แกะซีลหนังสือใหม่
“อุ๊ย!” ยังไม่ทันได้เดินเข้าไปหา ร่างบางก็ถูกมือใหญ่คว้าเอวเข้าไปกอดจากทางด้านข้าง ดาวเรืองถูกชายหนุ่มอุ้มให้นั่งบนขาข้างเดียวของเขา
“ฉันจะเป็นบ้าตายเพราะเธอ รู้ตัวบ้างไหม ดาวเรือง” สิงขร กัดฟันพูดชิดกลุ่มผมข้างขมับของเด็กน้อย แขนข้างหนึ่งกอดเอวบางไว้ มือใหญ่แอบลูบหน้าท้องแบนราบเพราะอยากสัมผัสคนข้างใน ส่วนมืออีกข้างจับปลายคางให้เธอเงยหน้าหันมามองตากัน
“ลุงสิงห์ดื่มเหล้ามาเหรอคะ” ดาวเรือง ตัวสั่นเหมือนลูกนกตกน้ำอยู่ในอ้อมกอดที่คิดเสมอว่าปลอดภัย กลิ่นเหล้าจากลมหายใจทำให้เธอย่นหน้าขมวดคิ้ว เพราะคนท้องเริ่มมีอาการมึนเมาไปด้วย
“หึ!” สิงขรยิ้มมุมปากเมื่อเห็นท่าทีอ่อนน้อมไม่ขัดขืน อยากจะบอกเด็กน้อยเหลือเกินว่า เขากำลังเมากลิ่นหอมหวานบนตัวเธอ
“หนูไปเอาน้ำเย็นๆ ให้ดื่มนะคะ เผื่อคุณจะได้สร่างเมา”
“อยากให้ฉันหายเมาเหรอ” คนเจ้าเล่ห์ยิ้มมุมปาก แล้วอุ้มร่างน้อยขึ้นนั่งคร่อม ขาเล็กสองข้างขนาบเอวสอบ ยิ่งทำให้เขาและเธอได้เผชิญหน้ากัน เชยคางน้อยให้เธอแหงนหน้าขึ้นแล้วลุงสิงห์ก็โน้มหน้าลง หน้าผากชนกัน ปากหยักจูบจมูกน้อยไล่ลงไปจูบริมฝีปากจิ้มลิ้มตอดเล็กตอดน้อย
เมื่อชาตินี้ข้าเป็นฮูหยินใหญ่ไม่ได้ ก็ขอเป็นนางคณิกาล่มเมืองก็แล้วกัน!!
โม่เยี่ยเยี่ย อยู่ในชุดเจ้าสาวและเครื่องประดับที่ล้วนเป็นสีเขียว มันเป็นสีซึ่งถูกโฉลกหญิงสาวตระกูลโม่ งานวิวาห์คราวนี้ของโม่เยี่ยเยี่ยกำลังจะไปได้สวย และมันจะสวยมากหากไม่มีเจ้าบ่าวอย่าง ‘จางอี้หลง’ ชายใจแคบ ผู้กระหายซึ่งอำนาจ ที่สุดในแผ่นดิน!!
“ถ้าอยากจะนอนอยู่เช่นนั้น ก็ตามใจ”
นางว่าแล้วจึงหมุนตัวไปอีกทาง แต่สองขาเรียวสวยไม่ทันได้เยื้องย่างไปไกลกว่าปลายเตียงที่ร่างของจางอี้หลงนอนแผ่หลาอยู่ กลิ่นหอมของธูปราคะพลันลอยเข้ามาในห้องหอ!
“ใครมันบังอาจ ทำเรื่องต่ำทราม เยี่ยงนี้!”
โม่เยี่ยเยี่ยหวีดร้องเสียงดัง ก่อนจะเซแซดๆ เสียหลักลงไปนอนแปะบนเตียงข้างบุรุษคนตัวโต ดวงตาดอกท้อเบิกค้างขึ้น ใบหน้าหวานจัดผะผ่าวร้อน และลำคอแห้งผากราวกับยามนี้อยู่กลางทะเลทราย สิ่งที่ประจักษ์ต่อสายตาโม่เยี่ยเยี่ยคือ เป้ากางเกงชายหนุ่มที่พองขยายขึ้น หัวใจสาวน้อยไหวระส่ำ ตัวเดียวอันเดียวของจางอี้หลงกำลังเคลื่อนไหวเย้าหยอกนาง!
ฮึ ใครหน้าไหน ช่างกล้าสร้างเรื่องหลอกลวงว่าจางอี้หลงไร้สมรรถภาพทางเพศ ด้วยเขาถูกวางยาพิษตั้งแต่เป็นเด็กน้อย เรื่องเล่านั้นช่างเหลวไหลสิ้นดี เพราะโสมเหี่ยวๆ ของเขานั้น บัดนี้มันกลายเป็นมะโรงที่ชูคอแผ่แม่เบี้ย และเริ่มขู่นางฟ่อๆ ๆ
เมิ่งเฉินหาว ย้อนเวลากลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง และชีวิตใหม่ที่ฟ้าประทานให้นี้ เขาต้องใช้มันให้คุ้มค่า เพื่อชำระบัญชีแค้นต่อคนชั่วที่ทำให้ชาติก่อนคุณชายง่อยอย่างเขาต้องตายอย่างอนาถ ชาตินี้ นับว่าสวรรค์เมตตา ให้เขากลับมามีความสามารถล้ำเลิศ ดังเดิม ทั้งวาดภาพ เขียนกลอน ร่ายรำ ดีดพิณ อีกทั้งเก่งเรื่องหมากล้อม และเหนืออื่นใดคือความงามราวกับดวงจันทร์ฉายแสง ใครพบเห็นล้วนหลงรัก ดังนั้นเขาจึงได้รับการเอาอกเอาใจสารพัด โดยเฉพาะจากเหล่าคุณชายแซ่ถัง!
แต่สิ่งนี้ทำให้เมิ่งเฉินหาวครั่นคร้ามใจ ด้วยตระกูลถังมีธรรมเนียมประหลาด สะใภ้น้อยของลูกชายบ้านนี้ ต้องเป็นบุรุษเท่านั้น! และเคราะห์กรรมครั้งนี้ คือสิ่งที่เมิ่งเฉินหาวต้องหาวิธีเอาตัวรอด หาไม่แล้วหนี้แค้นคงไม่ทันสะสาง แถมยังต้องโชคร้ายอุ้มท้องให้แก่หนุ่มกลัดมันทั้งตระกูล!
เธอเป็นได้แค่เมียจ้าง…ที่ไม่มีสิทธิ์รัก!
“อย่าหวังในสิ่งที่ไม่มีทางจะได้จากฉัน หว้า” เขาเห็นว่าสายตาเจ้าของร่างระหงนั้นจับจ้องอยู่ที่ใด ซึ่งนานร่วมห้านาทีแล้ว แถมยังเห็นประกายบางสิ่งในแววตา
คนฟังกัดเรียวปากและละสายตาจากสิ่งนั้น ก่อนหันมามองคนข้างกาย
“หว้าอยากรู้ ว่าสมมุติเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมาจนหว้าท้อง คุณทิตถ์จะทำยังไงคะ” สิ่งที่เธอมองอยู่คือคลินิกแม่และเด็ก นอกจากอยากมีการงานที่ดีแล้ว ผู้หญิงหลายๆ คนคงใฝ่ฝันที่จะมีครอบครัวและลูกๆ ที่น่ารัก รวมถึงเธอด้วย
“ฉันไม่ใช่คนที่ทำ แต่จะเป็นไอ้หนึ่งที่จะทำ”
“คุณทิตถ์จะให้คุณหนึ่งทำอะไรคะ”
ไม่ถึงเสี้ยวนาทีก็ได้ยินประโยคที่ฟาดหัวใจดวงนี้อย่างจัง
“มันจะเป็นคนพาเธอไปคลินิก คงไม่ต้องบอกนะหว้าว่าคลินิกอะไร เพราะฉันไม่อยากมีลูก” ต้องสะอึกอึ้งในความใจร้ายและหัวใจกระตุกวาบราวถูกสายฟ้าฟาดก็ไม่ปาน
สงครามระหว่างสองแคว้นกำลังก่อตัวขึ้น ภารกิจหลัก…ปลดพันธนาการค่ายกลในสุสานบรรพชนตระกูลฝู ภารกิจรอง…ผนึกสองแคว้นรวมเป็นหนึ่ง
ภารกิจสุดท้าย…พิชิตใจสาวงาม
ไม่ว่าจะอยู่หรือตายเจ้าคือคนของข้า จงอย่าได้คิดหนี เพราะไม่มีวันที่สตรีเช่นเจ้าจะทำสำเร็จ หญิงงามมีมากมายเหตุใดข้าต้องเป็นคนที่เขาหมายตา ชะตาลิขิตหรือสวรรค์กลั่นแกล้งกันแน่
‘นางปีนขึ้นไปยืนอยู่บนยอดสุดของป้อมปราการ แลเห็นแผ่นดินกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ไม่มีต้นไม้ไม่มีทุ่งหญ้าเขียวขจี มีเพียงผืนดินสีเหลืองและไอร้อนที่พวยพุ่งขึ้นมาจากพื้น แต่เหตุใดนางถึงรู้สึกหนาวสะท้าน คล้ายกับมีเกร็ดน้ำแข็งเกาะกุมหัวใจของนาง หลังจากวันนี้มันคงไม่อบอุ่นเหมือนเช่นเคยอีกแล้วกระมัง’
แผนเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น โดยผ่านพิธีอภิเษกสมรส เป็นตัวแปรสำคัญทำให้ หวางฉินหลิง ตัดสินใจหันหลังให้เขา แต่ทว่า…คนอย่าง หลี่หวังจวิ้นอ๋อง มีหรือจะยอมให้นางหนีไปจากเขาได้
คเชนทร์…ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ นักธุรกิจผู้พรั่งพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ หล่อ ล่ำ รวย แต่เขาเห็นผู้หญิงเป็นแค่ของเล่น!
อุ่นเรือน…หญิงสาวใสซื่อ ที่จับพลัดจับผลูให้มาอยู่ชิดใกล้ในฐานะลูกน้องกับเจ้านาย ด้วยเงื่อนไขน่ารังเกียจอย่างการคลุมถุงชนของผู้เป็นมารดา…
ผู้หญิงเฉิ่มเชยแบบนั้น แม้ปลายนิ้วเขายังไม่อยากสัมผัส ผู้ชายร้ายกาจแบบนั้น แม้หางตาเธอยังไม่อยากจะแล
บอสเพลย์บอยกับเลขาตัวร้ายจะลงท้ายกันอย่างไร? จะแผดเผากันอย่างเร่าร้อน หรือหลอมละลายหวามไหว ไปลุ้นกัน!
…คืนนี้ร่างกายนี้เป็นของคุณที่รัก ผมจะปรนนิบัติคุณให้สุขสมถึงขั้นลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต…
เมื่อหญิงสาวบริสุทธิ์ผู้อ่อนต่อโลกตกไปอยู่ในเงื้อมมือเจ้านาย ซึ่งเป็นบุรุษผู้หล่อเหลาและจัดเจนในเชิงรัก ขณะที่เธอมียาปลุกกำหนัดเป็นตัวกระตุ้น ผสมผสานกับส่วนลึกในกายสาวที่ต้องการเขาอยู่แล้ว
ความเร่าร้อนรุนแรงชนิดที่ใจและกายนารีต้องสะท้านจึงเกิดขึ้น…จนลืมไม่ลง
อวตารของเหมราช คือเทพบุตรที่คอยเกื้อหนุนเธอเสมอ ปรนเปรอเอาใจมอบความสุขให้จนล้นสำลัก หากแต่…ตัวตนที่แท้จริงเขาคือ ปีศาจจากขุมอเวจี ผู้พรากเอาความดีงามทั้งชีวิตไปอย่างไม่มีวันทวงคืนกลับได้…
การแต่งงาน ครอบครัว…คือสิ้นสุดของความฝันสำหรับชีวิตคู่ แต่บางครั้งมันอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงต่างหาก จุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิต อย่างถ่องแท้…
ความรัก ความใคร่…ปรารถนาที่ไม่ซื่อตรง มันคือความสวยงามในอารมณ์แปลกใหม่ หรือคือบาปที่กำลังทำลายล้างทุกอย่างให้วายวอดกันแน่
ความบริสุทธิ์ในรักแท้ หรือจะแพ้มารยาในอารมณ์