ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่หนองคาย ตอนที่ 3

ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่หนองคาย ตอนที่ 3

 

การเดินทางมาท่องเที่ยววิถีไทย​ วิถีชุมชนในจังหวัดหนองคาย​เสร็จสิ้นไปแล้ว​ แต่ภาระกิจเชื่อมความสัมพันธ์สองฝั่งโขง​ จะได้บวกการท่องเที่ยวนครเวียงจันทน์ เข้าไปเป็นเนื้อเดียวกันกับวิถีชีวิตของชาวหนองคาย​ ลาว​ เข้ามาร่วมกันได​้​ วัฒนธรรมและประเพณีไม่แตกต่างกันมาก​ ทั้งสองประเทศเลยต้องร่วมมือกันทำธุรกิจการท่องเที่ยวด้วยกันอย่างลงตัวที่สุด

 

3no2

3no6     3no3

3no4     3no5

3no7

เช้านี้​ หลังจากทานอาหารแล้ว​ พวกเราเตรียมตัวกันเดินทางข้ามสะพานไทย​ลาวแห่งแรกที่จังหวัดหนองคาย​ เพื่อเดินทางข้ามโขงไปยัง สปป.ลาว​ ไปเยือนนครเวียงจันทน์เพื่อไปกราบไหว้วัดพระธาตุหลวง​ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่นครเวียงจันทน์​ วันนี้​ นครเวียงจันทน์เปลี่ยนแปลงรูปแบบในความเจริญผิดหูผิดตา ศูนย์ราชการขยายออกไปนอกเมืองมากขึ้น​ และกำลังจะมีอาณาจักรเมืองใหม่ของเวียงจันทน์​ ซึ่งก่อสร้างโดยคนจีนมีคอนโดผุดขึ้นมาอย่างมากมาย​ ศูนย์การค้า​ ศูนย์ประชุม​ กับ​ เวียงจันทน์สมัยใหม่อีกไม่นานจะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูง​ ความสะดวกสบายความเจริญก้าวหน้าจะครอบคลุมนครเวียงจันทน์ยุคใหม่ที่เมืองไทยต้องดูการจัดผังเมืองเอาความเจริญไปสู่ท้องถิ่นในปริมณฑลของนครเวียงจันทน์กับความใหม่ศิวิไลซ์ที่น่าชื่นชม

 

3no9

3no10     3no11

3no8     3no12

จุดหมายของเราจุดแรกผ่านไปแล้ว​ เรากำลังเดินทางไป​ บ้านสวนมณีจันทร์​ บ้านที่เป็นโฮมสเตย์​ศูนย์การเรียนรู้ของชุมชนชาวลาวแบบวิถีชีวิตของพวกเขา​ การทำอาหารพื้นบ้าน​ แกงหน่อไม้ต้องเดินไปเก็บหน่อไม้สดๆมาทำอาหารกลางวันเพื่อเลี้ยงพวกเรา​ ด้วยรสชาติที่ใกล้เคียงกับอาหารพื้นถิ่นของชาวหนองคาย​ ได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนแนวความคิดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตามวิถีชุมชม​สร้างความพอใจกับความดิบธรรมชาติที่ไม่ต้องปรุงแต่งมาก​ บ้านมณีจันทร์​ ออกจากตัวนครเวียงจันทน์ราว20กิโลเมตร​ ออกมาเจอถนนลูกรัง​แล้วมาทานอาหารกลางวันในแบบอาหารพื้นถิ่นของชาวลาวได้รับอรรถรสมาก
เรามีเวลาน้อยมากเพราะอยู่​ บ้านสวนมณีจันทร์​ ต้องเดินทางเข้ามาในนครเวียงจันทน์ เพื่อเข้าชมศูนย์หัตถกรรมผ้าไหมโบราณของชาวลาวซึ่งมีชื่อเสียงมายาวนาน​ ที่ศูนย์แห่งนี้​จะเป็นศูนย์ที่ทอผ้าไหมตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บหม่อนเลี้ยงไหม​ การต้ม​ การสาวไหม​ จนถึงขั้นตอนการย้อมแล้วมาถึงการทอ​ ทุกขั้นตอนยากมากแต่ไม่แตกต่างทางภาคอีสาน​ ผ้าไหมโบราณของทางลาวราคาค่อนข้างจะสูงมากมาย

 

3no13     3no14

3no15     3no19

3no16     3no17

3no18

เสร็จจากการเยี่ยมชมศูนย์ทอผ้าไหมโบราณทางทีมงานลาว​ พาคณะจากไทยไปเยี่ยมชมร้านกำแพงเวียงหัตถกรรมเครื่องเงิน​ เป็นร้านทำผลิตเครื่องเงินใหญ่ที่มีสารพัดเครื่องเงิน​ ผ้าไหมผ้าทอของชาวลาวไว้จำหน่ายแต่ราคาก็สูงไปตามสภาพของฝีมือ​ เหมาะแก่การช้อปปิ้งเป็นของฝากได้เป็นอย่างดี​ ก่อนที่พวกเราจะกระเป๋าเบามากกว่านี้​ ต้องรีบชิ่งออกมาเพื่อเดินทางไปยังจุดสุดท้าย​ กำแพงเก่านครเวียงจันทน์​ ซึ่งพวกเราต้องผ่านกันอยู่แล้ว​ กำแพงนครเวียงจันทน์มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช​ สร้างนครเวียงจันทน์จนรุ่งเรือง​ กำแพงเมืองแห่งนี้จึงไปศูนย์การเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ในอดีตแห่งความรุ่งเรืองของลาว​ วันนี้​ กำแพงเก่านครเวียง​จันทน์กลายเป็นตลาดนัดขายสินค้าอาหารในยามเย็นไปถึงค่ำ​ เป็นชุมชนค้าขายเป็นตลาดย้อนยุคที่สร้างเงินหมุนเวียนได้ดี​ ทุกเย็นชาวลาวจะมารวมตัวกันท่องเที่ยวตามวิถีกันที่นี่

 

3no26     3no27

3no28     3no29

3no30     3no31

เราอำลานครเวียงจันทน์กลับสู่ด่านฝั่งลาวเพื่อจะข้ามมาฝั่งไทย​ คืนนี้ต้องนั่งรถไฟขบวนพิเศษตู้นอนกลับกรุงเทพถึงพรุ่งนี้เช้า​ เงินบางคนแม้จะพร่องไปเยอะแต่ก็ยังพอมีไว้ใช้สอยจับจ่ายกันที่ร้านดิวตี้ฟรี​ของลาว​และตลาดรอบด่านพอให้เราซื้อของฝากกันกลับบ้าน​ มีสารพัดอย่างให้เราได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ​ ก่อนที่จะข้ามมาฝั่งไทยคืนนี้เราต้องเตรียมตัวเดินทางกลับแล้ว​ ทริปนี้เสร็จสิ้นภาระกิจ​ ขอขอบคุณ​ คุณวรากร​ เจียรเสริมสิน​ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย​ จังหวัดหนองคาย​ พัฒนาชุมชนจังหวัดหนองคาย​ และ​ ขอขอบคุณ​ คุณภูริวัจน์​ ลิ้มถาวรรัตน์​ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ​ สทน.ที่อำนวยความสะดวกในการนำมวลสมาชิกและสื่อมวลชนมาท่องเที่ยววิถีชุมชนของจังหวัดหนองคายและข้ามไปยัง​ สปป.ลาว​ ด้วยความเอิบอิ่มมีรอยยิ้มแห่งความสุขใจ​ ทริปหน้าคงมีโอกาสมาร่วมงานกันอีกครั้ง​ด้วยความเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง.

 

3no20     3no22

3no21     3no25

3no23     3no24

 

Related posts