เที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม-สุทน
พาไปล่องเรือเก๋งโบราณสมัยรัชกาลที่ 5 ในแม่น้ำปราจีนบุรี
วันนี้พี่หนุ่ม-สุทนเดินทางไป อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก ดูแลสถานที่ท่องเที่ยวในเขต จ.นครนายก จ.ปราจีนบุรีและจ.สระแก้ว ได้นำคณะสื่อมวลชนชมรมนักข่าวท่องเที่ยวเดินทางไปเก็บข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2562 คณะสื่อมวลชนเดินทางไปชุมชนบ้านบางพลวง ต.บางพลวง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ชุมชนบ้านบางพลวงเค้ารวมตัวกันจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนแปรรูปเสื่อกกบ้านบางพลวงโดยมีป้าชุ่มหรือนางสาวชุ่ม ยะประดิษฐ์ ประธานกลุ่ม พี่หนุ่ม-สุทน ขอบอกว่าสุดยอดมากๆ เหตุผลชาวบ้านสวนใหญ่ในเขต ต.บางพลวงมีอาชีพทำนาข้าว แต่บางสถานที่มีต้นกกขึ้นเต็มพื้นที่ ป้าชุ่มเล่าเรื่องให้ฟังเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี2554 หนักสุดๆ ต้องใช้คำนี้แต่ป้าชุ่มบอกอีกน้ำท่วม2-3ปี แต่ปี2554 น้ำท่วมนาน นาข้าวเสียหายหมด ป้าชุ่ม ทำวิกฤติน้ำท่วมให้เป็นโอกาส นำกกมาทอเป็นเสื่อกก จำหน่ายเริ่มต้นราคาถูกๆ ก่อนปรากฎว่าขายดี ป้าชุ่มมีกำลังใจหันไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ในที่สุดประสบผลสำเร็จ ผลิตภัณฑ์เสื่อกกหลากหลายรูปแบบ เช่นกระเป๋าสตรี รองเท้า เสื่อพับได้และสินค้าเสื่อกกแปรรูปอีกหลายอย่างแรกๆ ส่งขายในประเทศไทยต่อมาส่งไป สปป.ลาวแต่ปัจจุบันส่งขายไปประเทศญี่ปุ่น ฮ่าๆ ฮ่าๆ เสียงดังๆสุดยอดมากๆ ขอตะโกนดังๆว่าสุดยอดๆ หรือถ้าหากนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวเป็นหมู่คณะมีบริการอาหารประจำท้องถิ่นด้วย
เสร็จแล้วคณะสื่อมวลชนไปลงเรือ ท่าเรือ อบต.บางพลวงมีเจ้าหน้าที่มา 4 ท่าน ให้การต้อนรับสื่อมวลชน 9 ท่าน และเจ้าที่ททท.สนง.นครนายก 2 ท่าน ล่องเรือเก๋งโบราณสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสต้นมณฑลปราจีนบุรี ปี 2451 รศ.127 ครั้งนั้นมีเรือหน่วยงานภาครัฐต่อเรือแบบเก๋ง เพื่อร่วมรอรับเสด็จรัชกาลที่5 ในแม่น้ำบางปะกงแต่ชาวบ้านชาวเมืองเรียกแม่น้ำปราจีนบุรี ดังนั้นเรือเก๋งโบราณลำนี้ยังคงเก็บรักษาเอาไว้และเมื่อมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวล่องเรือแม่น้ำปราจีนบุรีจึงได้มีการซ่อมแซมเรือเก๋งโบราณลำนี้ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวล่องเรือย้อนอดีตสมัยรัชกาลที่5 สมัยนั้นเรือเก๋งลำนี้มี 4 แจว หัวเรือและท้ายเรือ แต่ปัจจุบันติดเครื่องยนต์หางยาวเรือแล่นช้าๆ พี่หนุ่ม-สุทน นั่งคิดอยู่ในใจ ทำเรือวิ่งฉิวไม่ได้ อ้อรู้แล้วน้ำหนักมากฮิฮิ ฮ่าๆ สื่อมวลชนมีอายุมากประมาณ 70 ปี รวมกันแล้วในเรือ 13 ชีวิต น้ำหนักอายุ 673 ปีมันเป็นเช่นนี้ขอบอกขำขันฮา
การล่องเรือเก๋งโบราณย้อนยุคครั้งนี้เหมาะสมจริงๆ กับเรือคณะสื่อมวลชนและมีเจ้าหน้าที่อบต. บางพลวงขับเรือขนาบข้างซ้าย ดูแลความปลอดภัย555 ให้สมจริงนะจะบอกให้ แต่เมื่อล่องเรือมีเสื้อชูชีพให้ส่วมใส่เพื่อความปลอดภัย แต่แม่น้ำปราจีนบุรีไม่มีคลื่นเรือแล่นสบายใจ ลมพัดผ่านมาเย็นๆมีผู้บรรยายให้ความรู้พอผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่นวัดบางคางย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ไทยเราเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ปี 2309 กองทัพพระเจ้าตากสินออกเดินทางทัพจากกรุงศรีอยุธยามาปากแม่น้ำโจ้โล้ บางคล้า ฉะเชิงเทรา กองกำลังของพม่าสมัยนั้นไล่มาทันก็เลยทำให้กองทัพพระเจ้าตากสินถอยร้นมาเมืองปราจีนบุรีเมืองเก่าติดแม่น้ำปราจีนบุรีใกล้ๆ กับวัดบางคาง แล้วเรือมาล่องมาถึงหน้าวัดแก้วพิจิตรในตัวเมืองปราจีนบุรี คณะสื่อมวลชนขึ้นจากเรือชมความงดงามของพระอุโบสถ กราบพระอภัยทาน(หลวงพ่ออภัยวงศ์) วัดแก้วพิจิตร ท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร(ชุ่ม) ให้จัดสร้างพระอุโบสถเป็นศิลปะ4ประเทศ คือจีน เขมร ยุโรปและไทย สวยงามมากควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้เยาวชนได้เดินทางมาศึกษาหาความรู้ สำหรับในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางอภัยทานหนึ่งเดียวในประเทศไทย
นักท่องเที่ยวสนใจจะเดินทางไปล่องเรือเก๋งโบราณย้อนอดีตสมัยรัชกาลที่5ในแม่น้ำปราจีนบุรีได้ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สนง.นครนายก โทรศัพท์ 037-312282 ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30น. และขอขอบคุณ จ.ส.ต.สกล ทองคำ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก ให้การต้อนรับคณะสื่อมวลชนชมรมนักข่าวท่องเที่ยว พร้อมด้วยนางสาวเสาวนีย์ คนกล้า รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก ที่นำคณะสื่อมวลชนเดินทางไปเก็บข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในเขตเมืองปราจีนบุรี