บ้านโบราณ..เฉียนโข่ว..ราชวงศ์หมิง ราชวงศ์ชิง..600 ปี ของประเทศจีน..
ความรุ่งเรืองของราชวงศ์หมิง..แผ่ขยายอาณาจักรสู่มณฑลน้อยใหญ่ ไปทั่วประเทศ…มณฑลอันฮุย ได้รับอิทธิพล เกี่ยวกับสถาปัตยกรรม ในการสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย. ไม่ว่าจะเป็นบ้านข้าราชการระดับเจ้าเมือง. บ้านเศรษฐี ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ไม้เนื้อแข็งซึ่งมีควาามทนทานต่อดินฟ้าอากาศของแต่ละมณฑล นำมาแกะสลักลวดลาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจั่่วบ้าน ประตูบ้าน หน้าต่าง การตกแต่งภายในบ้าน รวมทั้งเสาบ้าน มุมบ้าน ห้องไหว้บูชาบรรพบุรุษ ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก แบบบ้านตามสถาปัตยกรรมของราชวงศ์หมิง มีเอก ลักษณ์ที่โดดเด่น บางบ้านนั้น ยิ่งใหญ่อลังการมาก การสร้างในยุคโบราณจะไม่ใช้ตะปู เพียงใช้ลิ่มไม้ตอกกันเท่านั้น การเข้ารูปเข้ารอยจึงอยู่มายาวนานหลายร้อยปี ด้วยอุณหภูมิในเมืองจีนเป็นประเทศหนาวเย็น อากาศไม่ร้อน สังเกตจากหน้าต่างจะเปิิดกว้างมาก เพื่อรับอากาศที่จะเข้ามา และเพื่อให้รับลมได้ในยามหน้าร้อน และรับแสงแดดในยามหน้าหนาว การรักษาอุณหภูมิคงที่ สามารถทำให้การรักษาบ้านไม้เอาไว้ได้ยาวนาน เราจึงเห็นลวดลายการแกะสลักลงบนผิวไม้ได้อย่างชัดเจน กาลเวลไม่สามารถทำลายศิลปะการแกะสลักของช่างศิลปะในแต่ละยุคได้เลย คนที่ชอบงานศิลปะการแกะสลักเนื้อไม้จะทึ่งมาก ว่าคนโบราณเขาทำงานศิลปะทิ้งไว้ให้คนนรุ่นหลัง ได้ศึกษาว่าคนโบราณเขาทำงานด้วยความประณีต แต่ใช้เครื่องมืออุปกรณ์อย่างไรในการทำงานเมื่อหลายร้อยปีก่อน การเรียนรู้จากรุ่นสู่รุ่น มันถ่ายทอดกันมายาวนาน
การก่อสร้างบ้านในสมัยราชวงศ์หมิงที่เกิดขึ้นในหวงซาน มณฑลอันฮุยที่ยังหลงเหลือและสมบูรณ์มาก ทางรัฐบาลท้องถิ่นถุนซี หวงซานจึงรวบรวมนำมาเป็นพิพิิธภัณฑ์แบบบ้าน รื้อถอนบ้านทั้งหมด ในราชวงศ์หมิง และ ราชวงศ์ชิง รวมกันทั้งหมดมาเป็นหมู่บ้านโบราณเฉียนโข่ว ในเมืองถุนซี หวงซาน นำมาสร้างไว้นอกเมือง โดยแบ่งแยกสถาปัตยกรรมแบบบ้าน แยกสองราชวงศ์ออกจากกันอย่างชัดเจน ในราชวงศ์หมิงจะอยู่ข้างล่าง แต่ละบ้านจะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่แตกต่างกันในแต่ละแบบบ้านภายในบ้านจะมีสินค้าทำมือแบบแฮนด์เมดวางขายให้เลือกซื้อเป็นของฝากสินค้าออกจะโบราณที่น่าทึ่งหลายอย่างใช้ไม้มาทำเป็นส่วนใหญ่ที่เราได้เห็น วันที่เราไปเยี่ยมชมนั้นพอดีมีฝนลงมาแต่ไม่หนัก ตกเบาๆตลอดเย ทำให้การเก็บภาพไม่ดีเท่าที่ควร
การแยกแบบบ้านของราชวงศ์หมิง ซึ่งมาอายุราว600ปี จะมีความแตกต่างกันมาการขนย้ายมารวมไว้ตรงนี้้ ราชวงศ์หมิงที่มีอายุมากกว่า จึงต้องอยู่ด้านล่างเหมาะแก่การขนย้ายและสร้างได้ดี ส่วนราวงศ์ชิง มีอายุราว500ปี จึงถูกยกขึ้นไปสร้างบนเนินเขาอีกฝั่ง ซึ่งมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังจะเป็นภูเขา เป้นฮวงจุ้ยทีี่ดีมากๆ เพราะราชวงศ์ชิง จะมีแบบบ้านของข้าราการชั้นผู้ใหญ่ในราชสำนัก ขุนนาง และเจ้าเมือง มหาเศรษฐี ในยุคแห่งความรุ่งเรือง ความทันสมัยมีมากขึ้น แบบบ้านทางสถาปัตยกรรมแห่งราชวงศ์ชิง จึงดูยิ่งใหญ่อลังการมาก โอ่โถงตระการตากว่า รวมถึงศิลปะการแกะสลักจั่วบ้าน เสาบ้าน ห้องไหว้บรรพบุรุษ ห้องรับแขก จั่วบ้าน ประตู หน้าต่างจึงมีความแตกต่างเรื่องของศิลปะที่ห่างกันนับศตวรรษหนึ่งร้อยปี ความแตกต่างจึงเห็นได้ชัด การยกเอาบ้านทั้ง 24 หลังนำมาปลูกรวมกัน แบ่งแยกกันออกจากกัน เพื่อการเรียนรู้ทางการศึกษากับโครงสร้างแบบบ้านทางศิลปะการแกะสลักในแต่ละราชวงศ์ ส่งผลให้หมู่บ้านโบราณเฉียนโข่วกลายเป็นนแหล่งท่องเที่ยวระดับ5A มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และ นักท่องเที่ยวจากมณฑลอื่นๆของจีน เดินทางมาศึกษารากเหง้าของแต่ละราชวงศ์ได้ การมาศึกษาเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งประเทศจีนมีความพร้อมที่จะให้คนทั่วโลกได้ศึกษา เพราะประเทศจีนกว้างใหญ่ ในแต่ละมณฑลมีแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์มากมาย แม้ว่าในมณฑลอันฮุยในอดีตจะยากจนที่สุดในจีน แต่มณฑลอันฮุยมีธรรมชาติสวยงามมีวัฒนธรรมดีงามเป็นเมืองสงบ เหมาะแก่การเรียนการศึกษา ทำให้มณฑลอันฮุยมีจอหงวนทำงานในราชสำนักมากมาย เมืองถุนซี หวงซานจึงมีฮ่องเต้เสด็จมาหลายราชวงศ์ เพราะเป็นเมืองตากอากาศชั้นเลิศ ลองแวะมาสัมผัส ถุนซี หวงซาน จะรู้ว่ามนต์เสน่ห์เมืองนี้มีมากแค่ไหน ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองถึงจะรู้.
ภาพ : อนุรักษ์ มงคลชัยประทีป