“เล่ห์รักนางโจร” ผลงานของ อาคาเซีย หรือ ยุ้ย – ฤทัยรัตน์ สาเกทอง ปกติกว่าจะได้เจอนักเขียนแต่ละนามต้องใช้เวลา ซึ่งโชคดีนักเขียนท่านนี้ตอบ ‘โอเค’ จากที่ทักขอสัมภาษณ์และเห็นข้อความเร็วก็ยิ้มหน้าบานสิเรา หลังจากอ่านนิยายเรื่องเล่ห์รักนางโจร ความสนุกอยู่ตรงที่ซีคซีดัสถูกเซร่า ที่ชีวิตพลิกผันให้กลายเป็นนางโจรแสนงาม มากด้วยฝีไม้ลายมือ เพราะได้ครูดีอย่าง อินทรีทะเลทราย ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตปล้นหมดเนื้อหมดตัว แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่เหลือ ไม่ค่อยได้เจอนิยายนางเอกเก่ง แต่ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน ฉลาดแค่ไหนก็ยังแพ้ทางให้ชายชาตรีที่มีกำลังมากกว่าและมากเล่ห์อย่างชีคซีดัส พระเอกของเรื่องมีวิธีปราบพยศนางโจรแสนงามอย่างไร? ใครรู้อย่าเฉลยให้แฟน ๆ นิยายทะเลทรายตามหาคำตอบเอาเองนะ ส่วนงานใหม่กำลังเขียนซีรีส์ปล้นรักอสุรา ชื่อเรื่อง ‘อ้อนรักพี่ยักษ์ขา’ เป็นแนวโรแมนติกแฟนตาซี แฟนคลับของนักเขียนคงรอไม่นาน แต่ที่ไม่ต้องรอคือไปทำความรู้จักนักเขียนถึงการก้าวสู่เส้นทางขายฝัน โดยยุ้ยเปิดอกพูดคุยหมดเปลือกว่า…
“จุดเริ่มต้นคือยุ้ยชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็ก ชอบคิด ชอบจิตนาการเป็นเรื่องราว สมัยเรียนชอบสิงอยู่ในห้องสมุด จนวันหนึ่งขณะที่เดินเลือกหนังสืออยู่ในร้านหนังสือ ความคิดหนึ่งเกิดขึ้นมาในหัว ‘อยากมีหนังสือของตัวเองบ้างจัง’ ดูว่ามันเท่ดีนะ จากนั้นก็ลงมือเขียนนิยายฉบับตามใจฉัน ^^ โดยยุ้ยเริ่มต้นหัดเขียนประมาณปี 2549 เป็นช่วงตั้งไข่ ยังไม่รู้เลยว่านิยายเขาเขียนกันยังไง ตอนที่หัดเขียนก็ศึกษาแนวทางการเขียนนิยายจากเว็บ www.forwriter.com ทำความเข้าใจวิธีการเขียน และลงมือเขียนนิยายไปพร้อมกัน แล้วผลงานได้ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 2551 ค่ะ นับนิ้วดูก็สิบกว่าปีแล้วเนอะ นามปากกาที่ใช้มีเยอะมากประมาณ 10 นามปากกา เพราะยุ้ยออกงานกับหลายสำนักพิมพ์ ซึ่งสำนักพิมพ์บางแห่งก็ผูกขาดเรื่องนามปากกา แต่หลัง ๆ วงการวรรณกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยส่งสำนักพิมพ์ก็เปลี่ยนมาจัดทำอีบุ๊กเอง ตอนนี้เหลือเพียง 4 นามปากกา มี อาคาเซีย สลิลโรส แวววิวาห์ ผิงอัง ค่ะ ซึ่ง ‘อาคาเซีย’ เป็นนามปากกาแรกที่แจ้งเกิด จะเขียนแนวทะเลทรายเป็นส่วนใหญ่ค่ะ มีโรแมนติกร่วมสมัยบ้าง ส่วน ‘ผิงอัง’ จะเขียนแต่นิยายรักจีนโบราณล้วน ๆ เรื่องที่มีหลายเฟซ หลายนามถามว่าไม่กลัวนักอ่านสับสนบ้างเหรอ สำหรับยุ้ยแต่ละนามปากกา งานเขียนจะเป็นคนละประเภทกัน ยุ้ยจึงแยกประเภทให้ชัดเจนไปเลย ทั้งนี้ก็เพื่อให้เพื่อนรักนักอ่านได้ตามงานเขียนได้สะดวกขึ้นค่ะ
ส่วนของข้อมูลการค้นหามาเขียนทะเลทรายกับจีนโบราณแตกต่างกันมากค่ะ เราต้องศึกษาเรื่องขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ อาหารการกิน วิถีชีวิตของผู้คนในยุคนั้นให้เข้าใจก่อนถึงจะลงมือเขียนได้ ที่ชัดเจนเลยคือเรื่องรูปร่างหน้าตาของตัวละคร พระเอกของทั้ง 2 แนวหน้าตาต่างกันมากค่ะ โดยส่วนตัวยุ้ยชอบพระเอกแนวทะเลทรายมากกว่า ชอบผู้ชายคมเข้ม (-..-) นอกจากการอ่าน การค้นคว้าแล้ว การดูซีรีส์ก็ช่วยได้มาก สำหรับยุ้ยข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่าแนวทะเลทรายจะหายากกว่า ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นแนวสารคดี พวกหนังซีรีส์เกี่ยวกับทะเลทราย หากเทียบกับซีรีส์จีนแล้ว หนังจีน ซีรีส์จีนมีให้ดูเยอะกว่า และในเรื่องการใช้ภาษาในการบรรยายแตกต่างกันพอควร นิยายทะเลทรายเราสามารถเขียนเป็นแนวร่วมสมัยได้ ส่วนนิยายจีนโบราณนั้นเราต้องใช้ศัพท์ภาษาให้เข้ากับยุคนั้นค่ะ ยกเว้นแต่เราข้ามเวลาไป แต่ถามความยากของแนวทะเลทรายและจีน ที่เห็นชัดเลยคือชื่อตัวละคร ชื่อของสถานที่ค่ะ หากชื่อยาว ๆ ออกเสียงยาก ๆ บางครั้งก็จำชื่อตัวละครหรือสถานที่ไม่ได้ ^^ ที่ผ่านมาออกผลงานทะเลทรายมีทั้งหมด 14 เรื่องค่ะ เรื่องที่สร้างชื่อคือ มนต์ทรายใต้เงารัก และ มายาทรายใต้แสงจันทร์ นิยายทั้งสองเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์ซ้ำ และได้รับ BestSaller ตอนจัดทำเป็นอีบุ๊กกับสำนักพิมพ์ค่ะ และยุ้ยแจ้งเกิดกับ ‘เจ้ากาเรม’ ค่ะ นิยายรักโรแมนติกทะเลทรายเรื่อง มนต์ทรายใต้เงารัก นามปากกา อาคาเซีย ถามว่ายุ้ยวางเขียนนิยายปีนี้หรือแต่ละเดือนอย่างไร ส่วนใหญ่เขียนแบบตามใจฉันมากกว่าค่ะ นึกอยากจะเขียนอะไรก็เขียน ไม่มีแบบแผนอะไรมากมาย แต่เมื่อลงมือเขียนเรื่องใดแล้ว เป้าหมายมีแค่ต้องเขียนให้จบเท่านั้น ^^
ตอนนี้โควิด 19 กลับมาระบาดซ้ำ ยุ้ยคิดว่าทุกอาชีพได้รับผลกระทบแน่นอน แต่อาชีพนักเขียนนั้นสามารถทำงานอยู่กับบ้านได้ เราได้เปรียบตรงนี้ (ปกติก็ทำงานอยู่บ้านซะเป็นส่วนใหญ่) หากเรามีวินัย ใช้จ่ายอย่างประหยัด รัดเข็มขัดสักนิด ยุ้ยเชื่อว่าสามารถผ่านพ้นวิกฤตสงครามไวรัสในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอนค่ะ ในเรื่องของการวางแผนออกนิยายเมื่อก่อนวางเป้าหมายไว้ว่าเขียนให้จบ 2 เดือน 1 เรื่อง ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากมีนิยายเป็นของตัวเองจำนวน 200 เล่ม แต่หลังจากที่กลายมาเป็นคุณแม่ ยุ้ยต้องแบ่งเวลาทำงานไปดูแลลูก การทำงานหลังคลอดค่อนข้างยืดหยุ่นอยู่พอสมควร ยุ้ยไม่ตีกรอบเรื่องเวลาการทำงานมากนัก ระยะหลังจึงมีงานออกไม่ค่อยถี่ (ไม่รู้เพื่อน ๆ นักอ่านลืมนักเขียนคนนี้แล้วหรือยัง)
จากที่แนวทะเลทำให้อาคาเซียแจ้งเกิด ยุ้ยก็มาเขียนแนวจีนโบราณก็มีแฟนคลับเพิ่มค่ะ ตอนนี้กระแสนิยายจีนกำลังมาแรง พอเราหันมาเขียนตรงนี้ ลงเนื้อหานิยายให้อ่านถี่ขึ้น ก็มีนักอ่านใหม่ ๆ มาเป็นแฟนคลับมากขึ้นค่ะ แม้แนวนิยายจีนมาแรงแต่แนวทะเลทรายก็ยังได้รับการต้อนรับอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ มีกลุ่มนักอ่านที่ชื่นชอบนิยายทะเลทรายโดยเฉพาะ พระเอกแนวนี้จะต้องหล่อคม ดุ ๆ โหด ๆ นิดนึง แนวท่านชีคถึงจะโดนใจนักอ่านค่ะ
นอกจากอีบุ๊กแล้วยุ้ยมีนิยายเสียงค่ะ ตอนนี้มีผลงานวางแล้ว 1 เล่ม คือเรื่อง โอบรักด้วยรัก (ซีรีส์พี่ชายข้างบ้าน) นามปากกา สลิลโรส ส่วนเรื่องที่ 2 คือเรื่อง เมื่อรักมาแนบใจ นามปากกา สลิลโรส กำลังอยู่ในช่วงจัดทำค่ะ คำถามที่ว่าจากที่คนหันมาเขียนนิยายกันมากขึ้น ตัวนักเขียนต้องปรับตัวไหม สำหรับยุ้ยการเขียนนิยายเราไม่ได้แข่งกับใครเลย นอกจากแข่งกับตัวเราเอง สิ่งสำคัญต้องเอาชนะความขี้เกียจของตัวเองให้จงได้ การรักษามาตรฐานงานเขียนของเราไว้ และออกงานให้สม่ำเสมอเพื่อน ๆ นักอ่านจะได้ไม่ลืมเราค่ะ
ผลงานล่าสุดเป็นนิยายจีนโบราณเรื่อง “เพียงเงาข้างใจ” นามปากกา ผิงอัง ค่ะ หากนักอ่านต้องการติดตามผลงานได้ที่แฟนเพจ อาคาเซีย สลิลโรส เลยค่ะ https://www.facebook.com/Rcasia.author/
หรือเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/rcasia.marora
ตอนนี้กำลังเขียนซีรีส์กับพี่สาวค่ะ ซีรีส์ปล้นรักอสุรา ชื่อเรื่อง อ้อนรักพี่ยักษ์ขา เป็นแนวโรแมนติกแฟนตาซีค่ะ สำหรับเส้นทางนี้ก็ผ่านมา 1 ทศวรรษบนเส้นทางวรรณกรรม เป็นอะไรที่ยาวนานและมาไกลเกินความฝันของยุ้ยมาก ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ นักอ่านทุกท่าน พี่บก. สำนักพิมพ์ทุกแห่งที่ยุ้ยเคยร่วมงานด้วย หากไม่ได้รับการสนับสนุนตั้งแต่เริ่มต้น นักเขียนโนเนมคนนี้คงไม่มีโอกาสได้มาไกลถึงเพียงนี้ ขอบคุณพี่ลูกน้ำที่สัมภาษณ์นักเขียนคนนี้ ขอบคุณทุกตัวอักษร ที่ทำให้เรามาพบกัน รักนักอ่านทุกท่านค่ะ”
เฉลยคำถามทำมือเล่มแรกของ“MISSTY/ 楚金” : ภพรัก ณ ศาลเจ้า
คำถามผลงานทะเลทรายของ“อาคาเซีย” มีทั้งหมดกี่เรื่อง?
ทราบคำตอบ เขียนชื่อ – ที่อยู่ และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่
เปิดปก…อกนักเขียน
เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ผู้ตอบถูก 2 ท่าน ได้รับอีบุ๊กจาก อาคาเซีย สลิลโรส แวววิวาห์ ผิงอัง (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)
หมดเขตส่งคำตอบ 30 พฤศจิกายน 2563