“เที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม’สุทน” สุขสันต์วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2563 วันนี้หนุ่ม’สุทน ขอนำเสนอโปรแกรม “เส้นทางท่องเที่ยวไหว้พระเมืองเพชร จังหวัดเพชรบุรี”
เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เหมือนเช่นเคยครับ ถ้าเป็นกลุ่มท่องเที่ยวใหญ่หน่อยก็แน่นอนว่ารสบัสปรับอากาศเหมาะมากและควรจะต้องตรงเวลา 07.00 น. กันสักหน่อยนะครับเพราะเส้นทางขาออกเดินทางพระราม 2 ปริมาณรถหนาแน่นดีแท้ พอถึงแยกวังมะนาวเชื่อมถนนเพชรเกษมเมื่อไหร่ก็แปลว่าใกล้ถึงเมืองเพชรบุรีแล้วล่ะครับที่ประมาณ 9.30 น. กำลังดี
ที่แรกคือวัดมหาธาตุวรวิหาร เป็นวัดที่ 1 ให้เวลา 25 – 30 นาที เพื่อเข้าวิหารหลวง กราบบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานในวิหารหลวง ซึ่งมีองค์พระประธานทรงราชาภรณ์ องค์หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานให้สักการะกราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตท่าน องค์ท่านไม่ใหญ่มาก หน้ากว้าง 8 นิ้ว พระหัตถ์ซ้ายถือพัด นอกจากนี้ยังมีองค์หลวงพ่อทองวัดเขาตะเคราจำลองและธรรมจักรอายุเกิน 1,000 ปี ให้ท่านชมและกราบไหว้พร้อมชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามเหลือเกิน
เสร็จแล้วเดินทางต่อในเวลา 10.00 เข้าชมวัดใหญ่สุวรรณารามกันต่อเป็นวัดที่ 2 วัดใหญ่สุวรรณารามหรือวัดใหญ่เป็นวัดเก่าแก่และสำคัญมากของจังหวัดเพชรบุรี สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นแหล่งรวมฝีมืองานช่างที่ปราณีตของชาวเพชรบุรีไว้มากมาย โดยเฉพาะภาพจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์เป็นภาพเทพชุมนุมศิลปะอยุธยาฝีมือช่างเมืองเพชร วัดใหญ่สุวรรณรามแห่งนี้ยังเคยใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ในหลายเรื่อง คณะท่องเที่ยวต้องใช้เวลาดูศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาที่วัดนี้ควรนัดเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
โดยเริ่มต้นจุดที่ 1 ที่ศาลาการเปรียญซึ่งเคยเป็นพระตำหนักของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือสมเด็จพระเจ้าเสือ ในแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ชมพระตำหนักองค์นี้ที่กองทัพพม่าใช้ขวานจามบานประตูเพื่อจับคนที่อยู่ข้างใน มีรอยขวานจามบานประตูปรากฏก็เลยรื้อมาถวายสมเด็จพระสังฆราช (แตงโม) ก็ขอพรสมเด็จพระสังฆราชแตงโมด้วยนะครับ
แวะชมจุดที่ 2 กันต่อที่เข้าไปในอุโบสถ กราบบูชาองค์พระพุทธรูปที่พระบาทมี 6 นิ้ว (รวม 2 พระบาทได้ 11 นิ้ว) ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยกให้เป็น Unseen in Thailand เพราะมีพระพุทธรูปที่มีนิ้วพระบาท 6 นิ้ว เรียกกันว่า “พระหกนิ้ว” นี่ล่ะครับแปลกจริง เสร็จแล้วออกมาชมหน้าบันวิหารคด หน้าบันที่ 32 เป็นเลข ๕ (สลักเป็นเลขไทย) บนพานทองมีพระขันธ์หมายถึงดาบอาญาสิทธิ์สมัยรัชกาลที่ 5 ควรเยี่ยมชมเพื่อศึกษาเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดเส้นทางรถไฟสายเมืองเพชรบุรี
ได้เวลา 11.10 นาทีแล้วก็ออกเดินทางไปรับประทานอาหารมื้อเที่ยง “ร้านอาหารย่านริมทางรถไฟ” ไม่ต้องรีบเร่งสบาย ๆ เวลาบ่ายโมงครึ่งออกเดินทางไป “วัดพลิบพลีหรือวัดเพชรพลี” เป็นวัดที่ 3 ถือเป็นวัดสำคัญของเมืองเพชรบุรีสมัยสุวรรณภูมิ ปี พ.ศ. 272 เชื่อได้ว่าพื้นที่บริเวณนี้เคยประกอบพิธีของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดูและพระพุทธศาสนามาก่อนเมื่อครั้งกระนั้น ซึ่งปรากฏร่องรอยให้เห็นคือแผ่นหินขนาดใหญ่ เสาชิงช้าและเทพเจ้าของชาวพราหมณ์ ส่วนพระพุทธศาสนามีพระบรมสารีริกธาตุ สันนิษฐานกันเองน่าจะอัญเชิญมาจากเมืองนครศรีธรรมราช แรกๆ เก็บรักษาไว้อย่างดีเยี่ยม ใช้รอกสาวอัญเชิญประดิษฐานบนเพดานกุฏิพระคือเจ้าอาวาสวัดเพชรพลี นอกจากนี้ยังมีองค์พระพุทธรูปเก่าแก่อายุเกิน 1,000 ปี ประดิษฐานให้ได้ชมอีกด้วย วัดเพชรพลีนี้ควรจะให้เวลา 1 ชั่วโมง เพื่อฟังเรื่องราวความเป็นมาของวัด น่าสนใจมากๆ ครับ
แต่อยู่ได้ถึงเวลา 15.30 น. ก็ควรออกเดินทางมานอกเมืองเพชรบุรีกันได้แล้วล่ะครับ โดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมไปอำเภอชะอำ เพื่อไปยัง วัดถ้ำรงค์ เป็นวัดที่ 4 ที่เทศบาลตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี เดินผ่านประตูเข้าถ้ำรงค์เพื่อไปสักการะองค์พระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติที่ด้านใน เหลือบตามองบนไปบนผนังถ้ำจะเห็นพระพุทธรูปสร้างด้วยปูนผสมชันหมาก สีองค์พระออกสีคล้ำๆ คล้ายสีดำ จนชาวบ้านพากันเรียกขานขนานนามว่า “หลวงพ่อดำ” เป็นองค์พระพุทธรูปสมัยทวารวดีเมื่อครั้งขอมเรืองอำนาจ เสร็จสรรพแล้วก็เดินข้ามถนนมาที่ตัววัดถ้ำรงค์เพื่อชมโบสถ์เก่าแก่ของชาวชุมชนถ้ำรงค์กันสักหน่อยนะครับ
ได้เวลาพอสมควร ออกเดินทางต่อมาที่อำเภอแก่งกระจาน เข้าพักผ่อนที่ “บ้านสวนสบายใจรีสอรท์” อยู่ในสวนเกษตรริมแม่น้ำเพชรบุรี ช่วงปลายฝนต้นหนาวอากาศดีมาก สำหรับอาหารมื้อค่ำวันนี้ สุดยอดความอร่อยด้วยน้ำพริกกะปิจิ้มด้วยผักสดปลอดสารพิษปลูกเองในบ้านสวนสบายใจ ไม่ลองไม่รู้ครับ !!!
วันนี้ หนุ่ม’สุทน เขียนเรื่องท่องเที่ยวไหว้พระเมืองเพชรบุรีแบบย่อๆ ได้ 4 วัดเลยทีเดียว ล้วนแต่เป็นวัดเด็ดๆ โดนใจคนชอบเที่ยววัดแบบ Unseen ทั้งคนหนุ่มคนสาวคนเฒ่าคนแก่ ไม่แก่ก็เที่ยวได้นะครับหรือแม้แต่สำหรับผู้ที่จะจัดนำเที่ยวหรือเดินทางเองเป็นหมู่คณะ เที่ยวเดี่ยวเที่ยวแบบครอบครัวและเพื่อนๆ ก็ขอแนะนำไปวัด 4 วัดที่เมืองเพชรบุรีนี้ได้เลยนะครับ หนุ่ม’สุทนขอรับรองว่าจะถูกใจสำหรับคนชอบท่องเที่ยวไหว้พระแน่นอนครับ จังหวัดเพชรบุรียังไม่จบที่เที่ยวแค่นี้ มีแหล่งน่าท่องเที่ยวของเมืองสองทะเลคือทะเลน้ำเค็มและทะเลหมอกบนเขาพะเนินทุ่ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี นี้อีก สวยประทับใจทุกวัย แล้วจะเล่าสู่กันฟังต่อในโอกาสหน้าครับ วันนี้ ขอบคุณและสวัสดีครับ
เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม’สุทน รุ่งธัญรัตน์
แฟนเพจเฟสบุ๊ค :https://www.facebook.com/sutonfm100.5/
#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทาง คลื่นข่าว 100.5 fm ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.10-11.00 น.
#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน