เปิดปก…อกนักเขียน
นักเขียนวาง! นิยายเรื่องใหม่“เมียนอกตำรา”
หลักการตามหานักเขียนคืออุดหนุนผลงานแล้วมาอ่านๆ เหมือนเรื่อง“กรงรักเมียยอดสวาท” ของนามปากกา“เทียนใส” หรือ อุ้ม – สุชาดา เลี้ยงชูศักดิ์ ชื่อเรื่อง-ปกสะดุดตา เนื้อหาใช้ได้ แม้ชื่อจะร้อนแรงนับฉากเลิฟซีนได้เลย เรื่องนี้พระเอกเจ้าชู้จนนางเอกทนความเจ้าชู้ไม่ไหวต้องจบความสัมพันธ์ แต่ดั่งสุภาษิต ว่าคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน! และตัวละครเป็นคนธรรมดาที่สามารถพบเจอได้ในชีวิตจริง ซึ่งอ่านยังไม่ทันจบก็อยากสัมภาษณ์ชอบภาษา เนื้อหา แม้พระเอกนางเอกกลับมาเจอกันเพราะเหตุผลบางประการ แต่ไม่ได้เถียงกันน่ารำคาญเหมือนนิยายบางเรื่องที่เถียงจนคนอ่านง่วง ครั้นทักขอสัมภาษณ์ผ่านเฟซบุ๊กนักเขียนก็ยินดีให้สัมภาษณ์แม้กำลังยุ่งมาก พอถูกถามผลงานเรื่องใหม่ นักเขียนย้ำว่าเดือนมิถุนายนจะได้ลงมือเขียนจริงจัง FB ของนักเขียนท่านนี้ก็รอกันก่อนน้า โดยอุ้มเปิดอกพูดคุยอย่างหมดเปลือก
อุ้มเขียนนิยายเป็นงานอดิเรกค่ะ ปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาโท จึงไม่ค่อยมีเวลาเขียนนิยายมากนัก เนื่องจากต้องอ่านบทความและเก็บข้อมูลเพื่อเขียนวิทยานิพนธ์ แต่ถ้ามีเวลานิดๆ หน่อยๆ ก็จะมานั่งขีดๆ เขียนๆ วางพล็อตนิยายไปเรื่อยๆ เก็บไว้ในสต็อก เรียกว่า ถ้ามีเวลาหรือเครียดกับวิทยานิพนธ์ก็จะเขียนนิยาย เพราะนิยายเป็นสิ่งที่ช่วยให้อุ้มผ่อนคลายได้เวลาเครียดค่ะ ซึ่งอุ้มไม่ได้กำหนดว่าจะต้องมีนิยายวางขายช่วงไหนเพราะอุ้มอาศัยเขียนเวลาว่างหรือคลายเครียด ทำให้ช่วงระยะเวลาการออกนิยายไม่ตายตัวค่ะ อุ้มเริ่มเขียนนิยายหลังจากที่ได้อ่านงานของคุณสิรินดา เรื่อง‘สาวมาดเซอกับโปรแกรมเมอร์ปากร้าย’ ถือว่าเป็นนิยายเรื่องแรกที่อุ้มหยิบมาอ่าน คุณสิรินดาจึงเป็นนักเขียนคนแรกที่เป็นแรงบันดาลใจให้อุ้มค่ะ เรียกว่าจากเรื่องนี้ทำให้อุ้มเริ่มต้นที่จะหัดเขียนนิยายเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ นักเขียนที่เป็นแรงบันดาลใจของอุ้มอีกคนหนึ่งก็คือ คุณโยธกา(พี่อ้อม) ซึ่งอุ้มอ่านงานเขียนของพี่เขาและที่ชอบมากๆ คือ‘นางฟ้าในใจของนายเดินดิน’ เป็นเรื่องแรกที่ทำให้อุ้มได้รู้จักพี่อ้อม ด้วยเนื้อหาของเรื่องเป็นแนวบ้านไร่น่ารักน่าหยิก แถมพระเอกก็เป็นบุคคลธรรมดาที่จับต้องได้ พบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตจริง ไม่ได้รวยล้นฟ้าเป็นมหาเศรษฐี แต่กลับมีเสน่ห์และชวนให้หลงรัก และยิ่งพอได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ทำให้อุ้มเห็นถึงพรสวรรค์และพรแสวงของพี่เขาในการเขียนนิยาย พี่อ้อมขยันมากและมีจินตนาการอยู่ตลอดเวลา พี่อ้อมจึงเป็นอีกหนึ่งไอดอลนักเขียนของอุ้มค่ะ
อาชีพนักเขียน สำหรับอุ้มมองว่าสามารถเลี้ยงตัวเองได้ดีในระดับหนึ่งในกรณีที่เรามีฐานนักอ่านหรือแฟนคลับเป็นของตัวเองจำนวนหนึ่ง ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ว่าฐานแฟนคลับมีส่วนสำคัญที่จะชี้วัดว่าเราสามารถทำอาชีพนักเขียนให้เป็นอาชีพหลักได้หรือไม่ เห็นได้ว่านักเขียนดังๆ หลายท่านก็เขียนหนังสือเป็นงานหลัก แต่ถ้าถามว่าอุ้มจะทำอาชีพนักเขียนเป็นงานหลักไหม ณ ปัจจุบันนี้คงยังไม่ทำค่ะ อุ้มขอทำเป็นงานอดิเรกไปก่อน เพราะอุ้มยังมีความฝันในด้านการทำงานอย่างอื่นที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องทำให้ได้ ดังนั้นอุ้มจึงต้องทำตามความฝันและความตั้งใจของอุ้มก่อน ขณะเดียวกันก็เขียนนิยายซึ่งเป็นความฝันหนึ่งที่บรรลุแล้วของอุ้มไปเรื่อยๆ จนกว่าอุ้มจะไม่มีแรงจับปากกา สำหรับอุ้มงานเขียนเป็นงานที่ทำได้ตลอดชีวิตค่ะ ตราบใดที่เรายังมีไฟและมีจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ อุ้มเริ่มต้นเข้าสู่การเป็นนักเขียนตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 4 ค่ะ ถ้านับจนปัจจุบันถือว่าเขียนงานมาได้ 6-7 ปีแล้ว นามปากที่ใช้มีอยู่หลายนามปากกา คือ ยุคนธร, ช่อทับทิม, พะนอใจ, เทียนใส และคุณัญญา ซึ่งปัจจุบันอุ้มจะใช้นามปากกาช่อทับทิม และพะนอใจสำหรับเขียนนิยายรูปแบบอีบุ๊ก ส่วนเทียนใสและคุณัญญาใช้กับสำนักพิมพ์ไอริชและเฮเลน และนามปากกายุคนธร อุ้มใช้เป็นนามปากกาแรกของชีวิตนักเขียน ใช้สำหรับสำนักพิมพ์กรีนมายด์ ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์แรกที่เปิดโอกาสให้อุ้มมีนิยายเรื่องแรกในชีวิตคือ‘เสน่ห์รักละลายใจ’ แนวรักโรแมนติก พระเอกกะล่อน นางเอกจะฟอร์มจัดนิดๆ หรือเป็นแนวที่อุ้มแอบเรียกว่า‘นิยายสีชมพู’ เพราะอย่างที่ได้กล่าวไว้ตอนต้นว่า อุ้มเริ่มอ่านนิยายเรื่องแรกของคุณสิรินดา ซึ่งเป็นแนวรักโรแมนติก และอุ้มก็อ่านแนวนี้มาตลอด ทำให้การเขียนนิยายเรื่องแรกของอุ้มเป็นแนวที่คุ้นเคย แม้ว่านิยายเรื่องแรกจะทำออกมาไม่ค่อยดีนัก แต่ทางกรีนมายด์ก็ให้โอกาสตีพิมพ์ และชี้แนะแนวทางต่างๆ ให้อุ้มนำมาปรับและพัฒนาเรื่องต่อๆ ไปค่ะ หลังจากได้รับการตีพิมพ์นิยายเรื่องแรกอุ้มก็ได้รับโอกาสตีพิมพ์นิยายเรื่องต่อๆ มา โดยส่วนใหญ่จะเป็นของสำนักพิมพ์กรีนมายด์ นามปากกายุคนธร ทั้งหมด 9 เรื่อง คือ เสน่ห์รักละลายใจ, ลิขิตเสน่หานาวาพิศวาส และเหลี่ยมรักมาเฟียจอมเผด็จการ นอกจากนี้มีนิยายที่หมดสัญญากับทางกรีนมายด์ได้นำมาจัดทำเป็นอีบุ๊กหลายเรื่อง คือ เหลี่ยมร้ายลิขิตรัก, ฟา(ร์)มรักละมุนใจ, แลกรักบำเรอมาเฟีย (แลกสวาทบำเรอมาเฟีย), ยั่วสวาทอ้อนรักมาเฟีย ซึ่งใช้นามปากกาช่อทับทิม และลิขิตรักอสูรร้าย (เสน่หาจำเลยอสูร) นาม พะนอใจ และอุ้มก็ยังได้รับโอกาสจากสำนักพิมพ์ไอริชและเฮเลน ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่อุ้มเคยฝึกงานตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 3 ในการตีพิมพ์นิยาย ซึ่งต้องบอกว่า ไอริชและเฮเลนคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้อุ้มได้เรียนรู้งานเขียนนิยาย รวมถึงกระบวนการต่างๆ กว่าที่จะได้นิยายออกมาสักเรื่องหนึ่ง โดยนิยายที่ตีพิมพ์กับไอริชและเฮเลน ในนามปากกา‘คุณัญญา’ มีทั้งหมด 3 เรื่อง คือ ร้อนรักเลขาสาว, บ่วงสวาทสุภาพบุรุษร้อนรัก และรสสวาทมาเฟียร้อนรัก ส่วนนิยายที่ใช้นามปากกา‘เทียนใส’ มีทั้งหมด 3 เรื่องคือ เงื่อนสวาทเมียชั่วคราว, นางบำเรอขัดดอก และกรงรักเมียยอดสวาท ในปัจจุบันนี้ทราบกันดีในหมู่คนรักหนังสือ ว่าสภาวการณ์หนังสือนิยายแบบรูปเล่มค่อนข้างระส่ำระสาย หลายสำนักพิมพ์ปิดตัวลง แน่นอนว่านักเขียนย่อมได้รับผลกระทบอยู่แล้ว แต่สำหรับอุ้มมองว่า การปิดตัวลงของสำนักพิมพ์ไม่ได้ทำให้ตลาดนิยายซบเซา เพราะคนที่ชอบอ่านนิยาย ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องอ่านนิยายอยู่วันยันค่ำ แค่มองว่ามันก็คือการค้าขายที่มีขึ้นมีลงเป็นปกติมากกว่า เหมือนเราขายอาหาร วันนี้อาจขายดี อีกวันอาจขายได้น้อยมากกว่า อีกอย่างผลกระทบที่เราได้รับจะมากหรือน้อยมันขึ้นอยู่กับการปรับตัวของเราเอง และหาช่องทางที่จะเผยแพร่งานเขียนช่องทางอื่นแทนการส่งสำนักพิมพ์ ซึ่งช่องทางที่อุ้มเลือกก็คือ การจัดทำนิยายรูปแบบอีบุ๊ก ซึ่งการลงขายนิยายไม่ได้ยุ่งยากมากมาย อุ้มมองว่ามันคือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากกว่า เพราะการจัดทำนิยายอีบุ๊กเราจะต้องมาจัดหน้า หาปกนิยายเองหมดทุกอย่าง คงเพราะอุ้มเป็นคนชอบท้าทาย เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้ ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมั้งคะ เลยไม่รู้สึกว่ามันยุ่งยากหรือวุ่นวาย แต่กลับทำให้อุ้มเริ่มหัดที่จะจัดหน้านิยายเอง ส่วนปกนิยายก็หาได้ไม่ยาก เพราะมีคนทำออกมาขายราคาไม่แพงแถมสวยด้วย แต่บางครั้งถ้ายังไม่เจอปกถูกใจอุ้มก็จะทำปกเอง ก็หัดทำจากการหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตแหละค่ะ ทำให้สามารถตัดต้นทุนส่วนนี้ออกไปได้ ในส่วนของเรื่องการเปลี่ยนนามปากกาอุ้มมอง ว่านามปากกาไม่ใช่ปัญหาที่จะทำให้นักอ่านอ่านงานเราหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่นักเขียนจะมีเพจเป็นของตัวเอง สามารถแจ้งให้แฟนนิยายทราบได้ว่าใช้นามปากกาอะไรบ้าง และส่วนที่จะดึงนักอ่านให้อ่านงานเราได้ หนึ่งคือ‘ปก’ ปกนิยายต้องมีเสน่ห์ ดึงดูด สองคือ‘ชื่อเรื่อง’ และสิ่งสุดท้ายคือ พล็อตเรื่อง การดำเนินเรื่อง และสำนวนการเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ สิ่งเหล่านี้จะทำให้นักอ่านยังคงติดตามงานของเรา ขอแค่คุณภาพการเขียนไม่แย่ลงหรือใช้พล็อตซ้ำๆ เดิมๆ ติดๆ กัน ข้อดีของการลงขายนิยายเป็นอีบุ๊กคือ เรามีอิสระทางความคิดที่จะเขียนนิยายแนวใดก็ได้ ไม่จำกัดว่าเราจะต้องเขียนแนวมาเฟีย หรือเรต 18+ เสมอไป อุ้มจึงสามารถสลับแนวนิยายได้ตามใจชอบ หากครั้งนี้ลงแนวมาเฟียไปแล้ว เรื่องต่อไปก็อาจจะเป็นแนวใสๆ อ่านได้ทุกวัย หรือแนวตลก เพื่อไม่ให้รู้สึกซ้ำซากจำเจ ถามถึงพระเอกนิยายของอุ้มมีหลายแนวหลายบุคลิก ที่นักอ่านจำได้น่าจะเป็นพระเอกมาเฟียจากเรื่อง‘แลกสวาทบำเรอมาเฟีย’ ซึ่งบุคลิกของพระเอกเป็นมาเฟียค่อนข้างโหดแต่มีมุมน่ารักและอ่อนโยน ทำให้ตัวละครมีหลายมิติในตัวคนเดียว เวลาขี้หึงคือหึงสุดๆ แต่เวลาอ้อนก็อ้อนสุดๆ เช่นกัน พระเอกอีกคนหนึ่งที่นักอ่านมักพูดถึงคือ‘ธีรัชต์’ พระเอกจากเรื่อง‘ปิ๊งรักฉบับหวานใจ’ ซึ่งวางจำหน่ายเป็นอีบุ๊ก เท่าที่นักอ่านอินบ๊อกซ์มาหาก็จะพูดกันว่านิสัยและบุคลิกของพระเอกค่อนข้างเป็นที่ชื่นชอบ คือจะเป็นคนนิ่งๆ มีความเป็นผู้ใหญ่สูง แต่บทจะหวานก็หวานได้น่ารักน่าหยิก อีกทั้งตัวละครตัวนี้ยังเป็นคนธรรมดาที่สามารถพบเจอได้ในชีวิตจริง คือไม่ได้รวยหรือมีชื่อเสียงในวงสังคม แต่เป็นคนธรรมดาที่มีหน้าที่การงานมั่นคงและสามารถที่จะเป็นผู้นำครอบครัวได้ แต่ถ้าถามว่าพระเอกที่ไม่มีวันตายสำหรับอุ้มต้องเป็นแบบไหน ก็คงเป็นพระเอกที่มีบุคลิกประเภทร้ายกับคนอื่นและดีกับนางเอกคนเดียว พระเอกประเภทนี้คือต้องหล่อ รวย และเก่งทุกอย่าง เรียกว่าอยู่นอกบ้านคือพญาอินทรีย์ พอเข้าบ้านก็คือแมวเหมียวดีๆ นี่เอง
แนวนิยายที่อุ้มถนัดมากที่สุดคือ แนวรักโรแมนติกธรรมดาๆ นี่แหละค่ะ เพราะอุ้มรู้สึกว่านิยายแนวนี้สามารถทำให้อุ้มถ่ายทอดเรื่องราวของ‘ชีวิต’ ทั่วๆ ไปได้โดยไม่ติดว่าเขาต้องรวยหรือเธอต้องเก่งไปเสียทุกอย่าง พระเอกไม่จำเป็นต้องเป็นมาเฟียหรือมหาเศรษฐี นางเอกก็ไม่จำเป็นต้องเลิศหรู แต่ตัวละครต้องมีเสน่ห์ มีมุมมองในการใช้ชีวิต และสามารถถ่ายทอดแนวคิดต่างๆ ไปสู่คนอ่านได้ คือตัวละครสามารถพบได้ในชีวิตจริง เป็นบุคคลที่จับต้องได้ อุ้มมองว่า การเขียนอะไรที่เริ่มมาจากพื้นฐานธรรมดาๆ หรือสิ่งที่อยู่รอบตัวอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา จะทำให้เราเขียนงานอย่างผู้รู้จริงและสมจริงมากที่สุด และถ้าถามว่าฉากที่เขียนยากและใช้พลังมากที่สุดสำหรับอุ้ม ก็คงเป็นฉากหวานๆ โรแมนติกนี่แหละค่ะ อิอิ…เพราะถึงอุ้มจะถนัดแนวนี้ แต่ความท้าทายมันก็มี จะเขียนฉากโรแมนติกอย่างไรไม่ให้เชยและเลี่ยน เขียนอย่างไรให้มีความโรแมนติกในความไม่น่าโรแมนติกและจะต้องฟินจิกหมอน และต้องไม่ให้นักอ่านรู้สึกว่า ฉากนี้มันก็เหมือนกับนิยายเรื่องอื่นๆ ไม่ได้แตกต่างอะไร ดังนั้นการเขียนฉากโรแมนติกนี่แหละยากที่สุด เพราะโดยส่วนตัวอุ้มไม่ใช่คนหวานหรือโรแมนติกมากมาย ออกจะเป็นคนลุยๆ และเคร่งเครียดเสียมากกว่า ส่วนแนวนิยายที่อยากเขียนมากที่สุดคือ แนวจิตวิทยา (เตรียมนามปากกาไว้เรียบร้อยแล้วชื่อ ‘คนในเงา’ค่ะ) ส่วนที่ถามว่ามีโอกาสจะเขียนนิยายวายหรือนิยายจีนไหมนั้น ถ้ามีโอกาสก็อยากเขียนแต่อุ้มจะต้องศึกษาให้ลึก โดยเฉพาะนิยายจีน การเขียนจะต้องไม่ใช่แค่ใช้ชื่อจีนหรือบรรยากาศที่เป็นจีนๆ เท่านั้น แต่อุ้มมองว่าเราจะต้องรู้ไปถึงแนวคิด การใช้ชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของเขาเพื่อที่งานเขียนของเราจะไม่ไปกระทบความเชื่อหรือขนบธรรมเนียมเขายึดถือมาค่ะ สำหรับนิยาย‘อีโรติก’ในความคิดของอุ้มขอใช้คำว่า‘เซ็กซี่’ ซึ่งไม่จำกัดว่าจะต้องเกิดขึ้นในฉากเลิฟซีนเท่านั้น แต่แค่การบรรยายบุคลิกลักษณะหรือการกระทำของตัวละครให้รู้สึกว่า ตัวละครตัวนี้มีพลังดึงดูดทางเพศ มีความเซ็กซี่ร้อนแรง หรือน่าค้นหา ก็คือความอีโรติกแล้วสำหรับอุ้ม เป็นแนวการเขียนที่เน้นฟีลลิ่ง คือทำให้คนอ่านเห็นภาพและรู้สึกได้โดยไม่จำเป็นต้องบรรยายแบบตรงๆ ค่ะ
ในส่วนของการละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนตัวเคยถูกละเมิดลิขสิทธิ์เหมือนกันค่ะ แต่เป็นลักษณะที่เอานิยายของเราไปเผยแพร่พิมพ์ลงเว็บไซต์เป็นตอนๆ ให้อ่านฟรีทั้งที่เราวางขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ในกรณีนี้เราได้อธิบายในเรื่องของกฎหมายให้ผู้ที่เผยแพร่เข้าใจ เขาจึงยอมลบนิยายของเราออกค่ะ อุ้มก็อยากฝากถึงคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน ว่าผลงานทุกชิ้นมีลิขสิทธิ์และมีผลทางกฎหมายค่ะ ถึงแม้ว่าผลงานของนักเขียนคนนั้นจะไม่ได้เด่นดังหรือมีชื่อเสียง แต่พวกเขาก็คือเจ้าของผลงานที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรละเมิดค่ะ
สุดท้ายนี้ อุ้มขอฝากผลงานที่กำลังเขียนอยู่เรื่องล่าสุดคือ‘เมียนอกตำรา’ แต่อาจจะคลอดช้านิดนึงเพราะติดภารกิจหัวฟูกับวิทยานิพนธ์อยู่ แต่จะอัปเดตความคืบหน้าเรื่อยๆ ค่ะ โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของนิยายได้ที่เพจ พะนอใจ/ช่อทับทิม/คนในเงา ค่ะ ก็ฝากติดตามด้วยนะคะ”
เฉลยคำถามนิยายจีนของ“เพลงมีนา” : ลมหายใจมังกร
คำถามนิยายที่นักเขียนกำลังเขียนเรื่องล่าสุดคือ?
ทราบคำตอบเขียนชื่อ – ที่อยู่และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่
เปิดปก…อกนักเขียน
เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ผู้ตอบถูก 3 ท่าน ได้รับหนังสือจาก ยุคนธร, ช่อทับทิม, พะนอใจ, เทียนใส, คุณัญญา (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)
หมดเขตส่งคำตอบ 15 เมษายน 2562