แกะซีลหนังสือใหม่
‘ไม่ใช่ว่าไม่อยากเปิดใจ ไม่ใช่ว่าอยากจมปลักอยู่กับความรักเดิม ๆ แต่เพียงแค่ไม่อยากให้ใครมาเจ็บช้ำในตอนนี้ หากเมื่อใดที่ใจพร้อมจะเป็นคนเดินเข้าไปหาเอง’
“เปิดใจสักนิดให้ฉันไม่ได้เลยหรือไง”
“ผมยังไม่พร้อมที่จะรักใครในตอนนี้”
“ทั้งที่ฉันทำดีกับคุณทุกอย่าง อยู่เคียงข้างไม่ห่าง ดูแลและห่วงใย ความดีของฉันคุณไม่เคยมองมันเลยหรือไง”
หญิงสาวที่คอยเฝ้ามองและดูแลไม่เคยห่างกาย แม้ว่าเขาจะเดินไม่ได้แต่ก็ไม่เคยทิ้งขว้าง กำลังมองหน้าชายที่มีใจด้วยความโศกเศร้า เมื่อเขาที่ยังจมปลักอยู่กับอดีตรัก รักที่เขานั้นไม่ได้ครอบครอง รักที่ยังจองจำในหัวใจไม่เสื่อมคลาย…เธอจะได้เป็นคนนั้นไหม ที่สามารถดามหัวใจที่แตกร้าวให้กับมาดีเช่นเดิม?
“คนบ้า ตื่นเดี๋ยวนี้นะ เรื่องอะไรเอาฉันมานอนบนพื้น”
วรฤทธิ์ขยับตัวอย่างเมื่อยขบ ก่อนจะลืมตาขึ้นมามองอย่างง่วงๆ
“สกปรก โสโครก เหม็นหึ่ง ใครจะกล้าให้มานอนบนเตียงหอมๆ”
“ก็แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ เอามาทิ้งบนพื้นงี้เลยได้ไง”
“แล้วใครใช้ให้ออกไปเมาเหมือนหมา”
ชลิตาได้แต่น้ำตาคลอกับวาจาร้ายๆ ของเขา หมดคำพูดจะต่อล้อต่อเถียง
ก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวไว้ว่า ทัพเสื้อเกราะทองมีกฎเหล็ก บุรุษของเจ้าก็เช่นกัน ดวงตาคู่นี้มีไว้เพื่อให้เจ้ามองมาที่ข้า บ่าทั้งสองข้างต่อแต่นี้ห้ามให้ผู้ใดอิงแอบ เส้นผมทุกเส้นห้ามผู้ใดจับต้อง ลมหายใจ เลือดเนื้อและจิตวิญญาณล้วนเป็นของข้าผู้เดียวเท่านั้น
ลิขิตรัก…เชื่อมเส้นวาสนาผูกด้ายแดงยาวนับพันหลี่ เหลียงอวี้หนิง…นับแต่นี้เป็นต้นไปเจ้าคือสตรีของ อ๋องน้อยหลี่หลิง ตราบชั่วฟ้าดินมลายไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ด้วยทิฐิ ทั้งคู่ต่างก้าวถอยหลังไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง หนนี้นางคิดจะสะบั้นด้ายแดงที่ผูกไว้บนนิ้วนางข้างซ้าย บุรุษมีให้เลือกมากมายไยต้องยึดติดกับคนอย่างท่าน เหลียงอวี้หนิงเชิดหน้าใส่อย่างไม่ยอมจำนน เจ้ากล้าตัดหรือ หากเจ้ากล้าตัดข้าก็จะเผาด้ายแดงทุกเส้นที่อาจหาญเข้ามาพัวพันกับสตรีของข้าให้วอดวายเป็นจุณ ชั่วชีวิตนี้ข้า…หลี่หลิงฉียอมเป็นศัตรูกับคนทั้งใต้หล้าและเจ้าอย่าได้หวังว่าจะมีวาสนาตบแต่งกับชายอื่น ตำแหน่งพระชายาท่านอ๋องน้อย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าผู้เดียวเท่านั้นเหลียงอวี้หนิง
ภูตะวัน – ทหารรับจ้างร่างสูงใหญ่วัยฉกรรจ์
เปลวเทียน – สาวน้อยบ้านป่า ผู้มีชะตาชีวิตอาภัพนัก
เพียงแรกพบสบตา ต่างรู้ดีว่าตกหลุมรักกันและกัน
มันคงดีหากเธอไม่ใช่สตรีที่มีเจ้าของแล้ว
…เจ้าของที่ไม่เคยรักใคร่ใยดี…
ไม่มีใครอยากผิดบาป หากยากเหลือเกินจะหักห้ามแรงพิศวาส ยิ่งมีโอกาสได้ชิดใกล้ ยิ่งอันตรายเหลือล้ำ ด้วยแรงกระสันใคร่อันดิบเถื่อนแห่งวัยฉกรรจ์ จึงแผดเผาสาวเจ้าให้ยินยอมหลอมละลาย สัมปชัญญะเลือนหาย
แม้จะตกนรกขุมสุดท้าย ก็ยอม !
…ผิดไหม ถ้าจะทำตามเสียงหัวใจที่เรียกร้อง…
แทนไท…พี่ชายผู้แสนอบอุ่น อ่อนโยน
ทอฝัน…น้องสาวผู้บอบบาง น่าทะนุถนอม
พี่ชายโอบอุ้ม น้องเล็กออดอ้อน กว่าจะรู้ตัวก็สายไป เมื่อหัวใจสองดวงมันถลำลึก
ทว่า…รักมันไม่ได้ง่ายเสมอไป เมื่อมีเส้นคั่นคือ ความคู่ควรและเหมาะสม
หนึ่งคนเป็นเพียงผู้อาศัย อีกหนึ่งเป็นลูกเจ้านายที่เติบโตมาด้วยกัน
เขาและแม่จะกลายเป็นคน “เนรคุณ” หากทำตามหัวใจ แต่หากเขาหนีหาย นั่นหมายถึงเขาจะทำลายแก้วตาดวงใจของตนเอง
…ระหว่างเหตุผลกับหัวใจ เขาจะเลือกทางไหนดี…
ความแค้นฝังลึกสุดหัวใจ จะจองจำเธอเอาไว้ด้วยบาปที่ตนเองไม่ได้ก่อ
ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่ชายหนุ่มปรารถนา…คือสิ่งที่เธอต้องสังเวย!
คำสัญญา…สำหรับบางคนอาจเป็นเพียงถ้อยคำที่พูดไปเพราะความรู้สึกในชั่วขณะหนึ่ง แล้วก็เลือนลบหายไปตามกาลเวลา แต่กับบางคน มันคือการใช้ทั้งชีวิตเพื่อรักษามันเอาไว้ เมื่อคำสัญญาถูกทำลาย นั่น…ก็หมายถึงลมหายใจที่สูญสลายสิ้นไปด้วย
หากแต่ความแค้นยังฝังแน่นเกินเยียวยา เขา…จึงทำทุกวิธีทางเพื่อเอาคืนเธอ หญิงสาวซึ่งเคยเป็นที่รักยิ่งให้รู้สึกรู้สาถึงเจ็บปวดทรมานเสียบ้าง จากผู้ชายแสนดีสุภาพอ่อนโยน ความรักที่ผิดหวังเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นสัตว์ร้ายที่ใครก็ไม่อาจขัดขวางต้านทานได้…