จากกรณีผลกระทบ หัก ณ ที่จ่าย ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการหักเงินเดือน ฯเพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้สหกรณ์ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไทย จำกัด จึงได้จัดเสวนาผลกระทบจากคำพิพากษาศาลปกครองกลางกรณีพิพากษาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการหักเงินเดือนเงินที่ชำระหนี้เงินกู้ให้แก่สวัสดิการภายในส่วนราชการและสหกรณ์พุทธศักราช 2551 ในวันที่ 9 ตุลาคม 2562 ณ ห้องประชุม 701 ชั้น7 อาคารชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด
โดยมีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย นายอุทัย ศรีเทพ ประธานฯ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไทย จำกัด (ชสอค.) พลตำรวจโทวิโรจน์ สัตยสัณห์สกุล ประธานชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ดร.ก๊ก ดอนสำราญ ประธานผู้ก่อตั้งชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไทย จำกัด นายสมชาย รัตนอารี ผจก. สส.ชสอ. โดยมี นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ผอ.องค์การค้าสกสค. เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมสัมมนาเรื่องผลกระทบสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจากการพิพากษาศาลปกครองกลาง พร้อมนี้มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานคับคั่งอาทิ นายปัณฐวิชญ์ มุ่งสมัครศรีกุล ผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย นายสุรศักดิ์ ยศปัญญา ผู้จัดการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไทย พร้อมคณะกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไทยจำกัด ผู้ตรวจสอบกิจการและสหกรณ์สมาชิกรวมทั้งสิ้น 250 สหกรณ์
นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า หนี้สินครู เป็นปัญหา หมักหมมมาเนิ่นนาน อันเนื่องมาจากธนาคารพาณิชย์บางแห่ง ปล่อยกู้จนครูมีหนี้สินล้นพ้นตัว โดยไม่ได้ดูข้อจำกัดว่าครูจะสามารถชำระหนี้ได้หรือไม่ ส่งผลกระทบระยะยาว ครูเป็นหนี้พอก จากหลายๆ สถาบันการเงิน จนส่งผลกระทบในเรื่องหักเงิน ณ ที่จ่ายของสหกรณ์ นอกจากนี้ ในส่วนครูเองก็ควรใช้จ่ายเงินด้วยความระมัดระวัง มีวินัยในการใช้จ่าย และไม่กู้จนสร้างปัญหาให้ตนเอง ควรพิจารณาอย่างรอบคอบและหากเป็นหนี้ จะต้องใช้หนี้เพื่อลดปัญหาในระยะยาวต่อไป