สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พร้อม 18 หน่วยงานที่ประชุมผู้บริหารองค์กร ของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (ทพอ.) เตรียมพร้อมรับมือเศรษฐกิจสังคมไทยให้เติบโต อย่างยั่งยืน มีคุณภาพ หลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในอีก 20 ปีหน้า
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวในฐานะเจ้าภาพจัดงานประชุมวิชาการที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ เฉพาะ (ทอพ.) ประจำปี ครั้งที่ 6 ภายใต้หัวข้อ “Silver Society ขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจไทย” ว่า สมาชิก ทอพ. ทั้ง 18 หน่วยงาน ตระหนักว่า การก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยเป็นเมกะเทรนด์หรือพลวัต สำคัญที่สร้างผล กระทบในวงกว้างทั้งต่อสังคมโลกรวมถึงประเทศไทย จึงร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เพื่อเตรียม พร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัยมาอย่างต่อเนื่อง ตามบทบาทภารกิจของแต่ละหน่วยงาน
“ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ 2 ของภูมิภาคอาเซียน รองจากสิงคโปร์ ที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Complete aged society) ในปี 2564 โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประมาณ การว่า ประชากรอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 13 ล้านคน สูงถึงร้อยละ 20 ของประชากร ทั้งหมด และในปี 2583 หรืออีก 20 ปีข้างหน้า จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็น 20 ล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของคนไทย ทั้งนี้ ผู้สูงอายุวัยปลายที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป จะมีมากถึง 3.5 ล้านคน” นายสุวรรณชัยกล่าว
โดยวันนี้ (27 มิ.ย.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้เป็นเจ้าภาพจัดการ ประชุมวิชาการ ทอพ. ครั้งที่ 6 ภายใต้หัวข้อ “Silver Society ขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจไทย” เพื่อแลก เปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างหน่วยงาน ถ่ายทอดบทเรียน ความคิดเห็น การสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ และนำเสนอ ผลงานของแต่ละองค์กรผ่านเวทีการสัมมนา ใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในหัวข้อ “นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงวัย” ด้านสุขภาพ ในหัวข้อ “การดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงวัย (Health Care)” ด้านเศรษฐกิจ ในหัวข้อ “ผู้ประกอบการสูงวัย (Silver Entrepreneurship)” ด้านสังคมและการศึกษา ในหัวข้อ “ความรู้เรื่องการเงินสำหรับผู้สูงวัย”
ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ประธาน ทอพ.กล่าวว่า การประชุมวิชาการ ทอพ. ประจำปี นับเป็นกิจกรรมหลัก สำคัญที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องมาแล้ว 5 ครั้ง มีองค์กรสมาชิกผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ และครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 6 ซึ่งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นเจ้าภาพ ภายงานจะมีทั้ง การสัมมนา การจัดนิทรรศการเพื่อเผยแพร่ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อน สังคมสูงวัย รวมทั้ง การออกบูธแสดงนิทรรศการของหน่วยงานสมาชิก ทอพ. ทั้ง 18 หน่วยงาน
“ทอพ.จะร่วมกันใช้จุดแข็งของการเป็นหน่วยงานเฉพาะที่มีความชำนาญพิเศษ มีความคล่องตัว พร้อม ตอบสนองการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นฐานะกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อน การพัฒนาประเทศไทยให้เติบโต เข้มแข็ง ก้าวสู่เศรษฐกิจสังคมสูงวัย อย่างยั่งยืนต่อไป” ศ.นพ.สุทธิพันธ์ กล่าวเสริม
สำหรับประเทศไทย เริ่มเข้าสู่สังคมสูงวัยนั้บตั้งแต่ปี 2548 เห็นได้จากสัดส่วนประชากรสูงวัยซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างรวดเร็ว จนมีจำนวนมากกว่าประชากรวัยเด็ก ในปี 2562 ข้อมูลจากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 ระบุว่า ประเทศไทยมีจำนวนประชากรทั้งหมด 66.4 ล้านคน เป็นประชากรสูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้น ไปจำนวน 10.67 ล้านคน หรือ 16.06% ประกอบด้วยผู้สูงอายุชาย 4.72 ล้านคน และผู้สูงอายุหญิง 5.95 ล้านคน โดยจังหวัดที่มีจำนวนประชากรสูงอายุมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ กรุงเทพมหานคร มีผู้สูงอายุกว่า 1 ล้านคน หรือ 17.98% ตามด้วย นครราชสีมา เชียงใหม่ ขอนแก่น และอุบลราชธานี
อนึ่ง การประชุมวิชาการ ทอพ. ครั้งที่ 6 เรื่อง “Silver Society ขับเคลื่อนสังคมและระบบเศรษฐกิจไทย” จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2562 เวลา 08.30-15.30 น. ณ ห้องวายุภักษ์ 5, 6 โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
เกี่ยวกับ ทอพ.
ทอพ. หรือ ที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะด้วยเพื่อ “ประสานพลังสร้างการจัดการองค์กรภาครัฐที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน” โดยมี บทบาทภารกิจครอบคลุม 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มด้านสุขภาพ กลุ่มด้านกองทุน หรือกลุ่มด้านเศรษฐกิจ และกลุ่มด้านการศึกษาและอื่นๆ ประกอบด้วย
- กลุ่มด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6 องค์กร ได้แก่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ; สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ; สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ; สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) ; สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ; สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA)
- กลุ่มด้านสุขภาพ 5 องค์กร ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ; สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ; สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ; สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ; สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)
- กลุ่มด้านกองทุน (กลุ่มด้านเศรษฐกิจ) 3 องค์กร ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ; สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ; สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)
- กลุ่มด้านสังคมและการศึกษา 4 องค์กร ได้แก่ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (พปส.) ; สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา (คส.) ; สถาบันอนุญาโตตุลาการ ; สำนักงานกองทุนยุติธรรม ;