หนังดีติดดาว
โมโน ฟิล์ม ส่งภาพยนตร์รักสุดประทับใจเรื่อง“Berlin, I Love You (เบอร์ลิน, ไอ เลิฟ ยู)” หากคุณเคยประทับใจกับเรื่องราวความรักในมุมต่างๆ จากมหานครแห่งรักกันมาแล้ว ครั้งนี้คุณจะได้พบการกลับมาตามหาความรักสุดประทับใจ และนางเอกสุดเซอร์ เคียร่า ไนท์ลีย์ ร่วมด้วย จิม สเตอร์เจส (21, Across the Universe) และ เฮเลน มิเรน (Red, The Queen) ในภาพยนตร์แห่งรักเรื่องล่าสุดในแง่มุมความรักครั้งนี้ถูกถ่ายทอดผ่านผู้กำกับมือดีอย่าง ปีเตอร์ เชลซอม (Serendipity, The Space Between Us),
จัสติน แฟรงคลิน และ แดนี เลวี ที่ถ่ายทำท่ามกลางเมืองหลวงของเยอรมัน อย่างกรุงเบอร์ลิน ซึ่งปีที่แล้วได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 1 ของคน GEN Y (อ้างอิงจากเว็บไซต์ เอ็มไทย) ให้กลายมาเป็นศูนย์กลางและศูนย์รวมความรักในหลากหลายแง่มุม
หากเราตั้งใจจะเปลี่ยนความคิดหรือมองโลกในมุมมองใหม่ เราอาจจะพบเจอสิ่งแปลกใหม่ สถานที่ และผู้คนใหม่ๆ เหมือนกับฉากนึงในหนังที่ตัวละครได้เดินเข้าไปในอาคารร้างใต้ทางรถไฟ แต่กลับเจองานเต้นรำที่อลังการ หากแต่จริงๆ แล้วมันไม่มีอยู่จริง แค่ตัวละครนั้นเปลี่ยนความคิดและพร้อมที่จะสนุกไปกับมัน เป็นหนังที่ดูเพลิน เพลงก็เพราะ มีเรื่องราวแปลกๆ ให้ติดตามตลอดเรื่อง (ชอบก็หลงรักเลย แต่หากเกลียดมีหลับคาโรงแน่) ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบมองสิ่งรอบข้างตัวเองจะพบเจอเรื่องราวต่างๆ มากมาย สิ่งที่หนังถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องที่พบเจอได้จริงในชีวิตประจำวัน ในมุมไหนสักมุมในโลก ขอแค่คุณเปิดใจไปกับมัน
ติดให้ ***
“กระสือสยาม Sisters” เป็นการจับมือกันของสองค่ายหนังไทยใหญ่ยักษ์อย่าง สหมงคลฟิล์ม และ บาแรมยู เรื่องโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว บทภาพยนตร์โดย Four Red Fruits นำแสดงโดย พลอยยุคล โรจนกตัญญู, นันท์นภัส เลิศนามเชิดสกุล, รฐา โพธิ์งาม, ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ, ชินพรรธน์ กิติชัยวรางค์กูร, วชิรวิชญ์ เรืองวิวรรธน์ ฯลฯ เรื่องราวความรักความผูกพันของ“พี่น้องสองสาว” ที่ไม่สามารถเลือกวิถีชีวิตและความเป็นไปของตัวเองได้ ทั้งคู่ได้รับการเลี้ยงดูมาต่างกันและต้องแยกกันอยู่ด้วยความจำเป็นบางอย่าง แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็ทำให้สองพี่น้องต้องมาใช้ชีวิตร่วมกัน เมื่อ วีณา พี่สาวผู้ยอมเสียสละทั้งชีวิตเพื่อปกป้อง โมรา น้องสาวผู้อ่อนแอให้รอดพ้นจาก ราตรี นางพญากระสือซึ่งรอคอยวันที่โมราจะกลายร่างในวัย 16 ปี เพื่อหมายเอาชีวิตจากความแค้นที่ฝังลึกในอดีตกับตระกูลของพวกเธอ และเมื่อความจริงปรากฏ ทั้งคู่ต้องต่อสู้และก้าวผ่านความขัดแย้งอันรุนแรงนี้ไปให้ได้
หนังทำออกมาได้บรรยากาศน่ากลัว หลอนดี ฉากดูสยองขวัญ ผีที่ออกมาดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ คล้ายสัตว์ประหลาดมากกว่า เทคนิคการถอดหัวดูเนียนตาดี กระสือสวยๆ มีฉากวับๆ แว๊บๆ บ้าง เหมือนบอกเป็นนัย ว่าความรักหนุ่มสาว เป็นจุดเริ่มต้นความน่ากลัว นักแสดงนำเล่นได้ดี รวมถึงนักแสดงทุกคนด้วย บทภาพยนตร์พอใช้ดูได้เรื่อยๆ แต่บางทีก็ไม่เข้าใจที่มาที่ไปเท่าไหร่
ติดให้ ***
คำถามภาพยนตร์เรื่อง“กระสือสยาม Sisters” เป็นเรื่องของสองพี่น้องคือใคร?
ทราบคำตอบเขียนชื่อ – ที่อยู่และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่
หนังดีติดดาว
เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ผู้ตอบถูก 3 ท่าน ได้ของรางวัลจาก สหมงคล ฟิล์ม (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)
โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ร่วมกับ ด็อกคิวเมนทารี่ คลับ ส่งภาพยนตร์สยองขวัญจากเมียนมาร์“The Only Mom (มาร-ดา)” ผลงานเรื่องล่าสุดโดยผู้กำกับไทย แน็ต ชาติชาย เกษนัส พบนักแสดงนำนางเอกซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของเมียนมาร์ วุด มน ชเว ยี (Wutt Hmone Shwe Yi) และนักแสดงนายแบบที่กำลังฮ็อตในเมียนมาร์ ดาง์ว (Daung) มาร-ดาเป็นหนังสยองขวัญที่ ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ แม่ ลูก ที่ต้องเผชิญหน้ากับความแปลกประหลาดและลึกลับเมื่อย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านโบราณอายุร่วมร้อยกว่าปีแล้ว ศิริ เด็กหญิงผู้เป็นลูกสาวของ ออง และ เมย์ สามีและภรรยาที่ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านเก่าที่อดีตเจ้าของเป็นช่างภาพชื่อดัง เมื่อศิริไปพบกับภาพถ่ายฟิล์มกระจกเข้า พฤติกรรมของเธอได้เปลี่ยนไป ทำให้อองและเมย์พยายามหาคำอธิบายและแก้ปัญหานี้ โดยหารู้ไม่ว่ามีบางสิ่งบางอย่างอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด
หนังเปิดเรื่องและแนะนำตัวละครหลักภายในไม่กี่นาที ก็ขยับเดินหน้าทันที มีการสร้างบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจพร้อมกับผูกปมทิ้งไว้ตั้งแต่ต้นเรื่อง แล้วเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครหลัก พ่อ แม่ ลูก ไปเรื่อยๆ จากความไม่น่าไว้ใจก็ขยับเข้าสู้ความสยองขวัญด้วยเทคนิค jump scare หรือภาษาชาวบ้านๆ คือ ผีตุ้งแช่ เล่นเอาสะดุ้งและขนลุกแล้วขนลุกอีก และมีการหักมุมพอถึงตอนเฉลย ก็ เอออออ ได้ว่ะ ขนหัวลุกจริงอะไรจริง แต่รู้สึกว่าหนังเล่นท่ายากไปหน่อยในช่วงกลางค่อนไปท้ายเรื่อง ทว่าหนังถ่ายภาพสวย จัดแสงสวย เพลงประกอบไพเราะ ซึ่ง 3 สิ่งนี้คือเอกลักษณ์และลายเซ็นของผู้กำกับท่านนี้
ติดให้ *** ครึ่ง
“Shazam! ชาแซม!” ผลงานการกำกับของ เดวิด เอฟ. แซนด์เบิร์ก ที่ได้ แซ็คคารี ลีวาย มารับบทซูเปอร์ฮีโร่ชาแซม แอชเชอร์ แองเจล รับบท บิลลี่ แบทสัน และ มาร์ค สตรอง มารับบทวายร้าย ดร.แธดดีอุส ไซวาน่า พร้อมด้วยนักแสดงอีกคับคั่ง อาทิ แจ็ค ดีแลน เกรเซอร์ (รับบท เฟรดดี้ ฟรีแมน), เกรซ ฟุลตัน (รับบท แมรี่), เฟธ เฮอร์แมน (รับบท ดาร์ล่า), เอียน เชน (รับบท ยูจีน), โจแวน อาร์แมนด์ (รับบท เปโดร) เป็นต้น เรื่องราวของ Billy Batson เด็กหนุ่มกำพร้าที่มีนิสัยเกเร เข้าออกบ้านอุปถัมภ์หลายแห่ง จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้รับพลังพิเศษจากพ่อมดและสามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ตัวเป็นวัยผู้ใหญ่แต่ภายในจิตใจนั้นยังเป็นเด็กอายุ 15 เท่าเดิม Thadsius Sivana ผู้ชายวัยกลางคนที่เคยเกือบจะได้รับพลังพิเศษจากพ่อมดมาก่อน ด้วยความที่เป็นคนจิตใจไม่บริสุทธิ์จึงถูกปฏิเสธพลังนั้น แต่เจ้าตัวก็ไม่ลดละความพยายามไขว่คว้าพลังนั้นมาเป็นของตัวให้ได้ และเมื่อรู้ว่าพลังที่ตัวเองตามหาถูกส่งต่อให้กับเด็กหนุ่มไปแล้ว เขาจึงลุกขึ้นมาตามล่าเด็กหนุ่มคนนั้น
หนังสนุกมาก มีความเป็นหนังเด็กผสมหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ออกมาลงตัวมากๆ สนุกด้วยมุกตลกและความกวนแบบเด็กวัยรุ่น มีความจิกกัดเค้าไปทั่ว จิกกัดขนบธรรมเนียมหนังซูเปอร์ฮีโร่ จิกกัดหนังฮอลลีวูดชื่อดังหลายต่อหลายเรื่อง มีความดราม่าเคล้าน้ำตาในเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว ฉากแอ็คชั่นประเภทฟัดกันสนั่นเมืองก็พอมีบ้าง แต่ไม่ได้อลังการอะไร เป็นหนังที่เด็กดูดีและผู้ใหญ่ดูได้ เพราะอัดแน่นไปด้วยความบันเทิงจริงๆ เรียกได้ ว่าค่อนข้างแปลกใจเลยทีเดียวที่เห็นโทนหนัง DC เรื่องนี้ออกมาตลกและเบาสมองและมีความกลมกล่อมในรสชาติความสนุก กวนอวัยวะเบื้องล่าง และมีดราม่าครอบครัวที่ออกมาพอดีได้ขนาดนี้
ติดเต็ม*****
ดิสนีย์ และ ผู้กำกับวิสัยทัศน์กว้างไกล ทิม เบอร์ตัน รังสรรค์ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชันผจญภัยสุดอลังการเรื่องใหม่“Dumbo” อำนวยการสร้างโดย จัสติน สปริงเกอร์, เออร์เรน ครูเกอร์, แคทเทอร์ลิ ฟรอนเฟลเดอร์, ดีเรค เฟรย์ บทภาพยนตร์โดย เออร์เรน ครูเกอร์, ผู้อำนวยการสร้างบริหาร ไนเจล กอสเทโลว์ ได้นักแสดงรางวัลลูกโลกทองคำ โคลิน ฟาร์เรล ในบท โฮลต์ แฟริเออร์ อดีตทหารผ่านศึกผู้ผันตัวไปเป็นคนเลี้ยงช้าง, นักแสดงรางวัลลูกโลกทองคำ ไมเคิล คีตัน ในบท วี.เอ. แวนเดอเวีย นักธุรกิจผู้ไขว่คว้าโอกาสงามๆ, นักแสดงรางวัลเอ็มมีและลูกโลกทองคำ แดนนี่ เดอวีโต้ ในบท แม็กซ์ เมดิซี เจ้าของละครสัตว์และนักแสดงเจ้าของรางวัลบาฟตา อวอร์ด, เอวา กรีน ในบท โคเลตต์ มาร์ชองต์ นักกายกรรมเหินเวหา, นิโค พาร์คเกอร์ และ ฟินลีย์ ฮ็อบบินส์ เปิดตัวในโลกภาพยนตร์ในบทมิลลี่และโจ ลูกๆ ของโฮลต์, อลัน อาร์คิน ในบทนายธนาคารทรงอิทธิพล เจ. กริฟฟิน เรมิงตัน, โรชาน เซธ ในบท ปราเมช ซิงห์ หมองู, เดอโอเบีย โอปาเร ในบท มนุษย์กล้าม รอนโก้ เดอะ สตรองโก้, โจเซฟ แกทท์ ในบท นายพรานชื่อนีลส์ สเคลลิก และ ชารอน รูนีย์ ในบท นางเงือกสาว มิสแอตแลนติส เรื่องราวของ แม็กซ์ เมดิซี เจ้าของละครสัตว์ที่กำลังย่ำแย่ได้ขอให้ โฮลต์ แฟริเออร์ อดีตนักแสดงในละครสัตว์ของเขาและมิลลี่และโจ ลูกๆ ของพวกเขา คอยดูแลลูกช้างเกิดใหม่ ที่มีหูขนาดยักษ์ใหญ่ แต่เมื่อพวกเขาค้นพบว่า“ดัมโบ้”สามารถบินได้ ละครสัตว์แห่งนี้ก็ได้กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งอย่างเหลือเชื่อ จนเป็นที่สนใจของนักธุรกิจเจ้าคารม วี.เอ. แวนเดอเวีย ผู้เลือกสัตว์ใหญ่แสนพิลึกตัวนี้มาเข้าร่วม ดรีมแลนด์ ธุรกิจบันเทิงใหม่สุดแสนอลังการของเขา ดัมโบ้ทะยานสู่ความโด่งดังร่วมกับนักกายกรรมเหินเวหาเจ้าเสน่ห์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ โคเลตต์ มาร์ชองต์ จนกระทั่งโฮลต์ได้ล่วงรู้ ว่าภายใต้ความสุกสกาวนั้น ดรีมแลนด์กลับเต็มไปด้วยความลับที่ดำมืด!
ช้าง Dumbo ที่แฟนๆ ดีสนีย์น่าจะรู้จักกันทุกคน ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในแบบฉบับคนแสดงฝีมือของ ทิม เบอร์ตัน เนื้อเรื่องยังเค้าโครงคล้ายของเดิม คือ ลูกช้าง Dumbo ซึ่งมีหูที่ยาวใหญ่ผิดปกติ เมื่อเอามาสร้างเป็นฉบับคนแสดงผสม CG ก็มีการปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง ซึ่งสามารถทำออกมาได้ดี ดูสนุกสนานขึ้นและตัว Dumbo ก็น่ารักมากขึ้นด้วย ใครที่เป็นแฟนหนังของ ทิม ก็ยังคงมีแนวทางในการนำเสนอไม่เปลี่ยน ทั้งฉากโซนสวนสนุกหลอนที่ชวนขนลุก ถึงแม้โทนหนังจะไม่ออกทึมๆ มืดๆ เพราะเป็นหนังแนวครอบครัว แต่ก็มีฉากเกินจินตนาการตามฉบับของเฮียอยู่ ดูจบจะพากันยิ้มให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าช้างน้อย
ติดให้ ***
เฉลยคำถามภาพยนตร์เรื่อง“CAPTAIN MARVEL – กัปตัน มาร์เวล” : บรี ลาร์สัน
คำถามไลฟ์แอ็คชันผจญภัยสุดอลังการ“Dumbo” ความผิดปกติของดัมโบ้คือ?
ทราบคำตอบเขียนชื่อ – ที่อยู่และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่
หนังดีติดดาว
เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ผู้ตอบถูก 3 ท่าน ได้ของรางวัลจาก วอลท์ ดิสนีย์ (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)
โมโน ฟิล์ม ส่งหนังวัยรุ่นเรื่อง“Departures – จะรักใครอย่าให้หัวใจต้องดีเลย์” นำแสดงโดย เอซา บัตเตอร์ฟิลด์, เมซี่ วิลเลี่ยมส์, นีน่า โดเบรฟ บอกเล่าถึงหนุ่ม แคลวิน (เอซา บัตเตอร์ฟิลด์) ซึ่งขี้วิตกกังวลและคิดว่าตัวเองต้องป่วยเป็นอะไรซักอย่าง ทำให้เขาเข้าไปยังกลุ่มบำบัด และที่นั่นเขาได้พบกับสกาย (เมซี่ วิลเลี่ยมส์) ซึ่งป่วยเป็นมะเร็ง ทั้งคู่สนิทกันอย่างรวดเร็ว สกายมีหรือจะยอมปล่อยหนุ่มขี้กลัวอย่างแคลวินให้จากไปง่ายๆ เธอจึงวางแผนจัดการทำลิสต์ก่อนตาย โดยให้หนุ่มแคลวินเป็นลูกมือ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการช่วยเขาจีบสาวแอร์โฮส เตทอย่าง อิซซี่ (นีน่า โดเบรฟ) สกาย พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ แคลวิน สมหวังในความรัก แต่ระหว่างการพิชิตใจสาว ทั้งคู่ยังได้เรียนรู้ถึงการใช้ชีวิตที่สุดเหวี่ยงอีกด้วย
เป็นหนังวัยรุ่น หนังรักที่ไม่ได้ดาษดื่นแบบทั่วไป แต่มีแง่มุมของมิตรภาพและการใช้ชีวิตร่วมกัน ยิ่งได้พระเอกนัยน์ตาฟ้าที่มากับคาแรกเตอร์สุดเซอร์สติแตกอย่าง เอซา ยิ่งทำให้หนังกลายเป็นความลงตัวที่งดงามไม่รู้ลืม เมนของเรื่องคือรายการที่สกายจดลิสต์ ที่ช่างยั่วยวน (โมโห) มีทั้งป่วน ทั้งกวนอารมณ์จนไม่น่าเชื่อว่าคนธรรมดาจะมีความกระเหี้ยนกระหือรืออยากทำสิ่งเหล่านั้น แต่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่รู้ ว่าตัวเองกำลังจะตาย ดูแล้วอิ่มเอม ตัวนักแสดงทั้งเอซาและเมซี่ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีเยี่ยม ซึ้งน้ำตาซึม แต่ด้วยกฎธรรมดาของโลก ร่างกายต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติ แต่ก่อนไปขอให้ความสุขกับตัวเองก่อน
ติดให้ ****
เอ็ม พิคเจอร์ส ส่งภาพยนตร์เรื่อง”สี้น 3 ต่อน” นำทีมโดยโปรดิวเซอร์และตัวประกอบขั้นเทพ หม่ำ-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, 3 นักแสดงนำ เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ, ริท-เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช นางเอกสาวสวยใหม่แกะกล่อง ป๊อปปี้-ชนม์นิภา วิเศษสุด และ เอ็กซ์-วัชรพงษ์ ปัทมะ
โดยหนังทำมาได้คลายเครียด ไม่ดราม่าจนเกินไป ไม่ได้อินเลิฟมากมาย เน้นเฮฮาเบาสมองอารมณ์ดีมากกว่า นักแสดงนำทุกคนเล่นได้ดี พระเอกคือใคร ก็น่าสนใจ นางเอกก็เหมือนเป็นตัวแทนของผู้หญิงหลายคน ที่เจอปัญหาแบบนี้ บทภาพยนตร์ทำได้ดี มีเหตุมีผล คล้องจ้องกันลงตัว ถือเป็นหนังเบาสมอง เฮฮาน่ารัก คลายร้อนแห่งปีที่ไม่ไร้สาระ
ติดให้ ***
ห่างไปนาน ขาบู๊รุ่นเดอะ เลียม นีสัน กลับมาทวงบัลลังก์ นักวิจารณ์เทใจ“Cold Pursuit – แค้นลั่นนรก” จัดโดย โมโน ฟิล์ม งานกำกับผู้กำกับภาพยนตร์ชาวนอร์เวย์อย่าง ฮานส์ เพทเทอร์ โมแลนด์ ควบคุมงานสร้างโดย ไมเคิล แชมเบอร์ก (Pulp Fiction, Django Unchain) เขียนบทโดย แฟรงค์ บอลด์วิน ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมือ อาทิ เอ็มมี รอสซัม (The Phantom of the Opera), ทอม เบทแมน และ ทอม แจ็คสัน เป็นเรื่องราวของ เนลส์ ค็อกซ์แมน (เลียม นีสัน) หัวหน้าครอบครัวที่สงบสุขและสันโดษ เขาใช้ชีวิตเรียบง่ายเป็นพลเมืองดีเด่น แต่แล้วเมื่อลูกชายของเขาถูกฆาตกรรมโดยฝีมือเจ้าพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ของเมือง ความแค้นปะทุทำให้ชายวัยใกล้เกษียณอย่างเขาต้องลุกขึ้นจับอาวุธเพื่อล้างแค้นให้เดือดสุด!
หนังทำออกมาได้เถื่อนไล่ล่า ฆ่ากันอย่างเดียว มันมาก แต่ดูแล้วบางทีบางคนก็ไม่สมเหตุสมผล ที่จะถูกฆ่าหรือตายเลย เน้นแบบเอาสะใจมากกว่า บทภาพยนตร์พอใช้ได้ ดูเรียบง่ายไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่ได้อารมณ์ล้างแค้นกันดี ฉากท่ามกลางหิมะถ่ายทำออกมาเป็นเอกลักษณ์ ถือว่าเป็นจุดขายของหนังก็ว่าได้ นักแสดงนำเล่นได้ดีตามมาตรฐานทุกคน เลียมที่หนังฝากไว้กับเขายังไม่ทิ้งลายวัยเก๋า
ติดให้ **
มงคลเมเจอร์ ส่งผลงานของนักแสดงดัง ที่โคจรมาเจอกันอย่าง เดมี่ มัวร์ ประกบ ดีแลน แม็คเดอมอตต์ และ อเล็ค บอลด์วิน ใน“BLIND” โดยผู้กำกับ ไมเคิล เมลเลอร์ เขียนบทโดย จอห์น บัฟฟาโล่ เมลเลอร์ เรื่องราวของ ซูซาน (เดมี่ มัวร์) และ มาร์ค (ดีแลน แม็คเดอมอตต์) คู่สามีภรรยาที่เหมือนจะน่าอิจฉาในสายตาใครๆ แต่ที่ความจริงแล้วชีวิตรักของทั้งคู่ไม่ได้สวยหรู วันหนึ่งมาร์คถูกจับกุมด้วยความผิดหลายข้อหาและต้องเข้าคุก ซูซานเองแม้จะไม่มีส่วนรู้เห็น แต่ก็โดนลูกหลงถูกจับด้วย อย่างไรก็ตามศาลยังเมตตาตัดสินให้เธอแค่ต้องทำงานรับใช้สังคมด้วยการช่วยเหลือ บิล โอคแลนด์ (อเล็ค บอลด์วิน) อดีตนักเขียนซึ่งประสบอุบัติเหตุจนตาบอด ด้วยการอ่านหนังสือให้เขาฟัง จากความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเกินเลย แต่เมื่อใกล้ชิดกันบ่อยเข้า ซูซานและบิลก็เริ่มมีใจให้กันมากขึ้น ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจนกระทั่งมาร์ครู้เรื่องเข้า!
เป็นหนังที่ดูขาดๆ เกินๆ และไม่ลงตัวในเรื่องบุคลิกของตัวนักแสดงกับบทที่ได้รับ อเล็ค ที่บึกบึน ดูไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนโรแมนติกได้ ในขณะที่ เดมี่ ก็เป็นตัวร้ายที่ดูดิบและเถื่อนเกินกว่าจะทำอะไรโรแมนติกได้ คือสลับขั้วบทกับบุคลิกกัน ปกติเรามักพูดกัน ว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ในหนังความรักเป็นเรื่องของคนสามคน คนสามคนที่ต้องเลือก เลือกที่จะตาบอดต่อไปหรือเลือกที่จะตาสว่าง น่าเสียดายประเด็นดีๆ ที่ถูกบดบังด้วยความประดักประเดิดของบุคลิกนักแสดงที่ไม่ค่อยเข้ากับบทบาท แถมวิธีเล่าเรื่องที่พยายามสร้างพล็อตรองและเส้นเรื่องของตัวละครรองไปพร้อมกัน สุดท้ายพล็อตรองก็ไปไม่ถึงไหนหายไปดื้อๆ
ติดให้ * ครึ่ง
มงคลเมเจอร์ พาคอหนังพบปฏิบัติการโคตรมัน ฮาใส่กระสุนความเกรียน 18+ ดัดแปลงจากการ์ตูนญี่ปุ่นยอดฮิต “CITY HUNTER” ได้ ฟิลลิเป้ ลาโชว์ มารับบท-เขียนบท นิกกี้ ลาร์สัน นักสืบเอกชนขั้นเทพที่ไขคดีปริศนามานักต่อนัก ร่วมด้วยผู้เขียนบท ซีคาสะ โทโจ (ผู้แต่งมังงะต้นฉบับ) เป็นเรื่องราวของ นิกกี้ ลาร์สัน นักสืบเอกชนขั้นเทพที่ไขคดีปริศนามานักต่อนัก แต่จุดอ่อนอย่างเดียวที่ทำให้เขาต้องปวกเปียกทุกครั้งคือเจอ สาวสุดเอ็กซ์! ลาร์สันต้องผจญภัยฝ่าภารกิจสุดป่วน โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการชิงเอาน้ำหอมกามเทพ น้ำหอมที่ทำให้ทุกคนที่ได้กลิ่นต้องหลงใหลหมดตัวหมดใจ
หนังเล่าเรื่องของมือปืนรับจ้างฝีมือดีแต่ทะลึ่งตึงตัง ฉบับนี้เป็นหนังฝรั่งเศส ที่ได้น้า ต๋อยเซมเบ้และทีมงานพันธมิตรมาพากย์ หนังต่างชาติที่พากษ์ไทยก็คงปฎิเสธไม่ได้ ว่าความสนุกมันอยู่ที่การพากย์นี่แหละ และทางผู้สร้างคารวะต้นฉบับด้วยการสร้างสรรค์ตัวละครตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผมตลอดจนบุคลิกที่เห็นปุ๊บก็ดูออก ว่าตัวละครนี้คือตัวไหนในการ์ตูนต้นฉบับ ซึ่งหนังดูสนุกมาก มุกตลกประเภท 3 บาท 5 บาทก็กล้าเล่น แล้วได้ผลทุกมุก แล้วหนังยังใส่กิมมิกบุคลิกภาพตลอด ความบ้าบอ ความมุทะลุและความทะลึ่งตึงตังของตัวละครหลักทุกตัวตามต้นฉบับมังงะไม่ผิดเพี้ยน คนที่ไม่เคยรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้ เชื่อว่าจะสนุกตามได้
ติดให้ **** ครึ่ง
