สื่อมวลลชนสัญจรท่องเที่ยวชายแดนใต้
สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก (สง.ทท.ทบ.)เ ปิดโครงการสื่อมวลชนสัญจรท่องเที่ยวชายแดนใต้ ครั้งที่ 2 ต่อจากภาคอีสานตะวันออกเพื่อเดินทางเข้าสู่ Army Land ในเขตจังหวัดชายแดนใต้ นราธิวาส, ปัตตานี, สงขลา, พัทลุง, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี.โดยเชิญหน่วยงานและองค์กรต่างๆเดินทางร่วมกับครั้งนึ้ไปกลับเครื่องบิน อำนวยความสะดวกสุดยอด
หน่วยงานราชการทั้งกองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ, ตำรวจท่องเที่ยว, กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) การกีฬาแห่งประเทศไทย.สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย (สนท.) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวไทยภายในประเทศ (สทน.) สมาคมแอ๊ตต้า สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย องค์กรและหน่วยงานอีกหลายหน่วยทั้งภาครัฐและเอกชน 60 ชีวิตเดินทางไปด้วยความอยากรู้อยากสัมผัสสถานการณ์ชายแดนใต้ว่าน่ากลัวจริงไหม ทุกคนต้องการพิสูจน์และเก็บรายละเอียดมาบอกเล่า เพื่อเขียนโปรแกรมทัวร์ท่องเที่ยวในทริปหน้า กับความร่มเย็นของชายแดนใต้จริงๆ
การเดินทางจุดนัดหมายที่สนามบินดอนเมืองเพื่อบินไปลงสนามบินนราธิวาส ไปถึงสนามบินแห่งนี้นับเป็นครั้งแรกของอีกหลายคนที่ไม่เคยเดินทางเครื่องบินมาลงที่นราธิวาส หลังจากทานอาหารกลางวันแล้ว เราเดินทางเข้าไปยังค่ายทหารราบที่ 15 ค่ายกัลยาณิวัฒนา ซึ่งอยู่ในเขตของอำเภอเมือง ค่ายนี้ตั้งอยู่บนป่าพรุเนื้อที่กว่า1,800 ไร่ ป่าพรุสิรินธรหรือป่าพรุโต๊ะแดงเดิมทีมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก ค่ายนี้กันพื้นที่มาสร้างเพียงนิดหน่อย ต้องใช้ภูเขาเกือบทั้งลูกถมที่สร้างค่ายสร้างถนนสร้างบ้านพัก พื้นที่ป่าพรุข้างล่าง น้ำจะเปรี้ยวมากปลาอาศัยอยู่ไม่ได้ ต้องใช้น้ำประปามหาศาลในแต่ละเดือน การเยี่ยมชมหลังจากที่ไหว้ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแล้วทางค่ายพาไปที่ทำการหน่วยงานเพื่อเยี่ยมชมงานฝีมือแม่บ้านกองทัพบกกับงานฝีมือที่ใช้หญ้ากระจูดทำเพราะในค่ายนี้มีต้นหญ้ากระจูดคุณภาพเยี่ยมมีอยู่เต็มไปหมด หลังจากรับรองน้ำและขนมแล้ว ทางสำนักงานฯ ได้มอบทุนการศึกษาผ่านหน่วยงานของค่ายนี้แล้วออกเดินทางต่อไป
ถ้าพูดถึงค่ายกัลยาณิวัฒนานี้ ยังมีพื้นที่เพื่อจัดกิจกรรมได้อย่างมากมาย กับบริบทก่อนหน้าที่ว่าเขตทหารห้ามเข้า ได้ปลดป้ายนี้ออกไปแล้ว ค่ายนี้ยังสามารถสร้างเป็น Army Land ได้อย่างสบายๆ ทุกวันนี้ มีลูกเสือมาตั้งค่ายทำกิจกรรมและยังเป็นค่ายที่นำเอาคนเสพยามาทำกิจกรรมนิวัตพลเมืองที่นี่ จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจหากจะเข้าไปทำกิจกรรมหลากหลาย ทางค่ายยินดีต้อนรับทุกคนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในค่ายแห่งนี้ กิจกรรมดีๆมากมายและปลอดภัยขั้นสูง
อากาศช่วงบ่ายแก่ๆ มีเงาครึ้มของฝน ระหว่างทางได้แวะนมัสการพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล เพื่อเป็นสิริมงคล ถ่ายรูปหน้าองค์พระแล้วออกเดินทางสู่จังหวัดปัตตานี แวะไปเยี่ยมชมมัสยิดกรือเซะชื่อดังอำเภอเมืองปัตตานี ซึ่งทางมัสยิดได้รอรับคณะทริปทัวน์ของเรา อยู่ที่มัสยิดกรือเซะไม่นานมาก
ออกเดินทางมายังสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สถานที่ออกกำลังกายของชาวปัตตานีกับบรรยากาศภายในสวนรื่นรมย์แบ่งโซนในการออกกำลังกายชัดเจน ส่วนด้านหลังของสวนสมเด็จฯเป็นป่าชายเลน ทางจังหวัดปัตตานีเลยสร้างสกายวอล์คลอยฟ้าที่มีความสูงจากพื้นถึง 12 เมตรเท่ากับตึก 5 ชั้น บนสกายวอล์ค วางเหล็กตาข่ายสามารถมองทะลุลงมาข้างล่างได้อย่างหวิว ๆ ถ้าคนกลัวความสูงรับรองขาสั่นแน่ สกายวอล์คสร้างเพื่อดูป่าชายเลนใกล้ทะเลและมองป่าโกงกางในมุมสูง ยังมีหอดูนกอีกจุดหนึ่งเรามีเวลาน้อยมากจึงดูไม่ทั่วถึง เพราะเวลาไล่หลังใกล้จะค่ำเต็มที่แล้ว
ลงจากสกายวอล์คใกล้ค่ำแล้ว เราเดินทางเพื่อไปกราบไหว้ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวในตัวเมือง สถานที่แห่งนี้เป็นชุมชนของชาวจีน การมานมัสการศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวปัตตานี เราอยู่ตรงนี้จนมืดค่ำ ต่างมาอธิษฐานขอพรจากเจ้าแม่ให้คุ้มครองตลอดการเดินทางมาครั้งนี้ เมื่อเสร็จแล้วทุกคนขึ้นรถ เราจะเข้าที่พักในโรงแรมของจังหวัดปัตตานี พรุ่งนี้เรายังมีภาระกิจอีกมากมายรออยู่ คืนนี้พักผ่อนเอาแรงพรุ่งนี้ลุยต่อ
ขอขอบคุณ พลตรีธนณัฐ ยังเฟื่องมนต์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก(สง.ทท.ทบ.) ผู้นำในทริปท่องเที่ยวครั้งนี้ได้อำนวยความสะดวกตั้งแต่ครั้งแรกมาจนถึงตอนนี้เราเหนื่อยกันจึงพักผ่อนเอาแรงไว้สู้ต่อวันพรุ่งนี้.