นายอนุวัติ วิเชียรณรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท 4NOLOGUE จำกัด และบริษัท กรุ๊ปโฟร์ จำกัดเปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนกว่า 50 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบแพลตฟอร์มธุรกิจ “ไฮบริดเอ็นเตอร์เทนเมนท์” เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีใหม่หรือนิวนอร์มัลเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปได้ ขณะเดียวกันที่ผ่านมาได้จัดกลุ่มธุรกิจหลักๆของบริษัทมีดังนี้ คอนเสิร์ต โปรโมเตอร์ และไลฟ์โปรดักชั่น เป็นตัวแทนนำเข้าศิลปินจากต่างประเทศ เพลงและกิจกรรมบันเทิงรูปแบบใหม่อีเว้นท์ออกาไนซ์เซอร์ โฆษณาและสื่อโฆษณารูปแบบใหม่และดิจิทัล โซลูชั่นและการบริหารจัดการข้อมูล เพื่อขยายกลุ่มธุรกิจออกไปให้มีความหลากหลาย อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงให้สามารถอยู่ได้เมื่อเผชิญสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เราได้เจอกับช่วงวิกฤติมาหลายเหตุการณ์ เช่น เตรียมเงินสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉินในระหว่างที่เราไม่สามารถทำธุรกิจได้ เป็นต้น
ดังนั้นจึงได้มีการเตรียมความพร้อมและได้เตรียมเงินสำรองไว้ไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาท ในกรณีที่ทั้งปีไม่ได้ทำธุรกิจเลยซึ่งช่วงที่ผ่านมาเราก็ผ่านพ้นมาได้และระหว่างนี้ก็เริ่มที่จะทำธุรกิจได้บ้างแล้วคาดว่าสถานการณ์จะไม่แย่กว่าที่ผ่านๆ มา
ในช่วงที่ผ่านมาทุกธุรกิจได้รับผลกระทบจากโควิด-19เราก็เหมือนกันช่วงหนึ่งธุรกิจหยุดไปทั้งหมดแต่ไม่ได้หยุดพัฒนาเพราะต่อจากนี้ไปต้องทำในรูปแบบใหม่ทั้งคอนเสิร์ตที่ถ่ายทอดออนไลน์และจัดในสถานที่จริง(ออนกราวด์)จะได้เห็นรูปแบบใหม่ในเดือน ต.ค.นี้ซึ่งเป็นการพัฒนาจากฝีมือของคนไทยแต่คุณภาพงานเทียบมาตรฐานสากล พร้อมกันนั้นจะได้เปิดตัววงดนตรีของศิลปินไทยอีก 2-3 วง จากปัจจุบันมีศิลปินในค่ายแล้ว 1 วง คือ TRINITY เดิมที่ก่อนหน้านี้เน้นจัดและนำเข้าคอนเสิร์ตเกาหลีและได้เดินหน้าจัดงานคอนเสิร์ตในเดือน ต.ค.และจะมีงานคอนเสิร์ตใหญ่ปลายปีนี้ ส่วนธุรกิจดิจิทัล งานกิจกรรมค่ายเพลง และโฆษณา เราก็ดำเนินต่อไปคาดว่าปีนี้รายได้จะลดลงประมาณ 10-15% จากปี 62 ที่มีรายได้ 700 ล้านบาท
“ภาพรวมของวิกฤตเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด-19ทำให้หลายธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจที่ทำอีเวนท์และงานคอนเสิร์ตได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการที่ภาครัฐประกาศให้งดกิจกรรมคอนเสิร์ตหรืองานอีเวนท์ต่างๆ นั้น
มีผลให้ต้องเลื่อนการจัดงานไปหลายงาน เช่น คอนเสิร์ต GOT7 เป็นต้น บริษัท 4NOLOGUE จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในการเป็นผู้จัดคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกและยังมีค่ายเพลงและศิลปินในสังกัดเป็นของตัวเองกลับมองว่าในวิกฤตนี้คือโอกาสที่เราจะทำทุกสิ่งได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น”