ย้อนรอยเล่าขาน ตำนานเมืองราชบุรี เรืองรุจี เกริกก้องปฐพี ครั้งแรกราชบุรี
จังหวัดราชบุรี การท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัดราชบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท.สำนักงานราชบุรี สำนีกงานวัฒนธรรมจังหวัดราชบุรี และ พัฒนาการจังหวัดราชบุรี ร่วมมือกันจัดงาน “ย้อนรอยเล่าขาน ตำนานราชบุรี เรืองรุจี เกริกก้องปฐพี” โดยจัดเป็นเทศกาลแสงไฟและสื่อประสม จังหวัดราชบุรีมีการแสดงเหตุการณ์จำลอง ผ่านการแสดงแสงสีเสียง เวที กลางน้ำแม่กลอง ประดับไฟโชว์แสงสีการแสดงน้ำพุดนตรี มีการแสดงการวาดรูปผ่านเสียงเพลงคัลเลอร์อาร์ต โดยศิลปินชื่อดังของราชบุรี มารวมตัวกันวาดภาพและการแสดงทางวัฒนธรรม มีการออกร้านขายสินค้าโอท้อปห้าดาว และของกินของใช้อาหารการกินรอบๆบริเวณงานยาวทาบริมแม่น้ำหลายร้อยเมตร จนถึงสะพาน ที่จัดเวทีการแสดงบนกลางน้ำ
นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานใจการเปิดงานครั้งนี้ โดยรำลึกไปถึงหลวงนิคมคณานุรักษ์ อดีตข้าหลวงเมืองราชบุรี ในสมัยสงครามโลกครั้งที่2ท่านเสียชีวิตในวันทึ่15 มกราคม2488 การจัดงานครั้งนี้จึงหวนรำลึกไปถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาในอดีตเมืองราชบุรี เคยเป็นเมืองหน้าด่านมาก่อนจึงมีเรื่องราวเล่าขานเป็นตำนานมาตลอดถึงวันนี้
การแสดงย้อนรอยตำนานนั้น กล่าวในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ทัพพม่าเข้ามากวาดต้อนทำร้ายข่มเหงคนไทยให้ตกเป็นทาส สร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคน เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก พระยาตากเดินทางไปรวมกำลังพลเพื่อกลับมากอบกู้ชาติ เจ้าเมืองยกกระบัตรราชบุรีสมัยนั้นคือสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกสมัยที่ท่านปกครองเมืองนี้ได้ส่งน้องชายไปร่วมกอบกู้กับสมเด็จพระเจ้าตากสิน จนนำชัยชนะกลับมาพร้อมทั้งสร้างกรุงธนบุรึขี้นมา แต่อยู่เพียง15 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ก็เกิดขึ้น เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกปราบดาภิเษกขึ้นเป็นสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สร้างราชวงศ์จักรีขึ้นมาให้ทำให้บ้านเมืองสงบร่มเย็นมาถึงวันนี้
การแสดงละครเวทีกลางสายน้ำตื่นตาตื่นใจด้วยระบบไฟแสงสีเสียงเอฟเฟคตระการตาการเล่าเรื่องต่อมาสู่สงครามโลกครั้งที่2 ราชบุรียังอยู่ในช่วงที่กองทัพญี่ปุ่นยกทัพขึ้นบก แล้วต้องผ่านราชบุรี เพราะกองทัพญี่ปุ่นจะสร้างทางรถไฟเข้าสู่พม่า ราชบุรีจึงอยู่ในเส้นทางของการต้อนเชลยศึกผ่านมาทางนี้ หลวงนิคมคณารักษ์ข้าหลวงสมัยนั้นเป็นผู้ปกครองเมืองราชบุรี พยายามต่อสู้กับญี่ปุ่น แม้ว่าทางการไทยยอมให้กองทัพญี่ปุ่นผ่าน ในสมัยนั้นขบวนการไทยถีบยังมีอยู่มากตามเส้นทางรถไฟ
การแสดงละครเวทีประกอบแสงสีเสียงในครั้งนี้ แม้จะเป็นการจัดแสดงครั้งแรก การผูกเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้นึกถึงบรรยากาศสองยุคสองสมัย มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านการแสดง เจตนาของชาวราชบุรีอยากจะประกาศเกียรติคุณและยกย่องผู้ปกครองเมืองราชบุรีในสมัยที่เป็นเมืองยกกระบัตร และ สดุดีวีรกรรมของหลวงนิคมคณารักษ์ ให้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง ใช้เวลาการแสดงยาวนานเกือบสองชั่วโมง ได้รับอรรถรสในการชมอย่างเต็มอิ่ม กับระบำสายน้ำ ดนตรีแสงสีเสียงตระการตา ทำให้มองว่าอนาคตราชบุรีจะต้องจัดแสดงแสงสีเสียงแบบี้ทุกปีเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนเมืองรองน่าท่อง เที่ยวอย่างแท้จริง เมืองแห่งโอ่งมังกรนี้ยังมีอะไร ให้ค้นหาเพราะแต่ละอำเภอของราชบุรีมีแหล่ง ท่องเที่ยวอย่างมากมาย แวะเข้ามาดูจะรู้ว่าราชบุรีอาหารอร่อย มีความมหัศจรรย์ที่น่าสัมผัสอีกมากมาย เรากลับมาพักผ่อนเอาแรงพรุ่งนี้เราจะเดินทางตามรอยผ้าทอของลาวครั่งที่จังหวัดสุพรรณบุรีดินแดนที่สวยงาม.