อุทัยธานี เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่เงียบสงบ มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้และสัตว์ป่ามีความหลากหลายทางธรรมชาติ มีขนบธรรมเนียมประเพณีมากมาย และมีแม่น้ำสะแกกรังที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวอุทัยธานีมาตั้งแต่สมัยโบราณ นอกจากนี้จังหวัดอุทัยธานียังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เรามาดูกันว่าอุทัยธานีจะมีที่เที่ยวที่ไหนกันบ้าง และที่แรกที่เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวก็คือ
หุบป่าตาด ตั้งอยู่ในเขต ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติสวยงามแปลกหูแปลกตา และยังเป็นเขตพื้นที่อนุรักษ์ โดยมีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่สวยงามด้วยพันธุ์ไม้ที่หายากมากมายหลายชนิด เช่น เต่าร้าง เปล้า คัดค้าวเล็ก ขนุนดิน เป็นต้น นอกจากนี้หุบป่าตาดยังมีลักษณะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ ภายในถ้ำคือผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นตาดและพืชพันธุ์โบราณที่หายาก และสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือ เมื่อนักท่องเที่ยวได้แวะเข้ามาเยี่ยมชมหุบป่าตาดสถานที่แห่งนี้ที่เต็มไปด้วยความพิศวงทางธรรมชาติ หน้าทางเข้าก็จะมีมัคคุเทศก์น้อย ที่คอยต้อนรับและนำนักท่องเที่ยวเข้าไปศึกษาเส้นทางธรรมชาติภายในถ้ำอีกด้วย
และบริเวณใกล้เคียงหุบป่าตาด ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติอย่าง สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ เช่น เขาห้วยโศก เขาปลาร้า เป็นต้น มีลานชมวิวอยู่บนมุมสูง ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนผลไม้ และยังมีจุดเช็คอินให้ถ่ายรุปเป็นที่ระลึกตกแต่งไว้อย่างงดงาม โดยมีร้านอาหารส้มตำ น้ำตก และร้านขายผลไม้ บริการ ถ้านักท่องเที่ยวมาในตอนเช้า ๆ ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่แสนสดชื่น พร้อมกับสายหมอกที่ปกคลุมอย่างสวยงามอีกด้วย
ในระหว่างทาง เราได้แวะชมสวนดอกไม้หลากชนิดที่ บ้านสวนจันทร์กระจ่าง ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก โดยมีคุณอัฐพร จันทร์กระจ่าง เป็นเจ้าของ เมื่อเข้าไปข้างในเราจะเห็นดอกไม้หลากชนิด เช่น ดาวเรือง สร้อยไก่ หงอนไก่ เทียนไทย และยังมีพืชผักอื่นๆ อีกมากมาย ที่สำคัญยังมีร้านกาแฟไว้ให้สำหรับคอกาแฟให้ชิมอีกด้วย
หลักจากที่เราไปชมสวนดอกไม้เสร็จเราก็ได้ไปแวะชมการทำผ้าไหมที่ ศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาหม่อนไหม บ้านโคกหม้อ ตำบลโคกหม้อ อำเภอทัพทัน บ้านโคกหม้อเป็นหมู่บ้านของชาวลาวครั่ง เป็นเอกลักษณ์ของผ้าซิ่นไหมตีนจกของชาวลาวครั่ง ซึ่งเป็นผ้าที่ผู้หญิงชาวลาวครั่งใช้สวมใส่ในงานพิธีการต่าง ๆ ซึ่งภายในนั้นจะมีการสาธิตการทำผ้าไหมไว้มากมาย และยังมีผ้าไหมที่ทอแล้วไว้จำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจอีกด้วย
ก่อนที่เราจะไปสถานที่สุดท้าย เราก็ได้แวะชมต้นไม้ยักษ์ ที่ อ.บ้านไร่ ซึ่งต้นไม้ยักษ์ต้นนี้มีชื่อเรียกว่า ต้นผึ้ง หรือ ต้นเชียง มีอายุประมาณ 300-400 ปี ความใหญ่ขนาด 40 คนโอบ เป็นต้นไม้ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมของชาวลาวครั่งที่อพยพมาจากกรุงเวียงจันทร์ ถือเป็น Unseen อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานีเลยก็ว่าได้
และที่สุดท้ายที่เราจะพาไปในวันนี้ก็คือ วัดถ้ำเขาวง ตั้งอยู่ในเขตของ ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์ภายในวัดที่สวยงาม โดยวัดแห่งนี้ออกแบบลักษณะเป็นเรือนไทยมีอาคาร 4 ชั้น ใต้ถุนเป็นลานเอนกประสงค์และร้านขายของ ส่วนชั้นที่ 2 เป็นวิหาร และมีรอยพระพุทธบาทจำลองให้เราไว้สักการะ ชั้นที่ 3 เป็นกุฏิ และชั้นที่สี่จะเป็นโบสถ์สร้างด้วยไม้สัก และไม้มะค่า มีฉากหลังเป็นเขาหินปูนสูงตระหง่าน ด้านหน้ามีบ่อน้ำซึ่งมีปลาอาศัยอยู่มากมายและสวนที่ตกแต่งด้วยหิน ไม้ดัด และไม้ประดับ ห่างจากตัววัดจะมีถ้ำอยู่มากมาย ระหว่างทางเดินที่จะขึ้นไปชมถ้ำจะผ่านน้ำตกเทียมที่ดูเข้ากับบรรยากาศของวัดอีกด้วย