เที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม-สุทน
ไปรู้จักพระพุทธรูปสองเมืองพระนครศรีอยุธยาและเมืองท่าอโยธยา
วันนี้พี่หนุ่ม-สุทน จะเล่าเรื่องความเป็นมาของพระพุทธรูป 2 เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา ให้ฟัง วัดพนัญเชิงแต่เดิมเรียกว่าวัดพแนงเชิงหรือวัดพระเจ้าพแนงเชิง ทั้งสามชื่อนี่มีความหมายว่าพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิคือองค์หลวงพ่อโต สมัยนั้นยังไม่มีนามเรียกขานหรือชื่อของหลวงพ่อโต (คนสมัยก่อนเมื่อเห็นองค์พระพุทธรูปองค์ใหญ่จะเรียกว่าหลวงพ่อโต) ดังนั้นวัดพนัญเชิงมาสอดคล้องกันสองเรื่อง
เรื่องพระนางสร้อยดอกหมากเป็นบุตรบุญธรรมของพระเจ้ากรุงจีนและได้ยกให้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายสายน้ำผึ้งแห่งเมืองอโยธยา พระนางสร้อยดอกหมากเสด็จมาด้วยเรือสำเภาจากเมืองจีนแล้วจอดที่ท่าเรือปากแม่น้ำป่าสักหรือท่าเรืออโยธยา เพื่อรอขบวนทหารพร้อมเจ้าชายสายน้ำผึ้งรับเข้าเมืองเพื่ออภิเษกสมรส แต่วันนั้นเจ้าชายสายน้ำผึ้งมิได้เสด็จมารับพระนางสร้อยดอกหมาก แต่ส่งขบวนทหารเดินทางรับเท่านั้น เมื่อเจ้าชายสายน้ำผึ้งไม่เสด็จมารับก็เลยทำให้พระนางสร้อยดอกหมากน้อยใจ เสียใจหรือเสียพระทัยเป็นยิ่งนัก พอเกิดความน้อยใจแล้ว พระนางสร้อยดอกหมากนั่งสมาธิกลั่นใจจนเสียชีวิต (ชาวจีนนิยมใช้คำว่านั่งพับเพียบทำให้เสียชีวิต) เมื่อเจ้าชายสายน้ำผึ้งทรงทราบจึงได้เสด็จมาแล้วอัญเชิญพระศพประกอบพระราชพิธีตามศาสนา ณ.วัดหัวแหลมบางกะจะและสร้างพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นวัดพระนางทำเชิงและต่อมาชื่อวัดพระแนงเชิงและวัดพนัญเชิงถึงทุกวันนี้
วัดพนัญเชิงเป็นวัดมาก่อนแล้วแต่ไม่ปรากฏหลักฐานผู้สร้าง อ่านตามหนังสือพงศาวดารเหนือกล่าวไว้ว่าพระเจ้าชายสายน้ำผึ้งผู้สร้างวัดหรือบูรณะขึ้นมาใหม่ทั้งหมดแล้วตั้งชื่อให้สอดคล้องกับองค์พระพุทธรูปและพระนางสร้อยดอกหมากคือองค์พระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิ และพระนางสร้อยดอกหมากนั่งพับเพียบหรือนั่งสมาธิกลั่นใจแล้วเสียชีวิต
วัดพนัญเชิงอยู่ตรงข้ามกับมุมตะวันออกเฉียงใต้เกาะกรุงศรีอยุธยาหรือปากแม่น้ำป่าสักไหลรวมกับแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อว่าบริเวณนี้เคยเป็นเมืองท่าอโยธยามาก่อน สำหรับขนถ่ายสินค้าไปเมืองละโว้หรือลพบุรี เรือสินค้าเดินทางในแม่น้ำป่าสักแล้วเข้าแม่น้ำลพบุรี ดังนั้นท่าเรืออโยธยาจึงมีมาก่อนกรุงศรีอยุธยา 26 ปี คือปี 1867 ส่วนกรุงศรีอยุธยาสมเด็จพระเจ้าอู่ทองทรงสถาปนาราชธานีในปี 1893
วัดพนัญเชิง ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 เสด็จพระราชดำเนินกรุงเก่าอยุธยาและเสด็จวัดพนัญเชิงทรงทอดพระเนตรวัดพนัญเชิงเป็นวัดมีความสำคัญ จึงทรงโปรดฯให้บูรณะวัดและองค์หลวงพ่อโตให้มีพุทธลักษณะงดงามแล้วทรงโปรดฯพระราชทานนามว่าพระพุทธไตรรัตนนายก ดังนั้นพระพุทธไตรรัตนนายกหรือองค์หลวงพ่อโตจึงเป็นพระพุทธรูป 2 เมือง คือเมืองอโยธยาศรีรามเทพนคร (ในศิลาจารึกกรุงสุโขทัยเป็นเมืองคู่แฝดเมืองละโว้) และกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยา(ชาวบ้านชาวเมืองเรียกส้นๆว่าอยุธยา)
นักท่องเที่ยวสนใจเดินทางไปเที่ยววัดพนัญเชิงมี
1.ในวิหารใหญ่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก พระพุทธรูป 2 เมือง และมีเรื่องราวเล่าขานของชาวกรุงศรีอยุธยาเมื่อเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เห็นน้ำพระเนตรไหลถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ แต่เมื่อชาวจีนมานมัสการขอพรเรียกว่าซำปอกง
2.ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากถือเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์คู่วัดนี้ภายในศาลมีภาพวาดเจ้าชายสายน้ำผึ้งและพระนางสร้อยดอกหมาก
3.วิวทิวทัศน์สวยงามเพราะแม่น้ำเชื่อมกันแม่ป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยา มีวังมัจฉาและเรือบริการล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยครับ