แกะซีลหนังสือใหม่
“คุณเควิน นั่นดอกไม้หนูนะคะ”
ใครจะไปคาดคิดว่าผู้หญิงใส่แว่นหน้าตาธรรมดา จะทำให้ผมคลั่งได้ขนาดนี้ ไม่ได้คลั่งธรรมดา แต่เป็น ‘คลั่งรัก’ ทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัด ติดในใจในรสชาติขนมที่เธอทำแถมยังติดใจในกลิ่นกายของเธออีกด้วย กลายเป็นผู้ชายที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์แย่งเธอไปจากผม
“ของเธอหรือ?”
“ใช่ค่ะ”
“หืม ลืมอะไรไปหรือเปล่าอิงดาว”
“….”
“เธอเป็นของฉัน ร่างกายและหัวใจเธอก็เป็นของฉัน”
“เพราะฉะนั้น ดอกกุหลาบของเธอก็เป็นของฉัน ฉันจะทำอะไรกับมันก็ได้” ผมแค่หักดอกกุหลาบที่ผู้ชายคนอื่นให้ แล้วทิ้งลงถังขยะมันผิดตรงไหนในเมื่อเธอ… เป็นของผม
“สุขสันต์วันเกิดค่ะ” เป็นเงินเก็บที่เธอหยอดกระปุกแยกไว้ต่างหาก ของในกล่องอาจไม่ได้มีราคาอะไรมากมายแต่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่นอนคิดมาเป็นอาทิตย์
พันวา ยังคงนิ่งมองของในมือ พุดตาน แววตาเรียบเฉย การที่เขายังยืนอยู่ตรงนี้เพียงเพราะอยากเคลียร์ปัญหาบางอย่างก็เท่านั้น
กับบางเรื่องเราควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไม่ใช่หรือ ?
“เธออยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว”
พุดตานหดมือกลับเข้าตัวเมื่อเขาไม่แม้แต่จะยื่นมือออกมารับของขวัญ ไม่แม้แต่จะสนใจมันด้วยซ้ำ กระนั้นรอยยิ้มบนใบหน้ายังคงแต่งแต้มอยู่เสมอ
“สิบกว่าปีได้แล้วค่ะ” เธอถูกแม่นำมาทิ้งไว้ที่นี่
“นานอยู่เหมือนกัน” พันวาใช้ที่คีบหยิบชิ้นเนื้อย่างลงบนตะแกรง มุมปากหยักเหยียดยิ้มก่อนเหลือบมองเธอเล็กน้อย “นานพอที่เธอจะล้ำเส้นขึ้นมากเรื่อยๆ”
“พี่เดียวหมายถึงอะไรคะ”
“อย่าคิดว่าฉันมองไม่ออกว่าเธอคิดจะทำอะไร” เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะตีความหมายทางสายตาของผู้หญิงคนหนึ่งไม่ออก
“เธอเป็นใคร แล้วฉันเป็นใคร เตือนใจตัวเองด้วยพุดตาน”
ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาและเธอก็ไม่อาจหลีกหนีหัวใจตัวเองได้
“ที่กุ๊กต้องอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพราะแผนการของพี่เสือหรือไงคะ”
“รู้มั้ย…พี่ชอบผู้หญิงที่รู้ทัน” ริมฝีปากหนายกยิ้ม “มีเสน่ห์ดี”
“ก็เพราะท่าทีแบบนี้ไง” กชกร ใช้สายตาปรามการกระทำของอีกฝ่าย ดูเหมือนเขาจะชอบใจที่ได้เห็นเธอออกอาการฮึดฮัด
“กุ๊กไม่ค่อยโอเคกับผู้ชายเจ้าชู้ค่ะ”
“ไม่ได้เจ้าชู้” ปากปฏิเสธแต่เสียงแผ่วเสียอย่างนั้น
“ไม่เคยคบใครเป็นตัวเป็นตนด้วยซ้ำ”
“ถนัดกินไปเรื่อยเหรอคะ” เธอถามตรงๆ
“มันเป็นข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย ไม่มีข้อผูกมัด”
เพราะไม่อยากมีบ่วงรั้งคอ อันที่จริงเขาไม่พร้อมจะมีคนข้างกายแบบจริงจังด้วย แต่กับกชกรนี่อาจเป็นอะไรที่แตกต่างจากคนอื่น
“คุณก็พูดได้ซิ คุณไม่ได้รักผมด้วยชีวิตอย่างที่ผมรักคุณนี่ คุณคิดว่าผมรู้สึกยังไง กลัวแค่ไหนที่รู้ว่าคุณออกมาข้างนอกโดยไม่มีคนติดตาม คุณไม่รู้หรอกว่าผมเหมือนจะขาดใจตายที่รู้ว่าคุณอยู่ในอันตราย ทั้งที่ผมรักคุณหมดหัวใจแต่คุณไม่เคยเห็นค่ามันเลย ความรักของผมเป็นแค่เศษเถ้าธุลีในสายตาคุณ ที่คุณยังอยู่ข้างผมเพราะผมบังคับคุณ เอาครอบครัวของคุณเป็นตัวประกันให้คุณอยู่กับผมไง คุณถึงยอมทิ้งความรู้สึกผมออกมาช่วยเพื่อนคุณแบบนี้โดยไม่บอกผม”
วรงค์สิริ เจ็บหน่วงที่หัวใจ การที่เธอไม่เคยบอกความรู้สึกให้เขารู้ เป็นการทำร้ายเขามากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ เธอไม่ได้อยู่กับเขาด้วยเหตุผลเหมือนเมื่อแรก แต่เธออยู่กับเขาด้วยความเต็มใจ เธอฉวยคว้ามีดพกจากบอดี้การ์ดของชายหนุ่มมาถือเอาไว้ แล้วใช้มีดคมตัดฉับ!
“คุณทำบ้าอะไร?” น้ำเสียงห้วนกระชากด้วยความเกรียวกราดปนกับความตระหนก
“ตัดผมที่คุณวัชคิดว่าวรรณรักมันหนักหนาไง ไม่มีอะไรที่วรรณจะรักเท่ากับคุณหรอก วรรณผิดที่ไม่เคยบอกคุณ เพราะคิดว่าสิ่งที่วรรณทำอยู่จะทำให้คุณรู้ว่าวรรณรักคุณ การที่เราอยู่ด้วยกันมาขนาดนี้ วรรณไม่คิดเลยว่าคุณจะงี่เง่าคิดว่า วรรณไม่รัก คิดว่าวรรณจำใจอยู่กับคุณ ถ้าวรรณไม่รักวรรณจะสนใจจะตามใจคุณอย่างนั้นหรือ จะยอมทำตามที่คุณบอกไหม ต้องเจ็บตัวฝืนใจทำตั้งมากมาย คิดว่าถ้าวรรณไม่เต็มใจ วรรณจะพยายามทำเรื่องพวกนั้นทำไม คุณมันงี่เง่า ฉันโกรธคุณมากและจะไม่ยกโทษให้ง่ายๆ เด็ดขาดเลย…” ศิวัช ตะลึงงันก่อนจะปล่อยมือจากร่างของมือปืน รีบตรงเข้าไปกอดปลอบภรรยาอย่างแสนรัก
“ผมขอโทษ ผมมันงี่เง่าเอง ทูนหัวอย่าโกรธนะครับ คุณวัชจะไม่งี่เง่าแบบนี่อีกเด็ดขาดนะครับผมขอโทษ ยกโทษให้ผมนะครับ…เมียจ๋า”
“ฝ่าบาท”
“ยังจำผมได้หรือฟาร่าห์ คุณยังจำสามีที่คุณทิ้งมาอย่างไม่ไยดีได้อีกหรือ”
“ฝ่าบาทต้องการอะไร” หญิงสาวขยับถอยหนีด้วยความหวาดหวั่น กับสายพระเนตรกระด้างกร้าวที่ทอดมา
“คุณทำกับผมอย่างนี้ได้ยังไง ใจคอคุณจะพรากลูกไปจากผมอย่างนั้นหรือ” เจ้าชายอัลมาส ตวาดลั่นด้วยพระทัยแหลกยับ จำได้ไม่ลืมกับวินาทีที่ทรงทราบว่าเธอท้อง ภาพของเธอทุกภาพไม่ต่างจากน้ำกรดที่สาดรดพระทัยให้เจ็บปวดจนแทบขาด
“เขาเป็นลูกของหม่อมฉันคนเดียว” ในที่สุดสิ่งที่เธอกลัวก็เกิดขึ้นจนได้ เจ้าชายอัลมาสกำลังจะพรากลูกไปจากเธอ
“หึ…คุณทำลูกคนเดียวได้ที่ไหนฟาร่าห์ ฝีมือผมทั้งนั้น” ตรัสเยาะพร้อมกับสาวพระบาทเข้าไปใกล้พระชายา
“ถอยออกไปนะ…เราหย่ากันแล้ว ฝ่าบาทไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับหม่อมฉัน”
“หย่าหรือ…เราไม่เคยหย่ากันเลยพระชายาที่รัก…ใบหย่าของคุณผมฉีกมันทิ้ง แล้วก็เผามันไม่ให้เหลือซาก ตั้งแต่วันที่ท่านนายพล พ่อของเราเอามาให้ผมแล้ว นี่ทุกคนรวมหัวกันหลอกคุณหรือ…ว่าผมยอมหย่ากับคุณง่ายๆ” ฟาร่าห์ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้รู้
ชีวิตแต่งงานของ อริสตา ล้มเหลวไม่เป็นท่า และด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีคุณค่า เธอจึงใช้เวลากับงานที่ตัวเองรักและไม่คิดให้หัวใจกับผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น จนกระทั่ง หรัญญ์ หวนมาพร้อมกับทุ่มเทให้กับเรื่องความรักอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง ทว่ามันไม่ได้ง่ายดายเหมือนที่คิดไว้เลย… เพราะตอนนี้เธอปักใจเชื่อว่าเขาเป็นผู้ชายเฮงซวยไปซะแล้ว
“บัดซบ! คุณท้องเหรอริตา… คุณท้องได้อย่างไร”
เธอมองหน้าเขาด้วยแววตาจริงจัง และแววตาของเธอนี่แหละที่ทำให้อารมณ์เขาขาดผึง
“โอ้ พระเจ้า! ผมไม่พร้อม… ผมไม่อยากมีลูก ไม่อยากมีแม้แต่ในความคิด แล้วนี่คุณกินยาคุมห่าเหวอะไรของคุณถึงปล่อยให้ท้องแบบนี้ฮะ”
“ฉัน… ไม่รู้…”
“นรกเฮ้ย ผมแต่งงานกับคุณได้ยังไง แค่การคุมกำเนิดขั้นพื้นฐานคุณก็ไม่ประสีประสา… ทำไมคุณถึงได้โง่ซ้ำซากอย่างนี้…”
เมื่อถูกบังคับให้รีบแต่งงานมีหลานให้อุ้ม ท่านรองประธานสายฟ้า นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงจึงคิดหาทางออกที่จะทำให้ เจ้าสัว ผู้เป็นพ่อไม่เข้ามาวุ่นวายกับเขาอีกต่อไป สัญญาพิศวาสระหว่างเขา กับ นิริน ลูกจ้างสาวจึงเกิดขึ้นแบบปุ๊บปั๊บไม่ทันตั้งตัว เขามีหน้าที่ทำลูก ส่วนเธอมีหน้าที่รับจ้างท้องและยกลูกให้กับตระกูลของมหาเศรษฐีแลกกับเงินสี่สิบล้าน อะไรๆมันเหมือนจะลงตัวด้วยดีอยู่แล้ว ถ้านิรินเพียงแต่ทำตามสิ่งที่สัญญากำหนดไว้ทุกประการ
แต่ทว่า…นับวัน สัญชาตญาณความเป็นแม่กลับมีอิทธิพลมากกว่า แล้วทีนี้ นิรินจะตัดสินใจอย่างไร ระหว่าง ลูก หรือ เงิน เธอควรจะเลือกสิ่งใดดี…
เขาคือคนที่ทิ้งฉันไปอย่างไม่มีเยื่อใย…ฉันเจ็บเจียนตายเพราะเขา และฉันก็จะทำให้เขาเจ็บเจียนตายแบบที่ฉันเคยเป็นให้ได้!!!
“ฉันแค่มาบอกให้เราสองคนเลิกยุ่งเกี่ยวกันน่ะ เธอไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
“ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว แล้วฉันก็จริงจังกับคนนั้นมาก”
“จริงจังกับเขามาก…อย่างนั้นเหรอคะ”
“อืม”
คำพูดในอดีตมันลอยวนเข้ามาในหัวของฉัน ฉันจำได้หมดทุกอย่างว่าวันนั้นพี่เจฟพูดอะไรกับฉันไว้บ้าง
ตอนนั้นฉันเฉิ่ม เชย ไม่เป็นที่สนใจของใคร แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันเปลี่ยน เพราะฉันอยากทำให้ผู้ชายใจร้ายคนนั้นได้รับรู้ว่าอาการเจ็บเจียนตายมันเป็นยังไง
“จีบได้ค่ะพี่ หนูไม่มีแฟน”
“มีแต่ผัวอ่ะครับ กล้าจีบก็ลองดู”
“นายต้องการอะไรจากฉันอีก อยากจะไปฉันก็หลีกทางให้แล้ว แล้วนายยังจะมายุ่งกับฉันอีกทำไม?” ฉันเอ่ยถามผู้ชายที่เป็นคนบอกให้พวกเราสองคนจบความสัมพันธ์ลงเมื่อหลายเดือนก่อน
เมื่อแปดเดือนก่อนเขาเป็นคนบอกว่าฉันมันน่าเบื่อ เขาเบื่อทุกอย่างที่เป็นฉัน แล้วทำไมหลายวันมานี้เขาถึงได้ตามติดฉันเป็นเงาตามตัวแบบนี้ ฉันเองก็ไม่เข้าใจ
“ฉันต้องการเธอ กลับมาคบกันเถอะหนึ่ง ฉัน…คิดถึงเธอ”
เหอะ!! คิดถึงฉัน ต้องการฉันอย่างนั้นหรอกเหรอ?
เป็นเขาเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนอยากไปจากฉัน ช่วงที่ฉันทรมานแทบเป็นแทบตายจนต้องไปง้อเขา เขาเองก็เป็นคนปฏิเสธฉันเองไม่ใช่หรือไง
กว่าฉันจะเข้มแข็งได้อย่างทุกวันนี้ กว่าจะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากขนาดนั้นมาได้ ฉันต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหน เขาไม่เคยรู้ ไม่เคยรับรู้ ไม่เคยจำมันใส่สมองด้วยซ้ำว่าทำอะไรไว้บ้าง อยู่ๆเขาจะมาบอกให้ฉันกลับไปคบกับเขา มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ??
‘หายนะ’ เสียงระเบิดดังขึ้นในหัวของคนทั้งคู่ สารวัตรเหอและหมวดหลิน หันมามองหน้ากัน ต่างก็มีสีหน้ากระอักกระอ่วน
“ก็แค่ต้องจูบกันตามธรรมเนียม” สารวัตรเหอบอกกับหมวดหลิน หญิงสาวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะปรับอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติ
“รีบทำให้เสร็จ ๆ ไป” หมวดหลินตอบกลับ
เขาถึงกับอึ้งไปพักใหญ่แต่แล้วก็คิดได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวินาทีนี้มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น
‘ผลประโยชน์ร่วมกัน’
ว่าแล้วก็รวบตัวเจ้าสาวเข้าสู่อ้อมกอด พร้อมกับประทับริมฝีปากลงบนเรียวปากนุ่มนิ่มแต่เย็นชืด ตั้งแต่ต้นจนจบทั้งหนักแน่นรุนแรงไร้ซึ่งการทะนุถนอม
ภาพเบื้องหน้าที่เห็น เจ้าบ่าวและเจ้าสาวคู่นี้ช่างร้อนแรงกันเสียจริง หนึ่งคือ หมวดสาวผู้เก่งกาจ… หนึ่งเป็น พยัคฆ์ร้ายมากแผนการ…
ปริศนาคดีร้ายที่ซุกซ่อนอยู่จะถูกคลี่คลายลงอย่างไร แล้วพวกเขาจะสืบหาฆาตกรได้หรือไม่ ร่วมก้าวเข้าสู่โลกแห่งการไขคดีอันลึกลับซับซ้อนและตื่นเต้นเหนือจินตนาการไปกับสารวัตรเหอและหมวดหลิน