ปลูกหญ้าให้ช้าง สร้างอาหารให้กระทิง
สมาคมธุรกิจไทยท่องเที่ยวภายในประเทศ สทน.เปิดโครงการ ช้างป่า บ้านพ่อ ต่อเนื่องมาจากโครงการเที่ยวทั้งที ทำดีเพื่อพ่อ ที่เคยยกทีมงานหลายสมาคมไปร่วมกันสร้างสะพานไม้เคี่ยม กันที่จังหวัดชุมพร ประสบความสําเร็จจนกลายเป็นแลนด์มาร์กของชุมพรไปแล้ว ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากภาครัฐภาคเอกชนทุกสมาคมที่เป็นพันธมิตรธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้มาเชื่อมใจในความสามัคคีทำดีเพื่อพ่อ เป็นความปลื้มปิติยินดีกับผู้ร่วมงานทุกๆคน
ในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล ทางสมาคมธุรกิจไทยท่องเที่ยวภายในประเทศ สทน.และพันธมิตรหลายสมาคม มีมติการจัดคาราวานเพื่อการท่องเที่ยว เที่ยวทั้งที ทำดีเพื่อพ่อ ซีซั่น2 เป้าหมายอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ใน โครงการช้างป่า บ้านพ่อตามคอนเส็ปต์ ปลูกหญ้าให้ช้าง สร้างอาหารให้กระทิง จุดรวมพลอยู่ที่ลานโพธิ์ ในสนามกีฬากองทัพบก รับประทานอาหารเช้าตรวจเช็กรถและเรียงลำดับรถ ก่อนจะปล่อยล้อหมุนในเวลาเช้าวันหนึ่ง ซึ่งทุกคนพร้อมกระตือรือล้น โดยมีนายภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ นายกสมาคมฯเป็นผู้นำทีม และ มี พลเอกชาติชาย ขันธสุวรรณ ประธานที่ปรึกษาจากกองทัพบกอำนวยความสะดวก
จุดแรกเอสซีที่เราเข้าไปพบกันทานอาหารว่างยามเช้ากันที่ ร้านเข้าท่ามหาชัย ร้านอาหารเปิดใหม่รองรับนักท่องเที่ยวโดยตรงที่จะมุ่งหน้าสู่ภาคใต้ แวะรับประทานอาหารหรือของว่างและยังมีช้อปให้ซื้อของฝากอีกมากมาย จะเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ของวงการท่องเที่ยวกับ ร้านอาหารอร่อยปลอดภัยเพราะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติปลอดสารพิษ กับร้านโอ่อ่าใหญ่โต
จุดที่สองของคาราวานทัวร์ครั้งนี้อยู่ที่ร้านสหกรณ์การเกษตรบ้านลาด พบกับกล้วยหอมที่มีตำนานตั้งแต่สงครมโลกครั้งที่สอง โดยทหารญี่ปุ่นที่พ่ายแพ้สงคราม แล้วหลบเร้นอยู่ในอำเภอ บ้านลาดเพราะติดใจรสชาติกล้วยหอมเมืองนี้ จนลงมือปลูกและส่งไปขายที่ประเทศญี่ปุ่นนานตั้งแต่สงครามสงบ สหกรณ์บ้านลาดจึงรวบรวมเอาเกษตรกรมาอบรมวิธีการปลูกกล้วยหอมให้ได้มาตรฐาน ตามผืนแผ่นดินบ้านลาด จะได้รสชาติแสนดี จนทำเป็นกล้วยหอมส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น และ ส่งขายที่เซเว่นอีเลฟเว่นทั่วประเทศก็มาจากกล้วยหอมบ้านลาด เพชรบุรี
เรามาถึงจุดเป้าหมายทึ่สามอำเภอหัวหิน เพื่อวางพวงมาลา พระอนุสาวรีย์ของเจ็ดพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา และ กรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในอุทยานราชภักดิ์ทั้งหมด ซึ่งพลเอกชาติชาย ขันธสุวรรณ เป็นผู้นำในการกล่าวคำปฏิญาณและวางพวงมาลา ก่อนจะเดินทางต่อ
เรามาถึงจุดที่สึ่ บ้านรวมไทย หมู่บ้านที่สร้างความสามัคคีด้วยการนำนวัตวิถีเกี่ยวกับชุมชนที่โดดเด่นในการช่วยกันอนุรักษ์ผืนป่า สร้างศรัทธาต่อโครงการพระราชดำริช่วยกันรักษาป่าและรักษาสัตว์ป่าโดยเฉพาะ ช้างกับกระทิง ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางเข้ามาศึกษาความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทางหมู่บ้านรวมไทยได้รวมตัวกันขึ้นมาและสร้างสินค้าของฝากในรูปแบบโอท็อป เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน เมื่อมาถึงได้ฟังคำบรรยายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของชุมชน และร่วมกันรักษาป่าช้างกระทิงให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติต่อไป
หลังจากทานอาหารเสร็จเราเดินทางไปสู่จุดที่ห้า อุทยานแห่งชาติกุยบุรี รอยต่อกับ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไฮไลท์ของการจัดงานครั้งนึ้อยู่ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี กับโครงการช้างป่า บ้านพ่อ ปลูกหญ้าให้ช้างป่า สร้างอาหารให้กระทิง โดยการเข้าไปปลูกหญ้าและสร้างโป่งเทียมให้กับสัตว์ในป่า แม้จะมีเวลาไม่มากในการปลูกหญ้่าโดยมีหัวหน้่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรีเป็นผู้ให้คำแนะนำ เราได้เห็นทั้งช้่างป่าและกระทิงซึ่งอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แม้ช้างจะอยู่ไกลจากคนในแนวป่า สามารถมองเห็นแต่ไกลได้ อุทยานแห่งชาติกุยบุรีนี้ เมื่อก่อนเคยถูกบุกรุกและมีคนทำร้ายสัตว์ป่าล่าสุด ในหลวงฯทรงขอคืนพื้นทึ่แล้วปลูกต้นไม้ที่ยังสามารถเป็นแหล่งอาหารของช้างได้ ผ่านมาเนิ่นนานหลายสิบปีความอุดมสมบูรณ์ของป่าได้กลับมา สัตว์ป่าจึงไม่ถูกรบกวนและอยู่อย่างมีความสุข ตะวันคล้อยต่ำลงมากเราออกจากอุทยานกุยบุรีในเวลาใกล้ค่ำเพื่อเดินทางกลับเข้าที่พักโรงแรมประจวบแกรนด์ แล้วจะต้องไปจุดเทียนชัยถวาย
พระพรทึ่สะพานสราญวิถี อันเป็นเสร็จพิธี
รุ่งเช้าทานอาหารเลิศหรูยิ่งใหญ่ของโรงแนมแล้วออกเดินทางไปยังด่านสิงขรเชื่อมไทยกับเมียนม่าร์ ไปดูการค้าขายชายแดนและความเจริญเติบโตในท้องถิ่นก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครด้วยความปลอดภัยในสวัสดิภาพ ต้องขอขอบคุณทีมงานของ สทน.ทุกคนที่ขยันขันแข็งกับการอำนวยความสะดวกให้กุบสื่อมวลชนทุกคนด้วยรอยยิ้มและน้ำใจมากมาย และ คงมีโอกาสไปร่วมงานกัน.