หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ‘โควิด-19’ หนึ่งในกิจกรรมที่ได้ไปต่อก็คือ ‘ร้านตัดผม เสริมสวย’ การกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งจำเป็นต้องมีมาตรฐานใหม่ มีกฎระเบียบและเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด บางคนเรียกว่าเป็น ‘New Normal’ หรือความปกติใหม่
“ดร.สมศักดิ์ ชลาชล” นายกสมาคมวิชาชีพช่างผมไทย และผู้บริหารชลาชลกรุ๊ป ก็มีแนวคิดที่จะทำวิกฤตเหล่านี้ให้เกิดเป็นโอกาสขึ้นมา โดยในครั้งนี้ได้ยังได้เข้าพบหารือ กับ คุณจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อหารือเกี่ยวกับความช่วยเหลือและสร้างมาตรฐานให้กับอาชีพช่างทำผมไทย โดยมีแนวคิดที่จะยกระดับช่างผมไทยขึ้นมาให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ หรือในระดับสากล
“ดร.สมศักดิ์ ชลาชล” กล่าวว่า “หลังจากปลดล็อค เปิดมาแล้ว เราต้องตระหนักเรื่องสุขลักษณะ จะต้องตรวจปอด จะต้องใส่แมส ในร้านต้องมีโถแอลกอฮอล์สีฟ้าๆ ตัดผมทีหนึ่งก็ต้องไปแช่ทีหนึ่ง แล้วก็ถึงจะมาทำ สิ่งนี้เราได้แต่พูดกัน ผมเป็นที่ปรึกษาของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เราได้ใส่สิ่งนี้เข้าไปในมาตรฐานด้วย กำหนดให้มี เรามีเจ้าหน้าที่จากกรมอนามัยมาเป็นที่ปรึกษา เรามีทุกอย่าง รัฐบาลไม่ต้องกลัวเลยครับ มาตรการพวกนี้เราทำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าช่วงหลังมันอาจจะหย่อนยานไปนิดหนึ่ง”
“ผมกำลังจะเสนอคู่มือปฏิบัติงานที่เป็นสแตนดาร์ด มีหลักการจากผู้เชี่ยวชาญกรมอนามัย จากกองวิชาการสนับสนุนสุขภาพและอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มาเป็นไกด์ไลน์ เมื่อปลดล็อคแล้ว ให้เขาเปิดร้านให้ได้ก่อน แล้วก็เอาไปติด
เกรดของร้านเสริมสวยในประเทศไทยแบ่งเป็น A B C D เกรด A จะเป็นร้านที่รับคนต่างชาติเพื่อแสดง Standard ของช่างทำผมไทย เพื่อพรีเซนต์ ส่วนเกรด B เกรด C เป็นคนทำงานและรองลงมา เกรด D คือร้านเล็กๆ ที่เปิดกันตามบ้าน ผมอยากพัฒนาร้านเหล่านี้ให้เข้ามาในระบบ ให้เขามาสอบมาตรฐานอาชีพช่างทำผม บางคนไม่ยอมสอบ เพราะคิดว่าจะให้มาเสียภาษี ตอนนี้เกรด D มีปัญหาเรื่องปากเรื่องท้องมาก จะต้องรีบเปิดก่อน อย่างน้อยๆ ก็รับจ้างตัดผมเพื่อประทังชีวิตได้
อย่างเกรด A ไม่มีปัญหา เป็น Role Model ของประเทศ ทำเป็นแบบอย่าง ซึ่งแน่นอน ผมก็มาจากเกรด D เป็นลูกจ้างเขาอยู่ 8 ปี มาจากร้านตึกแถวหนึ่งห้อง สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาจนเป็นเกรด A ได้ ทุกคนก็ต้องไต่เต้าขึ้นมา ต้องเริ่มจากเกรด D ก่อน แล้วมีการสอบพาสชั้น เหมือนเรียนประถมมีสอบขึ้นมัธยม ปริญญาตรี ปริญญาเอก นี่คือการอยู่แบบยั่งยืนครับ ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพมีการสอบ มีการประเมิน มีใบ Certificate การันตีว่าท่านผ่านมาตรฐานจริงๆ สามารถประกอบอาชีพได้ มีหน่วยงานรับรองระบบนี้ทั่วโลก”
ด้าน “ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ” ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของโปรเจ็ค และผู้นำเสนอ “ตู้อุ่นใจ” เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นมาตรฐานความสะอาดของช่างผมไทย กล่าวว่า“สิ่งหนึ่งที่จะสามารถสร้างความมั่นใจของผู้มาใช้บริการของลูกค้าก็คือ ความสะอาด และปลอดภัยจากเชื้อโควิด และผมและคณะที่ดูแลเกี่ยวกับโปรเจ็คนี้ก็เห็นแล้วว่า ตู้อุ่นใจ เป็นเครื่องหนึ่งที่สามารถทำให้คนที่มาใช้บริการนั้นสามารถมั่นใจได้ว่า เครื่องมือสะอาดและปลอดภัยจริงๆ ซึ่งเครื่องนี้กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบประสิทธิภาพโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ”
นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้รับเกียรติจาก คุณบุญยอด สุขถิ่นไทย, คุณอุษณี กังวารจิตต์ อธิบดีกรมกิจการสตรี และสถาบันครอบครัว, คุณสราญภัทร อนุมัติราชกิจ รองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, ดร.ทศพร นพวิชัย, อ.ดุสิตา ศุภผลา และอ.ไกรวิทย์ พุ่มสุโข คณะกรรมการสมาคมวิชาชีพช่างผมไทย เข้าร่วมประชุมหารือในครั้งนี้ ณ ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร