“บิ๊กป้อม” เบื่อปัญหาสมาคมยิงปืน ดัน”จักรทิพย์”นั่งนายกฯชั่วคราว
เมื่อวันที่25 เม.ย. ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิปซอฟเฟอริน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยเป็นประธานในการประชุมสมัชชาใหญ่สามัญประจำปี 2561 คณะกรรมการโอลิมปิคฯสรุปสาระสำคัญดังนี้
ประธานได้แสดงความเป็นห่วงด้วยการถาม ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ถึงการแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในของสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยฯมีการฟ้องร้องกันอยู่ในชั้นศาลจนทำให้ตอนนี้การบริหารงานยังเป็นสูญญากาศส่งผลกระทบต่อการเตรียมนักยิงปืนทีมชาติไทยแข่งขันในทุกๆครั้งที่ผ่านมา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร. ก้องศักดิ์ ยอดมณี ยังให้การยืนยันว่า ตอนนี้ยังมีการฟ้องร้องในศาลอุทธรณ์และศาลยังไม่ได้มีการอ่านคำพิพากษา แต่ในกรณีที่พบว่าสร้างความเสียหายให้กับนักกีฬาและการกีฬาภาพรวม การกีฬาแห่งประเทศไทย มีอำนาจในการแทรกแซงเพื่อแก้ไขปัญหาให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อยได้ เพื่อให้นักกีฬาได้สิทธิ์เดินทางไปแข่งขันรายการต่าง ๆ ตามปกติ
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าเมื่อมีปัญหามาอย่างยาวนานขอเสนอให้ พล. ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าไปเป็นนายกสมาคมฯเพื่อแก้ปัญหาต่างๆให้เสร็จสิ้นเพราะยิงปืนเป็นกีฬาที่มีการชิงเหรียญจำนวนมาก ถ้าสมาคมไม่มีปัญหาก็มีโอกาสที่ไทยจะได้เหรียญจากยิงปืนมากขึ้นในหลายมหกรรม ซึ่งการประชุมครั้งนี้ พล.ต. อ.จักรทิพย์ ได้ร่วมประชุมด้วยในฐานะที่ปรึกษาประธานคณะกรรมการโอลิมปิค แห่งประเทศไทย แต่ไม่ได้มีการแสดงความคิดเห็นกับคำแนะนำของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่อย่างใด
ด้าน“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯแจ้งว่าหลังจากที่นักกีฬายกน้ำหนักไทยถูกตรวจพบสารต้องห้ามจากการตรวจที่ศูนย์ตรวจสารต้องห้ามในเมืองโคโลญจน์ประเทศเยอรมนีพบว่าวิธีการตรวจรูปแบบใหม่ GC-C-IRMS (Gas Chromatography-Combustion-Isotope Ratio Mass Spectrometry) ซึ่งสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติเลือกตรวจนักกีฬาทั่วโลก 20 คน และเป็นนักกีฬาไทยถึง 15 คนมีเจตนาที่จะเล่นงานจอมพลังไทยที่มีศักยภาพและเป็นการกลั่นแกล้งสมาคมกีฬายกน้ำหนักของไทยเพราะการตรวจด้วยวิธีนี้ไม่มีใครที่รอดจากสารต้องห้ามแน่นอนสำหรับนักกีฬาไทยเจอในลักษณะของยาทาและมีปริมาณที่น้อยมากก็ยังโดนลงโทษดังนั้นจึงได้มีการเสนอให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล(ไอโอซี) ใช้ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์และทดสอบที่ได้รับการรับรองมาตรฐานที่เป็นสากลเข้ามาตรวจสารต้องห้ามนักกีฬายกน้ำหนักเพื่อป้องกันไม่ให้นักกีฬาถูกตรวจหาสารต้องห้ามจากสหพันธ์โดยไม่เป็นธรรม พร้อมทั้งได้ยืนยันอีกด้วยว่า ตอนนี้ทางสมาคมฯ กับหลายชาติพยายามต่อสู้เพื่อเรียกร้องความบริสุทธิ์ให้กับนักกีฬาและสมาคมอยู่ รวมทั้งฟ้องไปยังศาลกีฬาโลกแล้วเพราะเชื่อว่าจะพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้โด๊ปและกลับไปแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ที่ญี่ปุ่นในปีหน้าได้ทันเวลา
นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยกล่าวว่า การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์เอเชีย2019 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพอยู่ในขณะนี้จัดการแข่งขันโดยไอบ้า และถูกตำหนิว่าการตัดสินมีปัญหาอย่างมากและนักชกไทยก็ได้รับการตัดสินที่ค้านสายตา อย่างไรก็ตามถ้าเทียบกับผลงานที่นักชกเยาวชนไทยได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดงในศึกยูธโอลิมปิกเกมส์2018 ที่ประเทศอาร์เจนตินาเมื่อปีที่แล้วไอบ้าไม่ได้จัดแต่นักชกไทยทำผลงานได้ดีได้รับคำชมว่าการตัดสินโปร่งใสเห็นได้ชัดเจนว่ามีอะไรเกิดขึ้น
ขณะที่ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ชาวไทย กล่าวว่าปัญหาความไม่โปร่งใสของสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ(ไอบ้า) และอยู่ในช่วงการพิจารณาว่าจะให้ไอบ้าจัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิกเกมส์ 2020 หรือไม่นั้น ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะจะมีการพิจารณาขั้นสุดท้ายในการประชุมของไอโอซี วันที่ 22 พฤษภาคม เดือนหน้า ผลสรุปจะให้ไอบ้าจัดแข่งขัน หรือ องค์กรอื่นเป็นผู้จัดแข่งขัน ต้องรอมติในการประชุมใหญ่วันที่ 24-26 มิถุนายน ส่วนตัวในฐานะที่เป็นคณะกรรมการบริหารคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และเป็นผู้มีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกีฬาของประเทศไทย ยืนยันว่า จะรักษาผลประโยชน์ และ ชื่อเสียงของประเทศไทย นักกีฬาไทย อย่างเต็มที่ แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่บนความถูกต้อง บริสุทธิ์ และ ยุติธรรม ส่วนกรณีมวยสากล ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ขณะนี้มีเสียงสะท้อนถึง คณะกรรมการโอลิมปสากล ว่า ต้องการให้ ไอโอซี. เป็นผู้ดำเนินการแทน ไอบ้า ส่วนตัวอยากจะให้ทุกฝ่ายใจเย็น เพราะเชื่อว่า มร.โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้มีคำตอบอยู่ในใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว