หนังดีติดดาว
หลังจากที่คอหนังทั่วโลกต้องเงียบเหงากันมาพักใหญ่ เพราะแทบไม่มีหนังใหญ่หรือหนังที่น่าสนใจจากฝั่งตะวันตกให้ดูกันช่วงที่ COVID-19 ระบาด แต่เมื่อได้รับการผ่อนปรนมงคลเมเจอร์ เปิดปมภาพยนตร์แอ็คชั่น-ทริลเลอร์ “Unhinged เฮียคลั่ง ดับเครื่องชน” ที่ได้นักแสดงระดับออสการ์ รัสเซล โครว์ รับบทนำ ร่วมด้วย คาเรน พิสตอริอุส ก็ได้ปักหมุดวันฉายและรอบสื่อไปเรียบร้อย โดยเป็นเรื่องราวของ ชายผู้สูญสิ้นทุกอย่าง และอยู่ในจุดต่ำสุดของชีวิต เขาจึงพร้อมแลกทุกอย่างเพื่อมอบบทเรียนอันสาสมให้กับคนไร้มารยาท เมื่อคุณแม่ยังสาว เรเชล (คาเรน พิสตอริอุส) บีบแตรใส่รถคันหนึ่ง แต่ดันไปจุดระเบิดโทสะให้กับเพื่อนร่วมถนน เกิดเป็นการไล่ล่าสุดอันตรายที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน!
หนังเดินเรื่องเร็วแล้วก็ไม่ยาวเท่าไร ราว ๆ ชั่วโมงครึ่งก็จบแล้ว แต่เป็นชั่วโมงครึ่งที่รู้สึกสนุกไปกับเส้นเรื่องที่เป็นส่วนผสมระหว่าง Falling Down (1993) ที่ Michael Douglas เล่นไว้ และ The Duel (1971) ของ Steven Spielberg ให้เราได้ตามลุ้นว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปนะ ตัวละครจะแก้ปัญหาอย่างไร ใครจะอยู่ ใครจะตาย แต่กระนั่น การเปิดเรื่องแล้วใส่เกียร์เดินหน้าแบบนี้มันก็ต้องแลกมาด้วยความไม่ค่อยผูกพันกับตัวละคร เพราะหนังไม่ได้เล่าปูมหลังและพื้นฐานของตัวละครให้เราพอเข้าใจ หรือปมในใจของตัวละครร้ายและปมในใจของตัวละครเอกที่เป็นขั้วตรงข้ามกัน แต่ด้วยความสนุกของหนังสำหรับการไล่ล่า เหตุเพราะ ‘บีบแตร’ ครั้งเดียว ชีวิตเปลี่ยนตลอดกาล จงระวัง!
ติดให้ ****
เฉลยคำถาม“TRAIN TO BUSAN : PENINSILA” : คังดงวอน
คำถาม“Unhinghed” : นักแสดงที่รับบทไล่ล่าคนบีบแตรรับบทโดยใคร?
ทราบคำตอบ เขียนชื่อ – ที่อยู่ และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่
หนังดีติดดาว
เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ผู้ตอบถูก 3ท่าน ได้รับของรางวัลจาก มงคลเมเจอร์ (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)
Black Water (เหี้ยมกว่านี้ ไม่มีในโลก) คอหนังคงจำกันได้ เคยสร้างความสนุก สุดลุ้นจนกวาดรายได้ แอนดรูว์ ทรอคกี ผู้กำกับที่แจ้งเกิดจึงกลับมาสานต่อความเหี้ยมโหดของมันใน“Black Water: Abyss – กระชากนรก โคตรไอ้เข้” โดย โมโนฟิล์ม นำเสนอความกระหายไล่ล่าของจระเข้ยักษ์ ได้นักแสดง เจสสิกา แมคนามี (The Meg) ร่วมด้วย ลูค มิตเชลล์ (The Code, Blindspot, Marvel Agents of the S.H.I.E.L.D.), อามาลี โกลเดน, เบนจามิน โฮอตีส, แอนโทนี เจ ชาร์ปี ที่จะพาคุณสัมผัสกับความตายที่อยู่ใกล้แค่คืบเดียว กับเรื่องราวของกลุ่มนักผจญภัยที่ชอบท้าความตายเข้าไปสำรวจถ้ำ ที่ไม่มีใครเคยเข้าไปมาก่อน และหายนะก็รอต้อนรับพวกเขา เมื่อฝนตกลงมาห่าใหญ่จนน้ำท่วมเข้าภายในถ้ำปิดทางเข้าออก พวกเขาเลยติดกับดักธรรมชาติจนต้องหาทางเอาตัวรอดจากระดับน้ำที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ไปพร้อมกับการฝ่าความตายจากจระเข้จอมโหดเจ้าถิ่นที่รอขย้ำทุกชีวิตลงนรก
ไม่เกินจริงเลย หนังทำออกมาสนุก ลุ้นจนขาเปียก ไอ้เข้ไล่ล่าขย้ำ ทำเรานั่งดูสะดุ้งโหยงอยู่หลายฉากราวกระตุก เพราะระทึกการเอาตัวรอดของกลุ่มนักผจญภัยที่ชอบความท้าทายดีนัก แต่บางช่วงบางตอนรู้สึกว่าถ้ำมันจะมืดไปไหน แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันคือถ้ำ และภาคแรก Black Water ก็สนุก ลุ้นตัวโก่งแล้วพอภาคนี้ได้ผู้กำกับคนเดิม ที่สำคัญทีมโปรดักชั่นได้นำจระเข้จริงมาเข้าฉาก ช่างน่ากลัว แถมโหดตามประสานักล่าเหยื่อยามหิวโหย ถ้าดูเพื่อเอาความสนุก บันเทิงและผู้ชื่นชอบหนังแนวนี้ไปดูเลย ออกมาอาจเพลียล้า เพราะลุ้นจนเหนื่อย
ติดให้ ****
มงคลเมเจอร์ ตีแผ่ “The Truth” นำแสดงโดย จูเลียต บินอช, แคทเธอรีน เดอเนิร์ฟ และ อีธาน ฮอว์ค 3 นักแสดงมากฝีมือของวงการภาพยนตร์โลก แต่ละคนถือเป็นแฟนผลงานของ โคเรเอดะ และวาดฝันว่าอยากร่วมงานกับเขามาตั้งนานแล้ว สำหรับผู้กำกับ ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ ที่ฝากผลงาน อาทิ Nobody Knows (2004), Air Doll (2009), I Wish (2011), Our Little Sister (2013), The Third Murder (2017) และ Shoplifters (2018) เป็นต้น โดยเล่าเรื่องราวของ เฟเบียน (แคทเธอรีน เดอเนิร์ฟ) ถือเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ของวงการหนังฝรั่งเศสที่ผู้คนต่างรักและเชิดชู แต่เธอกลับไม่ค่อยลงรอยกับ ลูเมียร์ (จูเลียต บินอช) ลูกสาว ผู้ปัจจุบันเป็นนักเขียนบท แต่งงานกับ แฮงค์ (อีธาน ฮอว์ค) นักแสดงโทรทัศน์ และมีลูกสาวน่ารักหนึ่งคนนั่นคือ ชาร์ล็อต (เคลเมนไทน์ เกรนิเยร์) 3 คนพ่อแม่ลูกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แต่แล้วก็มีเหตุให้ ลูเมียร์ เดินทางกลับไปยังฝรั่งเศสและพบกับแม่ คู่แม่ลูกที่ห่างเหินกันจึงต้องกลับมากระชับความสัมพันธ์พร้อมรับรู้ความจริงบางอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน
หนังเดินเรื่องผ่านบทสนทนาล้วน ๆ แล้วก็เล่นท่ายากด้วยการเดินเรื่องไปข้างหน้าก่อน แล้วมาปูพื้นฐานตัวละครผ่านบทสนทนาให้เราปะติดปะต่อเรื่องราวเอาเอง แต่หนังฉลาดในเรื่องเทคนิคการเล่าเรื่อง เพราะเลือกที่จะให้ตัวละคร เฟเบียน เล่นหนังซ้อนหนังอีกที แล้วถึงพูดความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก เรียกได้ว่าเห็นภาพสะท้อนของโครงเรื่องหลักเลย แต่ประเด็นหลักค่อนข้างหนาสาหัสอยู่ คือมันพูดถึงเรื่องราวของตัวละครที่ขัดแย้งกันมานาน แต่ต่างฝ่ายก็ไม่ได้มีโอกาสได้ทำความเข้าใจกัน ต่างเก็บเอาความขัดแย้งนั้นไว้ในใจมานานจนมันระเบิดออกมา ถือเป็นหนังดี แต่เป็นหนังดีที่ดูไม่สนุกเลย เพราะประเด็นมันหนักเกิน แถมยังพูดภาษาฝรั่งเศสเยอะกว่าภาษาสากล
ติดให้ * ครึ่ง