สถานีตำรวจภูธรคูคต สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มีพื้นที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า ถนนลำลูกกา ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ปัจจุบัน มี พันตำรวจเอก เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ เป็นผู้กำกับการ ดูแลรับผิดชอบ
พื้นที่ สภ.คูคต และพื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบ ปัจจุบันมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ปัญหาการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ จึงมีเพิ่มมากขึ้น
พันตำรวจเอก เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรคูคต ห่วงใยประชาชน และได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการใช้ชีวิตประจำวันอยู่แล้ว หากรถจักรยานยนต์ของตนถูกโจรกรรม ก็จะกระทบการดำรงชีวิตอย่างมาก
สภ.คูคต จึงได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบและรู้เท่าทันคนร้าย เพื่อเพิ่มความระมัดระวังรถจักรยานยนต์ ไม่ให้ถูกโจรกรรมโดยง่าย โดยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้
- ล็อคคอรถจักรยานยนต์, ล็อคดิสเบรก (Disc Brake), ล็อคสายยู, ล็อคโซ่รถกับเสา ต้องล็อคทุกครั้งที่จอด
- ถอดกุญแจ ปิดรูกุญแจทุกครั้งที่จอด นำกุญแจติดตัวเสมอ เก็บกุญแจไว้ภายในบ้านเท่านั้น
- ขณะจอดลงไปซื้อของ จะต้องดับเครื่อง ถอดกุญแจ ปิดรูกุญแจทุกครั้งที่จอด นำกุญแจติดตัวเสมอ ถึงแม้จะแค่หันหลังให้ก็ตาม เพราะคนร้ายอาจจะรอจังหวะขโมยรถจักรยานยนต์ ขึ้นขี่รถขณะที่เผลอหรือหันหลัง
- สำหรับรถยนต์ ต้องติดตั้งสัญญาณกันขโมย สัญญาณจีพีเอส ติดตั้งระบบล๊อคเบรก ล็อคคลัตซ์ ที่มีประสิทธิภาพสูง
- จดจำ จดบันทึก ทะเบียนรถ-ตัวถังรถ ถ่ายภาพตำหนิรูปพรรณ ลักษณะพิเศษของรถ สำเนาทะเบียนรถ ติดตัวด้วยทุกครั้ง หากเกิดเหตุจะได้แจ้งรถหายได้ทันที
- จอดรถแล้วถ่ายรูปไว้ทุกครั้ง จะได้รู้จุดหายที่แท้จริง
- สถานที่จอดรถ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ ไม่ควรจอดรถในสถานที่ลับตาคน ควรจอดในสถานที่มีคนพลุกพล่าน เพราะมีคนเดินผ่านตลอดเวลา ทำให้คนร้ายไม่กล้าลงมือโจรกรรมรถ หรือไม่สะดวก ยากต่อการทำงาน
- จอดในสถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยที่ดี มีกล้องวงจรปิด สถานที่ใกล้เคียงมีกล้องวงจรปิด
- ไม่จอดรถ หรือหลีกเลี่ยงจอดรถในสถานที่ลับตาคน สถานที่เปลี่ยว ที่มืด สถานที่ที่มีแสงสว่างน้อย
- จอดรถไว้ข้างบ้าน หน้าบ้าน และในบ้าน ต้องล็อครถให้ดีทุกครั้ง ควรมีกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน บริเวณรอบบ้าน และภายในบ้าน กุญแจจะต้องเก็บไว้ภายในบ้านทุกครั้ง
11.จอดรถหน้าร้านหรือใกล้ร้านสะดวกซื้อ หรือสถานที่พักอาศัยที่มีกล้องวงจรปิด หรือใกล้สถานที่ที่มีกล้องวงจรปิด หากรถหาย จะได้มีหลักฐานกล้องวงจรปิด
- ติดตั้งอุปกรณ์ เพื่อลดการถูกโจรกรรม มากกว่า 1 อย่าง เช่น
12.1 โซ่คล้องล็อคกับเสา จะป้องกันได้ระดับหนึ่ง
12.2 กุญแจสำหรับล็อคดิสเบรก (Disc Brake) มีประสิทธิภาพดีกว่าโซ่ เพราะใช้วัสดุป้องกันการโจรกรรมที่แข็งแรงโดยเฉพาะ ทนทานกว่า ถึงแม้จะป้องกันไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ่วงเวลาการโจรกรรมได้ ทำให้สร้างความยากลำบากให้กับคนร้ายได้เป็นอย่างดี ซึ่งอาจจะเปลี่ยนใจไม่โจรกรรม หรือโจรกรรมไม่ได้
12.3 ติดตั้งสัญญาณกันขโมย ติดตั้งสัญญาณจีพีเอส จะได้ผลดีมาก เพราะหากมีคนเข้าใกล้ หรือทำให้รถเคลื่อนที่หรือสั่นสะเทือน หรือใครมาทำอะไรกับรถ สัญญาณกันขโมยจะส่งเสียงร้องเตือนทันที จะทำให้คนร้ายตกใจ ไม่สามารถโจรกรรมต่อไปได้ ทำให้ล้มเลิกการโจรกรรมและหนีไปทันที ทันที
12.4 ทำประกันรถ โดยไม่ถือว่าเป็นการป้องกันการโจรกรรมซะทีเดียว แต่ก็ถือว่าช่วยเราได้ไม่มากก็น้อย
กรณีรถหาย แจ้งที่ไหน จับได้รวดเร็ว
หากรถหาย หรือถูกคนร้ายโจรกรรมขึ้นมา โปรดแจ้งที่
1.สถานีตำรวจภูธรคูคต โทร.02-531-8999, 086-305-7434 และต้องรีบไปแจ้งความทันที
2.โทร.แจ้งสายด่วนได้ทันที ที่ศูนย์แจ้งเหตุรถหาย โทร.1192 ตลอด 24 ชม. ศูนย์ปราบปรามโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) เพื่อทางศูนย์ฯ จะได้แจ้งและกระจายข้อมูลรถหาย ไปยังเครือข่ายต่างๆ โดยเร็วที่สุด เพราะหากช้า รถของท่านอาจจะถูกนำไปซุกซ่อน เปลี่ยนป้ายทะเบียน ชำแหละถอดแยกชิ้นส่วน ดัดแปลงสภาพ ถูกนำไปขายต่อ หรือนำออกไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านภายในไม่กี่ชั่วโมง
3.โทร.191, สถานีวิทยุ สวพ.91, จส.100, ร่วมด้วยช่วยกัน, เพจ Facebook-รถหาย, พร้อมทั้งศูนย์วิทยุ มูลนิธิต่างๆ สมาคม และชมรมรถรับจ้างสาธารณะ เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกทางหนึ่งด้วย
4.ต้องเตรียมข้อมูลและหลักฐานการแจ้งรถหายไว้ให้พร้อมเสมอ เช่น ชื่อ-นามสกุล, เลขบัตรประชาชน 13 หลัก, กรุ๊ปเลือด, ยี่ห้อรถ รุ่นรถ สีรถ หมายเลขทะเบียนรถ-ตัวถังรถ ถ่ายภาพตำหนิรูปพรรณ ลักษณะพิเศษของรถ สำเนาทะเบียนรถ จึงจำเป็นต้องมีติดตัวด้วยทุกครั้ง ซึ่งมีความสำคัญมากๆ หากเกิดเหตุจะได้แจ้งรถหายได้ทันที และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบว่ามีตัวตนจริงหรือไม่ จะได้แจ้งสกัดจับ และติดตามจับคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด ด่านทั่วประเทศจะได้สกัดจับได้ทันที
นอกจากนี้ ทาง สภ.คูคต ยังมีโครงการ ตำรวจล็อครถให้ เมื่อพบว่า รถจักรยนต์ที่จอดในจุดเสี่ยง แล้วไม่มีการล็อคคอหรือล็อคเพิ่มเติม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะไปล็อครถให้แล้วทิ้งเบอร์โทรไว้ เมื่อเจ้าของรถกลับมา ก็สามารถโทรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาปลดล็อคให้ทันที