเกาหลี ภูฏาน และเวียดนาม อีกด้วย

               เทศกาลตรุษจีน ปี 2025 ตรงกับวันที่ 29 มกราคม โดยปีนี้ตรงกับปีนักษัตรงูหรือปีมะเส็ง ซึ่งสำนักข่าวหลักๆของจีน ได้มีการเผยแพร่ข่าวบรรยากาศการเตรียมเฉลิมฉลอง และความรื่นเริงบันเทิงใจของหลายพื้นที่ทั่วประเทศจีน โดยชาวจีนต่างร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ตามขนบธรรมเนียมประเพณีกันอย่างคึกคัก มีการเตียมเงินเพื่อซื้อของขวัญ ของประดับตกแต่ง วัสดุ อาหารและเครื่องนุ่งห่ม นอกจากนี้ยังมีการประดับหน้าต่างและประตูด้วยกระดาษตัดสีแดง ด้วยคำอวยพร “โชคดี” “ความสุข” “ความมั่งคั่ง” และ “ชีวิตยืนยาว” ซึ่งนอกจากจะกระตุ้นเศรษฐกิจจากการจับจ่ายใช้สอยต่างๆแล้ว ยังกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศจีนอีกด้วย เพราะมีชาวจีนจากทั่วโลกที่มีความผูกพันกันต่างกลับมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน รวมทั้งยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติพากันไปเที่ยวที่ประเทศจีนอย่างมากมายด้วย

               หลายพื้นที่ของจีน จึงมีการจัดงานกาล่ากันเต็มที่ อย่างเช่นที่ นครหนานหนิง เมืองเอกของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มีการจัดงานกาลาเทศกาลตรุษจีนข้ามพรมแดน “Melody of Spring 2025 Transnational Spring Festival Gala” ขึ้น ในธีม “ข้ามขุนเขาและท้องทะเลเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ กลับมารวมตัวกันด้วยความกลมเกลียวและเบิกบาน” (Crossing Mountains and Seas to Celebrate the New Year, Reuniting in Harmony and Joy) ทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และยังเป็นการเผยแพร่แก่นแท้แห่งวัฒนธรรมจีนอันหลากหลาย และทำให้เป็นที่ประจักษ์ในความเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ที่ทรงคุณค่าทั้งต่อจีนเองและต่อประชาคมโลกด้วย เนื่องจากหลายๆงานกาล่าในจีนที่ทำคลิปเผยแพร่ออกไปนั้น มีการคำบรรยายภาษาอังกฤษ ลาว อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย ด้วย

               สำหรับประเทศไทย ซึ่งมีทั้งชาวจีนโพ้นทะเล และคนไทยเชื้อสายจีนอยู่เป็นจำนวนมาก ก็ได้มีการร่วมจัดงานฉลองเทศกาลตรุษจีนกันอย่างคึกคัก และเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2561 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดซุ้มประตู “วชิรสถิต 72 พรรษา”(หัวมังกร) และ ซุ้มประตู “วชิรธำรง 72 พรรษา”(หางมังกร) ณ ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง และมาดาม หวัง ฮวน ภริยา  นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด  นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล  ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน นายชิม ชินวิริยกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ดร.กิตติ อิทธิภากร ประธานสหสมาคมตระกูลแซ่แห่งประเทศไทย และผู้บริหารองค์กรเชื้อสายจีนเข้าร่วมพิธี

               ซุ้มประตู “วชิรสถิต 72 พรรษา” และ ซุ้มประตู “วชิรธำรง 72 พรรษา” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย และยังเป็นพิธีสำคัญในช่วงเริ่มเทศกาลตรุษจีนด้วย

               สำหรับบรรยากาศเฉลิมฉลองและท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีนในไทยนั้น สถานทูตจีนแห่งประเทศไทย และ การท่องเที่ยวจีน (CNTO) ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนของไทยหลายแห่ง อาทิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้จับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ กรุงเทพมหานครจัดแคมเปญ “centralwOrld The Great Chinese New Year 2025” ชู ‘The 9 Miracles of Prosperity’ 9 ปาฏิหารย์แห่งความเจริญร่งเรือง มั่งมี สุขี โชคดี มีรัก ตลอดทั้งปี โดยมีไฮไลท์ เช่น โคมไฟเจ้าแม่กวนอิมสูง 7 เมตร โคมไฟฮกลกซิ่วสูง 6 เมตร การแสดงพิเศษจากสาธารณรัฐประชาชนจีน 3 มณฑล การเชิดมังกรลอยฟ้า The Prosperity Flying Dragon คอนเสิร์ตศิลปิน T-Pop ชื่อดังกว่า 40 ชีวิต และกินเที่ยว 30 ร้านดัง เริ่ม 28 ม.ค. – 2 ก.พ. 68

               อีกที่หนึ่งที่จัดใหญ่เช่นกัน คือ เอ็ม ดิสทริค โดยศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์ ทุ่มงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท จัดอีเว้นต์ฉลองเทศกาลตรุษจีน ในแคมเปญ “EM DISTRIC THE GOLDEN PROSPEROUS KINGDOM CHINESE NEW YEAR 2025” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE GOLDEN YEAR OF FRIENDSHIP” ระหว่างวันที่ 22 ม.ค. – 23 ก.พ. 68 ปี กับ  “5 ความพิเศษสุดยิ่งใหญ่” อาทิ กองทัพประติมากรรมหมีแพนด้า ทูตสันถวไมตรีว่า 3,000 ตัว มากและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย, Chinese Market Town แหล่งรวม ของกิน ของใช้ พร้อมไฮไลต์ร้านเด็ด,  โชว์สุดอลังการ ประกอบแสงสีสุดตระการตา พร้อมแฟชั่นโชว์เครื่องประดับระดับตำนานจาก chow tai fook ร้านจิวเวอรี่ชั้นนำของฮ่องกงที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ และเพลิดเพลินกับเพลงอันไพเราะจากศิลปินชื่อดังของเมืองไทย เป็นต้น ทั้งยังช่วยผลักดันเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยในไตรมาส 1/2568 ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยด้านกิจกรรมอีเว้นต์ที่เป็น PHENOMENON ในระดับภูมิภาค โดยคาดว่าจะมีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการที่ เอ็ม ดิสทริค เพิ่มขึ้นกว่า 30%

               นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร เอ็ม ดิสทริค กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนถือเป็นเทศกาลที่สำคัญของคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีน จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ โดยคาดการณ์ว่าจะมีเงินสะพัดกว่า 40,000 ล้านบาทในช่วงเทศกาลตรุษจีน รวมถึงตลาดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งคาดว่าจะเดินทางมาประเทศไทยในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนในปีนี้

               ทั้งนี้ ข้อมูลจากททท. คาดว่าช่วงเทศกาลตรุษจีน รวม 10 วัน จะมีท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยประมาณ 1.35 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6% โดยเฉพาะตลาดจีน ที่มีวันหยุดยาว 8 วัน รวมทั้งนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนในมาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย  และมีรายได้ทางการท่องเที่ยวเข้าไทยประมาณ 34,360 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ม.ค. ไปจนถึงวันตรุษจีน

               นอกจากนี้ ผลสำรวจของอโกด้า พบว่า กรุงเทพฯ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงตรุษจีน 2568 ซึ่งสะท้อนศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวของไทย

โดย นายภูวนารถ ณ สงขลา
ที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการการค้าชายแดนและข้ามแดน ด้านจีนตอนใต้ หอการค้าไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าว Bangkok Wealth & Biz และ สำนักข่าว บางกอกทูเดย์

Related posts