“ไทยเที่ยวไทยไปกับพี่หนุ่ม’สุทน” ทักทายกันวันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม 2563 เป็นวันที่ฝนตกตลอดทั้งวัน ท้องฟ้ามืดครึ้ม ผมถามตัวเองว่าวันนี้จะไปไหนได้ ไปก็คงจะถ่ายรูปเก็บข้อมูลไม่ได้เป็นแน่ เลยคิดว่านั่งเขียนเล่าเรื่องการเดินทางให้ชาวแฟนเพจได้เป็นข้อมูลสำหรับท่องเที่ยวกับ ทริป “ท่องเที่ยวแสนเพลิดเพลิน ต้องไปอำเภอสวนผึ้ง” จังหวัดราชบุรี พลางๆ ไปก่อนก็แล้วกันระหว่างรอฝนหยุดตกในวันที่อากาศเย็นนิดๆ เพราะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวจริงๆ ไม่ก็ฝนส่งท้าย แหม…นึกถึงเพลง ฝนหยาดสุดท้าย….ซะงั้น !!!
ว่าแล้วก็ขอเริ่มต้นเส้นทางท่องเที่ยวอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี กันนะครับว่าใครๆ ก็ชอบไปเพราะอากาศดี เส้นทางสวย แหล่งท่องเที่ยวเป็นธรรมชาติมากๆ ให้ดีก็ควรออกเดินทางจากกรุงเทพฯ แลนด์มาร์คสักราวๆ 07.30 น. มาตามเส้นทางถนนบรมราชชนนี ชื่อถนนเพชรเกษม ผ่านองค์พระปฐมเจดีย์เมืองนครปฐม ไปถึงหนองโพแล้วก็ต้องแวะพักยกชิมไอศกรีมขึ้นชื่อหนองโพ ไอศกรีมปั่น เน้นๆ เด็ดจริง หรือจะดื่มนมสดหนองโพมีหลายรส นั่งแช่นั่งชิลล์สักครึ่งชั่วโมงก็พอก็ค่อยไปกันต่อจนถึงป้ายทางราชบุรี ก็ขับเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางเจดีย์หักไปอำเภอสวนผึ้ง เข้าเขตอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีที่หมาย
เที่ยวจุดแรกคือ “ถ้ำจอมพล” เข้าถ้ำจอมพลต้องใจเย็นๆ หายใจลึกๆ เพราะอาจมีเหนื่อยหอบแฮ่กๆ เล็กน้อยตอนขึ้นบันไดนี่ล่ะครับ ใครมีเรี่ยวแรงดีหน่อยก็ชิลล์ๆ ไป ถึงปากถ้ำแล้วนั่นล่ะ หายใจโล่ง สำหรับถ้ำจอมพลหรือเดิมเรียกถ้ำมุจรินทร์ ก็น่าจะเป็นชื่อพญานาคและเชื่อว่าท่านฤาษีตาไฟเข้ามานั่งสมาธิในถ้ำนี้ สมัยก่อนป่าไม่รกชัฎหนาทึบนัก ต่อมาก็มีพระธุดงค์เข้ามาปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ส่วนชื่อถ้ำจอมพลนั้นว่ากันว่าเมื่อครั้งรัชกาลที่ 5 เสด็จเมืองท่าราชบุรีแล้วเสด็จ ณ ถ้ำมุจรินทร์ ทอดพระเนตรหินย้อย คล้ายยศศักดิ์นายพลเมื่อครั้งกระนั้นจึงทรงโปรดฯ พระราชทานชื่อว่า “ถ้ำจอมพล” ภายในถ้ำจอมพลก็ว่าเคยเป็นสถานที่ฝึกเสือป่าเพื่อปกป้องอาณาจักรสยามสมัยรัชกาลที่ 6 ที่ถูกประเทศมหาอำนาจรุกล้ำอธิปไตยนั้นตามประวัติศาสตร์คือฝรั่งเศส ส่วนภายในถ้ำสวยงามเหลือเกินเหมือนเมืองใต้บาดาลที่อยู่ของพญานาคราชมุจรินทร์ ( คริๆ ผมเองก็ ไม่เคยไปหรอกนะครับ )
เที่ยวแล้ว ท้องก็เริ่มออกอาการว่าหิวสินะ ผมแนะนำอาหารกลางวันที่ “ร้านครัวม่อนไข่” อำเภอสวนผึ้ง เป็นจุดที่ 2 ให้กินอาหารพื้นถิ่นคนภาคกลาง เช่น น้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด มีผักสดๆ อร่อยถูกใจ เสร็จแล้วตามด้วยกาแฟสดอามันเต้เข้มข้นตามสไตล์คอกาแฟสด กินข้าว ดื่มกาแฟพักๆ สบายสักชั่วโมงครึ่งแล้วค่อยไปเที่ยว “น้ำตกเก้าโจนหรือน้ำตกเก้าชัน” เป็นจุดที่ 3 ชมธรรมชาติกันแบบเต็มที่ไปเลยครับ เสร็จแล้วเข้าที่พักแสนสบายล้อมรอบด้วยเทือกเขาตะนาวศรี เขตแดนไทยกับเมียร์มาร์
รุ่งอรุณ เตรียมตัวออกเดินทางมาสัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตชาวไทยกะเหรี่ยงบ้านท่าขาม คือตลาดริมสายธารชื่อ “โอ๊ะป่อย” เป็นจุดแรกของวันนี้ครับ เที่ยวตลาดโอ๊ะป่อย ใส่บาตรพระยามเช้าแล้ว ชิม ช็อป ชมตลาดแห่งสายน้ำธรรมชาติ วิวทิวทัศน์สวยงาม เพลิดเพลินด้วยการเลือกซื้อสินค้างานทำมือของชาวปะกาเกอะญอหรือชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยงของที่นี่กัน มีทั้งเสื้อกะเหรี่ยงและโดยเฉพาะโมบายทำมือหลากสีสันสดใสสวยงาม ประดับตกแต่งระโยงรยางค์สร้างสีสันให้ตลาดโอ๊ะป่อยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักได้อย่างมาก มีอาหารหลากหลายนั่งแคร่นั่งกินริมลำธารธรรมชาติอย่างมีความสุข เผลอคิดไปว่าตัวเองอยู่เมืองเหนือเลยทีเดียวครับ เสร็จแล้วกลับมาที่พักกินอาหารเช้าแล้วเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ ฟินน์ๆ ดีเหมือนกันนะครับกับทริปเที่ยว “ราด –รี” รอบนี้ แต่ก่อนกลับขอชวนให้แวะอาบน้ำแร่แช่เท้า (ไม่ใช่อาบน้ำแร่แช่น้ำนมนะครับผม อิๆ ) ที่ “น้ำแร่บ่อคลึง” เพื่อสุขภาพกาย สปาวารีบำบัดแบบธรรมชาติจริงๆ สบายกายคลายจุดหยุดเส้นเอ็นยึดตึงกันได้หลังเดินเมื่อยมากันก็มาก
เที่ยวสวนผึ้งสะดวกสบายได้ทั้งการขับรถมาเองหรือมรคนมากก็จัดรถบัสนำเที่ยวหรือรถตู้วีไอพีเหมาเช่าเอาก็ดี วันนี้ผม หนุ่ม’สุทน เขียนเส้นทางท่องเที่ยวราชบุรีให้พอหอมปากหอมคอเท่านี้ก่อนนะครับ ที่เที่ยวสวนผึ้งยังมีอีกมากให้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนกันครับ อ้อ ! กระซิบว่า ตลาดโอ๊ะป่อย มีเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น เปิดตั้งแต่เวลา 06.00 – 14.30 น. นะครับจะบอกให้ “ท่องเที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้ครับ” วันนี้ขอบคุณและสวัสดีครับ
เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม’สุทน รุ่งธัญรัตน์
แฟนเพจเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/
#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว 100.5 fm ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.10 -11.00 น.
#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน