หนังดีติดดาว
มงคลเมเจอร์ นำคุณเข้าสู่สมรภูมิทรงเกียรติที่ไร้คนจดจำ “The Last Full Measure วีรบุรุษโลกไม่จำ” อำนวยการสร้าง ไมเคิล บาสซิก (Snowden, American Made) กำกับ-เขียนบทโดย ทอดด์ โรบินสัน (White Squall, Lonely Heart) คว้านักแสดงมากฝีมือ นำโดย เซบาสเตียน สแตน (Avengers Endgame, I, Tonya), คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ (All the Money in the Wolrd, Knives Out), แซมมวล แอล. แจ็คสัน (Pulp Fiction, Django Unchained, Avengers Endgame), วิลเลียม เฮิร์ต, เอ็ด แฮร์ริส, เจเรมี เออร์วีน หนังว่าด้วยเรื่องราวของ วิลเลียม พิตเซนบาร์เกอร์ (เจเรมี เออร์วีน) แพทย์สนามสังกัดกองทัพอากาศ ที่ช่วยชีวิตทหารไว้ถึง 60 นายในช่วงสงครามเวียดนาม แม้ว่าจะมีโอกาสให้หนีออกจากเขตปะทะไปพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ลำสุดท้าย แต่พิตเซนบาร์เกอร์ก็เลือกเสี่ยงชีวิตตัวเองรักษาชีวิตสหายร่วมรบต่อไป อีก 20 ปีต่อมา อดีตสหายร่วมรบของพิตเซนบาร์เกอร์ และพ่อของเขาที่ขอความช่วยเหลือจากนักสืบสก็อตต์ ฮัฟฟ์แมน และทหารผ่านศึกคนอื่นที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อมอบเหรียญกล้าหาญชั้นสูงที่สุดของประเทศเพื่อเป็นการรำลึกถึงวีรกรรมของพิตเซนบาร์เกอร์
หนังใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบตัดสลับระหว่างเหตุการณ์ในปัจจุบันและอดีต ในปัจจุบัน เป็นเรื่องของการทวงความยุติธรรมให้คนกล้าที่เสียชีวิตไป ในขณะที่อดีตเล่าถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ในวันนั้นว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยเล่าผ่านมุมมองของทหารราบและทหารอากาศที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในวันนั้น ความสนุกอยู่ที่การติดตามเรื่องที่เราในฐานะคนดูต้องค่อย ๆ ปะติดปะต่อชิ้นส่วนของเรื่องราวที่เล่าผ่านตัวละครแต่ละตัวที่อยู่ในสนามรบ ต้องชมว่าการเล่าเรื่องลื่นไหลดีมาก ๆ ถึงแม้หนังจะเชิดชูความเป็นวีรบุรุษแบบอเมริกันแต่ก็ไม่ลืมที่จะพูดถึงความเลวร้ายของสงครามที่เหล่าทหารผ่านศึกทั้งหลายได้รับและทนทุกข์ทรมานกับมันมาอย่างยาวนาน และได้เห็นฝีไม้ลายมือของนักแสดงวัยดึกหลายคนๆ ไม่ว่าจะเป็น วิลเลียม, คริสโตเฟอร์, แซมมวล แอล, เอ็ด แฮร์ริส (ที่เล่นเรื่องนี้ไว้ก่อนจะเสียชีวิตลงไม่นาน) อ้อ สำหรับบทนำที่เป็นของ เซบาสเตียนก็ถ่ายทอดออกมาดี
ติดให้ ****
“GREENLAND นาทีระทึก…วันสิ้นโลก” ภาพยนตร์ทริลเลอร์ที่บริษัทจัดจำหน่ายโดย Warner Bros. Pictures ได้พระเอกขวัญใจสาว ๆ หลายคนมารับบทนำ เจอราด บัตเลอร์ ร่วมด้วย โมเรนา แบคคาริน, เดวิด เดนแมน, โฮป เดวิส, โรเจอร์ เดล ฟลอย, แอนดรูว์ บาชเลอร์, เมอร์ริน ดันกี้, โฮลท์ แมคคัลนี, สก๊อตต์ เกลนน์ อำนวยการสร้างโดย เบรนดอน โบเย, โจนาธาน เฟอหร์แมน โปรดิวเซอร์โดย บาซิล อิวานิค, เซบาสเตียน เรโบ, เจอราด บัตเลอร์ และ อลัน ซีเกล กำ กับโดย ริก โรมัน วาฟ เขียนบทโดย คริส สปาร์ลิง เรื่องเล่าถึงหนังมหันตภัยเรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี เมื่ออุกกาบาตลูกใหญ่กำลังจะชนโลก จอห์น แกริตี้ และครอบครัวได้รับเลือกให้หลบภัยในศูนย์พักพิง แต่เขาต้องพบกับความโกลาหลจนมีเหตุให้พลัดพรากจากครอบครัว จอห์นจึงทำทุกวิถีทางเพื่อตามหาภรรยาและลูก ซึ่งป่วยด้วยโรคเบาหวาน ก่อนโลกจะแตกดับลงต่อหน้า
หนังเดินเรื่องเร็วมาก แนะนำตัวละครแล้วขยับเส้นเรื่องทันที หนังค่อย ๆ เปิดเผยรายละเอียดตัวละครหลักทั้ง 3 ให้รู้จัก แต่หนังก็ยังคงเดินเรื่องตามสูตรหนังหายนะที่ให้ตัวละครต้องเจอปัญหาชีวิตและมีปมในจิตใจอยู่เสมอ พร้อมการเอาตัวรอดจากภัยพิบัติ ส่วนที่ชอบที่สุดเลยก็คือ หนังเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของตัวละครทั้งสามที่เป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาที่ในยามสงบก็มีอาชีพ มีหน้าที่การงานดี ส่วนตัวลูกชายก็เป็นเด็ก 7 ขวบ ที่น่ารักและใสซื่อ ทว่าเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นต่างก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองและบุคคลอันเป็นที่รักรอดชีวิต ตรงนี้ชอบจริง ๆ หนังไม่ได้เน้นความวินาศสันตะโรด้วยการใช้ CG โชว์ภูมิประเทศหรือเมืองใหญ่ ๆ ให้เห็นมากนัก หรืออย่าคาดหวังแอ็คชั่นแบบ Armageddon อลังการแบบ 2012 ควรเปิดใจรับ Greenland ที่เป็นหนังว่าด้วยความเป็นมนุษย์ที่ต้องเอาตัวรอดจากสถานการณ์วันสิ้นโลกที่มีชีวิตของครอบครัวต้องปกป้อง
ติดให้ ***
มงคลเมเจอร์ ส่งภาพยนตร์ผลงานกำกับของ อูโก เชแล็ง ผู้กำกับหนังคอเมดี้ “Just Like Brother” (2012) และ “Two is a Family” (2016) กับเรื่องล่าสุด“Love at Second Sight” ได้นักแสดงนำ ฟรองซัวส์ ซีวิล, โฌเซฟีน ฌาปี กับเรื่องราวของ ราฟาเอล รามิสส์ (ฟร็องซัวส์ ซีวิล) เป็นนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ยิ่งประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ เขาก็เริ่มกลายเป็นคนหลงตัวเองมากเท่านั้น และตลอดมาราฟาเอลไม่เคยแยแส โอลิเวีย (โฌเซฟีน ฌาปี) แฟนสาวของเขาเลย จนกระทั่งวันหนึ่งราฟาเอลตื่นมาพบว่าโลกที่เคยอยู่นั้นกลับหัวกลับหางไปหมด เขากลายเป็นหนุ่มโสดโนเนมและไม่เอาไหน ส่วนแฟนสาวกลายเป็นนักเปียโนชื่อดัง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ราฟาเอลได้รู้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ในชีวิต เขาจึงเริ่มต้นภารกิจสำคัญ นั่นคือการจีบแฟนสาวของตัวเองเพื่อให้เธอตกหลุมรักเขาอีกครั้งหนึ่ง…
หนังทำออกมาได้น่าสนใจกับการต้องไปจีบคนรักอีกครั้ง ซึ่งเดินเรื่องได้ดี แต่ก็มีทำให้งงบ้างบางจุดอยู่ เรื่องราวเชื่อมกันไม่ได้สมบูรณ์ ไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่ คล้ายหนังทำไปตามอารมณ์โดยไม่สนใจเหตุผลเท่าไหร่นัก สำหรับนักแสดงนำ พระนางเล่นกันได้ดีมากเข้าขากัน ส่วนภาพในอดีต เรื่องการแต่งกาย แต่งหน้า ทำออกมาได้ดูย้อนเวลาสมจริงดี ดูแล้วหวนระลึกถึงความรักหวานชื่นครั้นอดีตจนอยากกลับไปทำแบบนั้นอีกครั้ง
ติดให้ ***
มงคลเมเจอร์ ส่งผลงานล่าสุดจากผู้สร้างแฮร์รี่ พอตเตอร์ เรื่อง “The Secret Garden มหัศจรรย์ในสวนลับ” นำแสดงโดย คอลิน เฟิร์ธ เจ้าของรางวัลออสการ์จาก The King’s Speech ร่วมด้วยนักแสดงผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ จูลี่ วอเตอร์ส และนักแสดงดาวรุ่งดวงใหม่ ดิกซี่ เอเจอริกซ์ เจ้าของรางวัล BAFTA KID ผู้มารับบทเป็น แมรี่ เด็กสาวผู้ถูกทอดทิ้ง ไร้ซึ่งมิตรภาพและความรักจากประเทศอินเดียสู่เกาะอังกฤษ และได้พบกับเวทมนตร์มหัศจรรย์แห่งมิตรภาพครั้งใหม่ นำทางเธอสู่การผจญภัยในสวนปริศนาที่ไม่มีใครเคยได้เห็น สาวน้อย แมรี่ และเพื่อนใหม่จะพาคุณผจญภัยในสวนลับ และก้าวสู่โลกใบใหม่แสนมหัศจรรย์ พร้อมความทรงจำสุดประทับใจกับมิตรภาพและความสวยงามของสวนปริศนา!
โดยตัววรรณกรรมต้นฉบับนั้นพูดถึงการ Coming of Age ของตัวละครเด็ก ๆ ได้อย่างงดงามเป็นที่สุด แต่ในฉบับหนังในครั้งนี้นั้นทุกอย่างออกมาขาด ๆ เกิน ๆ ทำให้รู้สึกว่าพัฒนาการของตัวละครทั้งตัวหลักและตัวรองนั้นขาดความต่อเนื่อง ก็เลยได้เห็นความก้าวร้าว ท้าทายผู้ใหญ่ ที่อยู่ ๆ ก็กระโดดมาเป็นความอ่อนโยนและเอาใจใส่เพื่อนราวกับเป็นคนละคนในพริบตา สำหรับความผิดหวังอีกอย่างคือไม่ได้เห็นเด็ก ๆ ลงมือช่วยกันทำสวนที่ถูกทิ้งร้างให้กลับมาสวยงามด้วยตัวเองเลย เพราะหนังเลือกจะใช้ CG เนรมิตให้สวนที่เสื่อมโทรมกลับมาสวยงามทันทีทันใด จาก Secret Garden กลายเป็น Magic Garden ไปซะงั้น แต่หนังพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกที่ว่าด้วยความไม่เข้าใจกัน ซึ่งที่จริงประเด็นมันดีมาก ๆ เลยนะ ทว่ากลับเลือกที่จะโชว์เหนือด้วยการเล่นท่ายาก จนรู้สึกว่ายากเกินการทำความเข้าใจเลยทำให้ไม่อินเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าภาพออกมาสวยและเพลงประกอบก็ไพเราะดี
ติดให้ **
“Antebellum แอนเทเบลลัม หลอน ย้อน โลก” ตีแผ่ความขัดแย้งระหว่างสีผิวโดย มงคลเมเจอร์ ซึ่งได้นักแสดง จาแนลล์ โมเน่ มารับบทนำ ตีแผ่เรื่องราวของ เวโรนีกา หญิงสาวผิวดำที่เป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ ต้องตกอยู่ท่ามกลางความโหดร้ายของสถานการณ์ที่เธอต้องพยายามแก้ไขและเอาตัวรอดให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
หนังเดินเรื่องในช่วงแรกช้าไปหน่อย บทพูดไม่มาก แต่เน้นสื่อสารผ่านภาพมากกว่า ชอบบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจที่เกิดขึ้นในช่วงแรกของการเล่าเรื่องมาก ๆ แต่เอาจริง ๆพล็อตยังมีช่องโหว่อยู่แม้หนังจบไปแล้วก็ยังได้คำตอบไม่ครบทุกประเด็นเลยคาใจ และที่ไม่ค่อยชอบการให้ความสำคัญกับตัวละครเอกเพียงคนเดียว ทำให้ตัวละครรองอื่น ๆ ที่น่าจะมีบทบาทถูกลดความสำคัญลงไป หนังนำเสนอเรื่องความขัดแย้งระหว่างสีผิวที่สืบทอดกันมานานแล้ว ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้ความเป็นทาสจะหมดไปแล้ว แต่ชุดความคิดและความเชื่อแบบนั้นยังคงถ่ายทอดต่อ ๆ กันมา แต่ที่สุดแล้วประเด็นของหนังคือแนวคิดและชุดความเชื่อที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นสิ่งถูกต้อง ทว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไปสิ่งเหล่านั้นมันก็ยังคงถูกต้องและสมควรเอามาใช้ต่อในโลกปัจจุบันหรือไม่? นี่แหล่ะ หัวใจหลักของหนัง
ติดให้ **** ครึ่ง
เฉลยภาพยนตร์“Tenet” : คริสโตเฟอร์ โนแลนคำถาม
คำถามภาพยนตร์เรื่อง“Antebellum” นักแสดงนำคือใคร?
ทราบคำตอบ เขียนชื่อ – ที่อยู่ และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่
หนังดีติดดาว
เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ผู้ตอบถูก 5 ท่าน ได้รับของรางวัลจาก มงคลเมเจอร์ (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)
“Mother Gamer” ผู้ตั้งโจทย์เกมคือผู้กำกับ เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร และ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ถือเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่น-อีสปอร์ตเรื่องแรกของไทย ด้วยการทุ่มเทในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะการสร้างคาแรคเตอร์ และมิติให้ทีม “HIGHER” คือทีมแกร่งอันดับหนึ่ง ว่าที่ทีมแชมป์ในการแข่งขัน RoV สโมสรซึ่งเป็นต้นสังกัดของ โอม (ต้นหน ตันติเวชกุล) หรือ Sonic Fighter เกมเมอร์ดาวรุ่ง ที่ทักษะ และความสามารถเหนือกว่าเกมเมอร์ทั่วไป ร่วมด้วย อ้อม พิยดา อัครเศรณี ในบท ครูเบญ, เติร์ด-ลภัส งามเชวง, วี วีรยา จาง งานนี้แม่ยอมทุ่มสุดตัว เพื่อเป้าหมายเดียวคือต้องโค่นทีมโอมลูกชายให้จงได้!
เรื่องราวของหนังก็มีแค่การตั้งทีม ซ้อมเล่นเกม และแข่งเกม กับประเด็นที่พยายามจะจับมาใส่แต่กลับไม่มีน้ำหนักอะไรเลย ทั้งเรื่องเด็กเล่นเกมแล้วการเรียนจะเสีย, ความรุนแรงและความก้าวร้าวที่เกิดจากการเล่นเกม หรือข้อดีของการเล่นเกม แถมท้ายยังปล่อยประเด็นนั้น ๆ ไว้กลางทาง จนหนังจบแล้วก็ไม่เห็นว่าหนังจะสื่ออะไรได้สุดสักทาง สำหรับการที่ได้เห็นการเล่นเกมบนจอหนัง ซึ่งน้อยเรื่องที่จะมี รวมไปถึงการที่หนังใส่ซีนจากความคิดของตัวละครก็ไม่ได้ช่วยให้สนุกหรือเป็นแฟนตาซีมากขึ้นกลับทำให้ออกมาเลอะเทอะแถมน่าเบื่อมาก ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นผู้กำกับคนเดียวกับหนัง App War คือผิดหวังมากจริง ๆ
ติดให้ *
คำถามภาพยนตร์เรื่อง“Mother Gamer”: ต้นหน ตันติเวชกุลรับบทเป็นใคร?
ทราบคำตอบ เขียนชื่อ – ที่อยู่ และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่
หนังดีติดดาว
เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ผู้ตอบถูก 3 ท่าน ได้รับของรางวัลจาก สหมงคล ฟิล์ม (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)