ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ “ช้างศึก” นักเตะทีมชาติไทย ก่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 47 วันที่ 5- 8 มิ.ย.นี้ ที่ สนามช้างอารีน่า บุรีรัมย์
โดยมี“โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เป็นโค้ชทีมชาตืไทย และมีนักเตะส่วนใหญ่ชุดเก่า ๆ ประกอบด้วย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน, ธิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ขาดตัวหลักเพียงแค่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพียงคนเดียว เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ทำให้ถอนตัวไปอย่างน่าเสียดาย
นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ผู้อำนวยการทีมชาติไทย เผยว่า ทีมชาติไทยชุดนี้ถึงแม้จะเป็นการผสมผสานกันระหว่าง นักเตะที่มากด้วยประสบการณ์ กับนักเตะดาวรุ่ง ทำให้มีความลงตัวในหลายๆด้าน ทั้งนี้การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ถือว่าเป็นถ้วยสำคัญที่สุดของไทย ไม่อยากให้คำนึงว่า ในอดีตเราคว้าแชมป์มาได้มากถึง 15 ครั้ง เพราะทุกอย่างเป็นแค่อดีต อยากให้มุ่งมั่นกับปัจจุบันมากที่สุด เพียงแค่ 2 นัด เล่นในบ้านเรา
โดยเฉพาะนัดเจอกับ เวียดนาม ต้องชนะเพื่อประกาศให้รู้ว่า ทีมไทยคือ เจ้าอาเซียนทีมเดียวเท่านั้น หากชนะทั้ง 2 นัดจะเป็นการรักษาแชมป์ และถ้วยพระราชทานให้อยู่ในเมืองไทยต่อไป หากทำสำเร็จ คว้าแชมป์ “คิงส์คัพ” ตามเป้าหมาย น่าจะมีเงินรางวัลพิเศษอย่างน้อย 10 ล้านบาท
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 มีดังนี้
วันที่ 5 มิ.ย. ทีมชาติกือราเซา พบกับ ทีมชาติอินเดีย ที่ สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ที่สนามช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
วันที่ 8 มิ.ย. คู่ชิงอันดับ 3 เริ่มเวลา 15.30 น.คู่ชิงชนะเลิศ เริ่ม เวลา 19.45 น.
แฟนบอล สามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งหน้าเคาน์เตอร์ และระบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.thaiticketmajor.com จัดจำหน่ายทั้งแบบรายวัน และแบบแพ็คเกจ โดยแฟนบอลที่ซื้อแบบแพ็คเกจจะได้รับส่วนลด 5% โดยทุกนัดจะมีการถ่ายทอดสด ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32