เฉลิมฉลองไปพร้อมกับ The Game of Thrones ซีรีส์ดังแห่งปี
ด้วย ‘ไวท์ วอล์กเกอร์ บาย จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ และ ‘เกมออฟโธร์น ซิงเกิลมอลต์ วิสกี้คอลเลคชั่น’
บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ตอบรับกระแสความดังจากเทรนด์ทั่วโลกและเอาใจแฟนๆ ซีรีส์ในประเทศไทยของ Game of Thrones ด้วยการเปิดตัวนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจในเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและตัวละครสำคัญๆ จากอาณาจักรต่างๆ ผ่านวิสกี้ที่รังสรรค์ขึ้นในจำนวนจำกัด ทั้ง ไวท์ วอล์กเกอร์ บาย จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ (White Walker by Johnnie Walker) และล่าสุดกับ เกมออฟโธร์น ซิงเกิลมอลต์ วิสกี้
คอลเลคชั่น (The Game of Thrones Single Malt Whisky Collection) สะท้อนถึง 1 บัลลังก์กับ 7 อาณาจักรอย่างยิ่งใหญ่ได้อย่างลงตัว
เมื่อซี่รีส์ดังกำลังก้าวเข้าสู่ซีซั่นสุดท้าย จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ นำคาแรคเตอร์ของ ไวท์ วอล์กเกอร์ ตัวละครดังที่ทรงพลังและน่าเกรงขาม นำโดย เดอะ ไนท์คิง ผู้มีนัยตาสีฟ้าเยือกเย็นแห่งกองทัพ ไวท์ วอล์กเกอร์ ผู้ผุดขึ้นมาจาก เดอะ โฟรเซ่น นอร์ท มารังสรรค์เป็น วิสกี้ ลิมิเต็ด เอดิชั่น ‘ไวท์ วอล์กเกอร์ บาย จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โดย จอร์จ ฮาร์เปอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิสกี้ พร้อมทีมนักเบลนด์ฝีมือฉกาจของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ นำแรงบันดาลใจจากไอเย็นยะเยือกของฤดูหนาว มาถ่ายทอดเป็นวิสกี้ที่เหมาะที่สุดกับการดื่มแบบเย็นเฉียบ จากฟรีซเซอร์ อุณหภูมิ 1.5 องศาเซลเซียส เหมือนการปรากฏตัว ณ ดินแดนอันหนาวยะเยือกของเหล่าไวท์ วอล์กเกอร์
นอกจากรสชาติใหม่แล้ว ขวดบรรจุ ไวท์ วอล์กเกอร์ ยังเป็นนวัตกรรมที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิคพิเศษ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ เดอะ โฟรซเซ่น นอร์ท ดินแดนแห่งความหนาวเหน็บ โดยใช้โทนสีฟ้า-ขาวราวกับพื้นที่ ซึ่งปกคลุมด้วยน้ำแข็ง พร้อมตกแต่งสัญลักษณ์รูปคนเดินของแบรนด์อย่าง สไตร์ดิ้ง แมน (Striding Man) ให้เข้ากันด้วยการสวมชุดเกราะ เสมือนหนึ่งเป็นกองกำลังของ เดอะ ไนท์ คิง อีกทั้งยังตื่นตากับหมึกพิเศษสีฟ้า ที่จะมองเห็นเมื่อผ่านการแช่แข็งในอุณหภูมิอันเยือกเย็น เป็นลวดลายกราฟิก ทั่วทั้งขวด และจะปรากฎคำว่า “Winter Is Here”เพื่อบ่งบอกว่าฤดูหนาวได้คืบคลานมาถึงแล้ว เมื่ออุณหภูมิของขวดลดลงจนได้ที่
เมื่อ ไวท์ วอล์กเกอร์ ผ่านการแช่เย็นเฉียบแล้วรินดื่มแบบ ออน เดอะ ร็อค หรือผสมมิกเซอร์ต่างๆ จะได้รสและกลิ่นของคาราเมล วานิลลา บรรดาเบอร์รี่สีแดงและผลไม้สด ซึ่งเกิดจากการผสมผสานซิงเกิลมอลต์จากคาร์ดูและคลิเนลิซ หนึ่งในโรงกลั่นทางตอนเหนือสุดของสก็อตแลนด์ ราวกับเป็นตัวแทนของ เดอะ โฟรเซ่น นอร์ท ทั้งนี้ จอร์จ ฮาร์เปอร์ ได้กล่าวว่า “วิสกี้จากคลิเนลิชผ่านสภาพอากาศหนาวยาวนาน ของสก็อตแลนด์ คล้ายคลึงกับระยะเวลาที่ เดอะ ไนท์ส วอทช์ ต้องบุกฝ่าผ่านไปยังด้านเหนือของกำแพง ดังนั้นมันจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุด ในการเริ่มสร้างสรรค์วิสกี้ที่เฉพาะตัวเช่นนี้”
จรินี วงศ์กำทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการเปิดตัวในครั้งนี้ว่า “ก่อนหน้านี้เราได้ชิมลางส่ง ไวท์ วอล์กเกอร์ บาย จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ จำนวนจำกัดเข้ามาทดลองตลาดในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้บริโภคจนทำให้สินค้าขาดตลาดไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก เราจึงต้องสั่งผลิตสินค้าและนำเข้ามาจัดจำหน่ายเพิ่มเติมให้ทันกับการเปิดตัวซีซั่นที่ 8 ซึ่งเป็นซีซั่นที่หลายๆ คนใจจดใจจ่อรอคอยการกลับมาของซีรีส์ดังในช่วงเมษายนนี้ โดยครั้งนี้เราได้จับมือกับพันธมิตรสำคัญอย่างเซเว่น อีเลฟเว่น เพื่อให้ผู้ที่พลาดโอกาสในช่วงที่ผ่านมาสามารถเป็นเจ้าของ วิสกี้ที่เบลนด์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากซีรีส์ดังนี้ได้อย่างทั่วถึง”
นอกจากเบลนด์วิสกี้ ลิมิเต็ด เอดิชั่นแล้ว บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวคอลเล็คชั่นซิงเกิลมอลต์วิสกี้ล่าสุดภายใต้ชื่อ “เกม ออฟ โธร์น ซิงเกิล มอลต์ วิสกี้ คอลเลคชั่น” ประกอบไปด้วย ซิงเกิล มอลต์ วิสกี้ 8 รุ่น เท่ากับจำนวนซีซั่นของซีรีส์นี้ โดยตั้งชื่อตามตระกูลอันยิ่งใหญ่ของ เวสเทอรอส (Westeros) และ เดอะ ไนท์ส วอทช์ (The Night’s Watch) เพื่อให้แฟนๆ ซีรีส์ได้สัมผัสกับแต่ละอาณาจักร โดย 6 ใน 8 รุ่นนั้นได้รับการรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้เหล่าสาวกได้ร่วมเฉลิมฉลองไปพร้อมๆ กับช่วงเวลาแห่งความบันเทิงของซีซั่น 8 ซึ่งเป็นฉากสุดท้ายของเรื่อง
“เกม ออฟ โธร์น ซิงเกิล มอลต์ วิสกี้ คอลเลคชั่น ได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยมในหลายๆ ประเทศที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ อย่างในสหรัฐอเมริกา ร้อยละ 80 ของสินค้าทั้งหมดถูกจำหน่ายภายในระยะเวลาเพียง 8 สัปดาห์ ขณะที่ในยุโรปสินค้าขายหมดตั้งแต่เปิดรับพรีออเดอร์เพียง 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ในเว็บขายสินค้าชื่อดังอย่าง AMAZON สินค้าถูกจำหน่ายไปแล้วกว่า 7,000 ขวดภายใน 24 ชั่วโมง เรามั่นใจว่าปรากฏการณ์เกมออฟโธร์นฟีเวอร์นี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในประเทศไทยจากการตอบรับที่ดีของแฟนๆ อย่างแน่นอน” จรินี กล่าวเสริม
คอลเลคชั่น เกม ออฟ โธร์น ซิงเกิล มอลต์ วิสกี้ ประกอบด้วย
1. เฮาส์ ทัลลี่ (House Tully): เดอะ ซิงเกิลตัน ออฟ เกลนดัลแลน ซีเล็คท์ (The Singleton Glendullan Select)
ตระกูลทัลลี่อาศัยอยู่ที่ปราสาทริเวอร์รัน ปกครองดินแดนในฐานะลอร์ด ออฟ เดอะ ริเวอร์ แลนด์ส เปี่ยมด้วยพลังของสายน้ำที่ไหลผ่านปราสาทของตระกูลทัลลี่ เทียบเคียงได้กับการผลิตวิสกี้จาก เดอะ ซิงเกิลตัน เกลนดัลแลน
ซีเล็คท์ ณ โรงกลั่นริมฝั่งแม่น้ำฟิดดิชที่ไหลผ่านหุบเขาในเมืองดัฟทาวน์ ซึ่งนอกจากใช้สายน้ำแห่งนี้ในการผลิตแล้ว ยังได้มีการทำกังหันน้ำเพื่อกำเนิดพลังงานสำหรับใช้ในโรงกลั่นอีกด้วย
2. เฮาส์ สตาร์ก (House Stark): ดาลวินนี่ วินเทอร์ส ฟรอสต์ (Dalwhinnie Winter’s Frost)
ความอึด ความแข็งแกร่ง และทักษะการเอาตัวรอดจากสถานการณ์วิกฤติของตระกูลสตาร์ก ได้รับการหล่อหลอมจาก การอาศัยอยู่ภายใต้ความหนาวเย็นของปราสาทวินเทอร์เฟล เปรียบได้กับโรงกลั่นดาลวินนี่ หนึ่งในโรงกลั่นที่อยู่สูงที่สุด ในดินแดนสก็อตแลนด์ ซึ่งมีอากาศหนาวเย็นและอยู่ห่างไกล คล้ายคลึงกับ เดอะ นอร์ท แหล่งกำเนิดของตระกูลสตาร์ก นับเป็นการจับคู่กันอย่างลงตัวและโดดเด่น สภาพอากาศที่โหดร้ายสร้างเอกลักษณ์ให้ ดาลวินนี่
วินเทอร์ส ฟรอสต์ (Dalwhinnie Winter’s Frost) ที่มีความหวานของน้ำผึ้งผสานความอบอุ่นของเครื่องเทศ หากอยากให้ได้รสชาติดีที่สุด ต้องนำไปแช่เย็นหรือเสิร์ฟกับน้ำแข็ง
3. เฮาส์ ทาร์แกเรียน (House Targaryen): คาร์ดุ โกลด์ รีเสิร์ฟ (Cardhu Gold Reserve)
ความร้อนแรงดุดันของ แดเนรีส ทาร์แกเรียน ผู้นำหญิงของตระกูลเปรียบได้กับ คาร์ดุ โกลด์ รีเสิร์ฟ ซิงเกิลมอลต์ ที่เป็นสัญลักษณ์เชิดชูสตรีผู้เป็นตำนาน และมีความทรหดอดทน ไม่ยอมแพ้โดยง่าย เนื่องจากโรงกลั่นคาร์ดุบุกเบิกโดย เฮเลน คัมมิ่ง และ อลิซาเบ็ธ ผู้เป็นสะใภ้ ในช่วงปี 1800 ซึ่งช่วงเวลานั้น อุตสาหกรรมวิสกี้ล้วนอยู่ในกำมือผู้ชายเกือบทั้งหมด
4. เฮาส์ แลนนิสเตอร์ (House Lannister): ลากาวูลิน 9 ปี (Lagavulin 9 Year Old)
ลากาวูลิน คือ หนึ่งในแบรนด์ซิงเกิลมอลต์ระดับตำนาน สร้างสรรค์ขึ้นบนชายฝั่งของไอส์ลา มานานกว่า 200 ปี สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นนักคิดที่ละเอียดรอบคอบ บวกกับความดื้อรั้นของชาวแลนนิสเตอร์ เมื่อครั้งที่ลุกฮือขึ้นเพื่อพิชิต ไอรอน โธร์น ลากาวูลิน 9 ปี ถือเป็นซิงเกิลมอลต์ที่ชวนให้นึกถึงความมั่งคั่งของชาวแลนนิสเตอร์ และการดื่มที่ได้รสชาติดีที่สุดคือ การดื่มเพียวๆ หรือหยดน้ำลงไปสักหยด
5. เดอะ ไนท์ส วอทช์ (The Night’s Watch): โอแบน เบย์ รีเสิร์ฟ (Oban Bay Reserve)
โรงกลั่นโอแบนตั้งอยู่ใต้หน้าผาสูงชันที่สามารถมองลงไปเห็นอ่าว ณ พรมแดนระหว่างไฮแลนด์ตะวันตกและเกาะต่างๆ ของสก็อตแลนด์ คาบเกี่ยวระหว่างแผ่นดินกับทะเล เช่นเดียวกับ คาสเซิล แบล็ค บ้านของ เดอะ ไนท์ส วอทช์ ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง เวสเทอรอส และแผ่นดินที่อยู่พ้น เดอะ วอลล์ ออกไป โอแบน เบย์ รีเสิร์ฟ เป็นวิสกี้ที่มีกลิ่นไม้และกลิ่นเครื่องเทศ ซึ่งเหล่า เดอะ ไนท์ส วอทช์ ชื่นชอบ แม้กระทั่งในคืนที่เหน็บหนาวที่สุดก็ตาม
6. เฮาส์ เกรย์จอย (House Greyjoy): ทาลิสเกอร์ ซีเล็คท์ รีเสิร์ฟ (Talisker Select Reserve)
ตระกูลเกรย์จอย ปกครอง ไอรอน ไอส์แลนด์ และบูชาเทพ เดอะ ดราวน์ ก็อด ดังนั้น ซิงเกิล มอลต์ ที่เกิดมาเป็นคู่แท้ กับตระกูลนี้เป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก ทาลิสเกอร์ เพราะซิงเกิลมอลต์ชนิดนี้กลั่นขึ้นบนฝั่งของเกาะสกาย หนึ่งในพื้นที่ที่ห่างไกล และทุรกันดารที่สุดแห่งหนึ่งของสก็อตแลนด์ ผลจากการถูกคลื่นโหมกระหน่ำซัดชายฝั่งตลอดเวลาทำให้ ทาลิสเกอร์ ซีเล็คท์ รีเสิร์ฟ มีบุคลิกใกล้เคียงกับท้องทะเล กล่าวคือ กรุ่นกลิ่นควันที่เข้มข้น พร้อมด้วยความหวาน ความเผ็ด บวกกับกลิ่นไอของท้องทะเล
7. เฮาส์ บาราธีออน (House Baratheon): รอยัล ลอคนาการ์ 12 ปี (Royal Lochnagar 12 Year Old)
ความเป็นราชนิกุล คือ แรงผลักดันในการจับคู่ระหว่างตระกูลบาราธีออน กับ รอยัล ลอคนาการ์ ถ้ามองการที่ โรเบิร์ต บาราธีออน ได้ขึ้นปกครองอาณาจักรทั้งเจ็ดบน ไอรอน โธร์น วิสกี้ที่เหมาะสมกับสมาชิกราชวงศ์ก็คือ รอยัล
ลอคนาการ์ เพราะได้รับพระบรมราชานุญาตภายหลังที่พระราชินีวิคทอเรียและเจ้าชายอัลเบิร์ตเสด็จเยือนโรงกลั่นในปี ค.ศ. 1848 โดย รอยัล ลอคนาการ์ 12 ปี มอบรสผลไม้และเครื่องเทศ ซึ่งดื่มแบบเพียวจะเหมาะที่สุด
8. เฮาส์ ไทเรล (House Tyrell): คลีเนลิช รีเสิร์ฟ (Clynelish Reserve) [จัดจำหน่ายในต่างประเทศ]
ตระกูลไทเรลแห่งไฮการ์เด้น ผู้ปกครอง เดอะ รีช ดินแดนที่เขียวชอุ่มและสมบูรณ์ของเวสเทอรอส เฉกเช่นเดียวกันนั้น โรงกลั่นของคลิเนลิชก็ตั้งอยู่ท่ามกลางความร่มรื่น และทิวเขาที่ทอดตัวราวระลอกคลื่น พร้อมทิวทัศน์สวยงามแห่งทะเลเหนือ คลีเนลิช รีเสิร์ฟ วิสกี้สีทองขวดนี้ให้รสชาติที่แตกต่าง กรุ่นกลิ่นดอกไม้ ทั้งยังเป็นการผสมผสานส่วนผสมในแบบฉบับของพื้นที่แถบไฮแลนด์และทะเลของสก็อตแลนด์ เฉกเช่นเดียวกับตระกูลไทเรล
อย่างไรก็ตามมีเพียง คาร์ดุ โกลด์ รีเสิร์ฟ และ รอยัล ลอคนาการ์ 12 ปี ที่มีวางจำหน่ายมาก่อน ส่วนอีก 6 รุ่นนั้น เพิ่งได้รับการรังสรรค์ขึ้นมาล่าสุดเฉพาะสำหรับซีรีส์ชื่อดังนี้ โดยคอลเลคชั่น เกม ออฟ โธร์น ซิงเกิล มอลต์ วิสกี้ วางจำหน่ายแล้วที่ ท็อปส์ และเดอะมอลล์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
CELEBRATE GAME OF THRONES IN STYLE WITH
‘White Walker by Johnnie Walker’ And ‘Game of Thrones® Single Malt Whisky Collection’
Diageo Moet Hennessy (Thailand) Ltd. proudly responds to the increasing popularity of ‘Game of Thrones’ fans around the world and in Thailand by introducing its latest innovation including ‘White Walker by Johnnie Walker’and the newly launched, ‘The Game of Thrones Single Malt Whisky Collection’, which are inspired by the breathtaking stories and leading characters and perfectly reflect the meaning of 1 throne for 7 kingdoms.
Towards the final season of the series, begin with ‘White Walker by Johnnie Walker’, the limited-edition Scotch whisky, is inspired by the most enigmatic and feared characters on the hit show – the White Walkers.
Known by their icy blue eyes and led by the Night King, the undead army of White Walkers have emerged from the Frozen North bringing with them the chill of winter and now a limited-edition whisky that evokes their icy world. Created by whisky specialist George Harper, alongside the small team of expert blenders at Johnnie Walker, this innovative whisky is best served directly from the freezer, echoing the chilling presence of the White Walkers.
The bottling brings you right to the Frozen North with an icy white and blue design along with the iconic Johnnie Walker Striding Man now fashioned in armour to fit in among the ranks of the Night King’s forces. Utilizing temperature-sensitive ink technology, fans will be reminded that “Winter is Here” from an unexpected graphic icy reveal on the bottle when frozen.
The Scotch has notes of caramelized sugar and vanilla, fresh red berries with a touch of orchard fruit and features Single Malts from Cardhu and Clynelish – one of Scotland’s most Northern distilleries. Blender George Harper used the Frozen North as his starting point for creating White Walker by Johnnie Walker. He said: “Whiskies from Clynelish have endured long, Scottish winters, not dissimilar to the long periods endured by the Night’s Watch who have ventured north of the wall – so it was the perfect place to start when creating this unique whisky.”
Jarinee Wongkamthong, Marketing Director of Diageo Moet Hennessy (Thailand) Co., Ltd. explains about this collaboration that “At the end of last year, we have tried importing limited amount of ‘White Walker by Johnnie Walker’, the product received very warm welcome that it quickly ran out of stock. Not only Thailand, this phenomenon also happened in many countries worldwide. As a result, we produce more whisky, import and timely distribute before ‘Game of Thrones Season 8’ is releasing in April. It is the final season all fans excitedly look forward to. This time around, we partner with Seven-Eleven to ensure our products are available to who missed out the last time. Now you can own the limited edition whisky inspired by ‘Game of Thrones’.”
Apart from launching ‘Blended Whisky Limited Edition’, we proudly introduce ‘Game Of Thrones® Single Malt Whisky Collection’, featuring eight scotches, each paired with one of the iconic Houses of Westeros, as well as the Night’s Watch, giving fans a sense of the seven kingdoms and beyond. In addition, six scotches are especially created for this occasion, for Game of Thrones lovers to celebrate altogether while watching the series.
“Game Of Thrones® Single Malt Whisky Collection has been a grand success internationally; in the U.S.A., over 80% sold through after 8 weeks on shelf. While in Europe, sold out pre-orders after only 2 hours at key retailers. On Amazon, 7,000 bottles were purchased in 24 hours. We are confident the Game of Thrones phenomenon will spark here in Thailand once again” said Jarinee.
‘GAME OF THRONES® SINGLE MALT WHISKY COLLECTION’ features:
1. Game of Thrones House Tully – The Singleton Glendullan Select
House Tully locates at the Riverrun, rules as the lord of The River lands. The power of water flows through both House Tully and ‘The Singleton Glendullan Select’ as it is made on the banks of the River Fiddich in the wooded hills of Dufftown. Here they harnessed the water that flowed through the land utilizing a water wheel to power the entire distillery.
2. Game of Thrones House Stark – Dalwhinnie Winter’s Frost
House Stark’s resiliency, strength and ability to thrive under the most intense situations are greatly shaped by Winterfell’s frigid temperatures. Dalwhinnie, known for being one of the highest distilleries in all of Scotland, is cold and remote much like The North where House Stark calls home, making the two an iconic pairing. Extreme conditions are responsible for shaping the signature Dalwhinnie Winter’s Frost honeyed sweetness and spicy warmth. Naturally, it’s best served chilled or over ice.
3. Game of Thrones House Targaryen – Cardhu Gold Reserve
Fueled by the same fiery spirit of the fierce female leadership of Daenerys Targaryen, this single malt celebrates legendary women and their unwavering perseverance. The Cardhu distillery was pioneered by Helen Cumming and her daughter-in-law Elizabeth during the 1800s, a time when the whisky industry was almost entirely male-dominated.
4. Game of Thrones House Lannister – Lagavulin 9 Year Old
Lagavulin is one of the most legendary single malt brands and has been crafted on the shores of Islay for more than 200 years – mirroring the meticulous calculation and tenacity employed by the Lannister’s in their rise to conquer the Iron Throne. This single malt whisky recalls the Lannister’s riches and is best served neat or with a single drop of water.
5. Game of Thrones The Night’s Watch – Oban Bay Reserve
The Oban distillery sits beneath the steep cliff that overlooks the bay in the frontier between the west Highlands and the Islands of Scotland, separating land and sea, just as Castle Black, home of The Night’s Watch, sits between Westeros and the lands beyond The Wall. The liquid is provided with a woody, spicy dryness that The Night’s Watch could enjoy even on the coldest of nights.
6. Game of Thrones House Greyjoy – Talisker Select Reserve
House Greyjoy rules the Iron Islands and worships the Drowned God. Talisker was a natural pair for House Greyjoy as this single malt is distilled on the shores of the Isle of Skye, one of the most remote and rugged areas of Scotland. The flavors and maritime character of Talisker Select Reserve are the result of its wave-battered shores. This liquid is an intense smoky single malt Scotch with spicy, powerful and sweet elements combined with maritime flavors.
7. Game of Thrones House Baratheon – Royal Lochnagar 12 Year Old
Royal lineage drives the iconic pairing between House Baratheon and Royal Lochnagar. Similar to Robert Baratheon ruling the Seven Kingdoms upon the Iron Throne, Royal Lochnagar was deemed a whisky worthy of a royal family as it was granted a Royal Warrant after Queen Victoria and Prince Albert visited the distillery in 1848. With fruits and spices, this liquid is best enjoyed neat.
8. Game of Thrones House Tyrell – Clynelish Reserve (Not available in Thailand)
House Tyrell of Highgarden rules over the Reach, the lush and fertile region of Westeros. Like the Reach, Clynelish is positioned among green pastures and rolling hills, with scenic views of the North Sea. This golden Scotch is light and floral, like House Tyrell.
Among all scotches, only ‘Cardhu Gold Reserve’ and ‘Royal Lochnagar’ 12 Year Old have been distributed, all other six scotches are especially blended for the legendary series. ‘Game Of Thrones® Single Malt Whisky Collection’ is now available at Tops and The Mall.
About Diageo Moët Hennessy (Thailand) Ltd. (DMHT)
Diageo Moët Hennessy (Thailand) Ltd (DMHT) is the leading importer and distributor of premium wines and spirits in Thailand. Responsible corporate citizenship is a key element of DMHT’s business philosophy. DMHT strives to ensure its business and products appropriately balance the company’s commitment to act responsibly and the right to trade freely. This commitment is reflected in its corporate ethics and governance, relations with employees, customers, consumers, suppliers and communities, as well as health and safety policies and environmental policies. DMHT is committed to good corporate citizenship and responsible alcohol consumption. DMHT’s global corporate citizenship report and Asia Pacific citizenship report can be found and downloaded atwww.diageo.com.
Diageo Moet Hennessy (Thailand) is the leading importer and distributor of world-leading premium alcohol products. You can visit www.DIAGEO.com for more info. Being part of good corporate governance, DMHT takes responsible drinking seriously. To find out more about responsible drinking, please visit www.DRINKiQ.com.
