อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณ…เป็นคุณ? “Soul” ภาพยนตร์เรื่องใหม่เอี่ยมจากพิกซาร์ แอนิเมชั่น สตูดิโอส์ จะแนะนำให้เราได้รู้จักกับ โจ การ์ดเนอร์ (พากย์เสียงโดย เจมี่ ฟ็อกซ์) ครูผู้ควบคุมวงดนตรีระดับชั้นมัธยม ผู้หลงรักแจ๊สแบบเข้าเส้น “โจต้องการจะเป็นนักเปียโนแจ๊สมืออาชีพเหนือสิ่งอื่นใดครับ” ผู้กำกับพีท ด็อกเตอร์กล่าว “ดังนั้น เมื่อเขาได้รับโอกาสทองครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้เล่นกับวงดนตรีในตำนาน โจก็รู้สึกว่าเขาได้มาถึงฝั่งฝันแล้ว”
แต่ความผิดพลาดเล็ก ๆ เพียงข้อเดียวก็นำพาเขาจากท้องถนนในนิวยอร์ก ซิตี้ไปสู่นครก่อนเกิด สถานที่สุดวิเศษ ที่ซึ่งวิญญาณเกิดใหม่จะได้รับบุคลิก นิสัยแปลก ๆ เฉพาะตัวและสิ่งที่พวกเขาสนใจก่อนที่พวกเขาจะไปยังโลกมนุษย์ ด็อกเตอร์กล่าวว่า ไอเดียเกี่ยวกับโลกที่แปลกพิเศษนี้เกิดขึ้นมานานถึง 23 ปีแล้ว “มันเริ่มต้นขึ้นจากลูกชายของผม ที่ตอนนี้อายุ 23 ปีแล้ว คือทันทีที่เขาเกิดมา เขาก็มีบุคลิกของตัวเองแล้ว” ด็อกเตอร์เล่า “แล้วมันมาจากไหน ผมเคยคิดว่าบุคลิกของคุณจะพัฒนาขึ้นจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างคุณกับโลกใบนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าเราทุกคนล้วนแล้วแต่เกิดมาด้วยความรู้สึกเฉพาะตัวอย่างสุดพิเศษที่ว่าตัวเราเองเป็นใคร
“ในเรื่องราวของเรา ทุกคนเกิดมาพร้อมกับดวงวิญญาณทั้งนั้น” ด็อกเตอร์กล่าวต่อ “และดวงวิญญาณก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นแบบไม่ได้เตรียมตัว พวกเขาได้รับการฝึกฝนมาและได้รับทั้งบุคลิกและสิ่งที่พวกเขาสนใจครับ”
อย่างไรก็ดี โจ การ์ดเนอร์รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ควรที่จะอยู่ในดินแดนของพวกดวงวิญญาณใหม่นี้ ด้วยความตั้งใจที่จะกลับไปสู่ชีวิตเดิมของตัวเองอีกครั้ง เขาได้ร่วมมือกับวิญญาณจอมแก่แดด ทเวนตี้ทู (พากย์เสียงโดย ทีน่า เฟย์) ผู้ไม่เคยเข้าใจถึงมนตร์เสน่ห์ของประสบการณ์แบบมนุษย์เลย “บางครั้ง ดวงวิญญาณก็เจอปัญหาเล็ก ๆ ในการตามหาประกายชีวิตพิเศษที่จะผลักดันพวกเขาไปสู่โลกน่ะครับ” ผู้กำกับร่วม เคมป์ พาวเวอร์สกล่าว “ที่ปรึกษาของนครก่อนเกิดได้ระดมเหล่าพี่เลี้ยงมาช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับดวงวิญญาณเหล่านี้ บรรดาคนพิเศษที่ไม่ธรรมดาในประวัติศาสตร์เช่น อับราฮัม ลินคอล์น และมันก็ได้ผลสำหรับวิญญาณทุกดวงยกเว้น ทเวนตี้ทู ผู้เป็นเหมือนเด็กโตเจ้าอารมณ์นิด ๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตัวเธอไม่ได้มีความปรารถนาอยากจะไปโลกเลยซักนิด”
โจได้มาเป็นพี่เลี้ยงคนถัดไปของ ทเวนตี้ทู โดยไม่ได้ตั้งใจและเขาก็คิดได้ว่าถ้าเขาช่วยเธอได้ บางที เขาก็อาจจะกลับไปโลกได้ทันเวลางานแสดงครั้งใหญ่ของเขา “เขาคิดว่าสิ่งที่เขาต้องทำมีเพียงแค่ช่วยเธอในการตามหาประกายชีวิต สิ่งที่จะทำให้การมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องคุ้มค่า” ผู้อำนวยการสร้างดาน่า เมอร์เรย์กล่าว “เขาคิดว่านั่นเป็นเรื่องง่าย มันก็เหมือนกับความรักในแจ๊ส ซึ่งดูจะเป็นเรื่องที่ชัดเจนเหลือเกินสำหรับเขา”
แต่ในขณะที่โจดิ้นรนที่จะทำให้ ทเวนตี้ทู ได้เห็นว่า การมีชีวิตอยู่มันยอดเยี่ยมอย่างไร เขาก็อาจจะได้ค้นพบคำตอบสำหรับคำถามที่เขาเองก็ไม่เคยคิดจะถามด้วยซ้ำเกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง หัวหน้าฝ่ายเรื่องราว คริสเตน เลสเตอร์กล่าวว่า “อะไรที่ทำให้ชีวิตมีความหมายกันล่ะคะ ใช่ความสัมพันธ์ที่คุณมีรึเปล่า เกี่ยวกับการมีตัวตนอยู่รึเปล่า คุณสามารถมีบทสนทนาดี ๆ กาแฟเลิศรส การทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นพร้อมกันทำให้ชีวิตมีความหมายรึเปล่า เรื่องราวของเราไม่ได้เลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่งเป็นพิเศษ ทั้งความสัมพันธ์ ครอบครัว มันมีความรู้สึกที่ว่าชีวิตเป็นทั้งหมดนั่นค่ะ”
มือเขียนบทร่วม ไมค์ โจนส์กล่าวเห็นพ้องด้วย “ผมคิดว่าไม่ว่าเราจะมาจากไหนหรือเราจะมาไกลซักเท่าไหร่ บางครั้ง เราก็จะสงสัยในชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง เราผลักตัวเองไปข้างหน้าเสมอ ในตัวศิลปินจะมีแรงขับเคลื่อนที่จะสร้างบางสิ่งบางอย่างเสมอ ที่จะทำให้พวกเขารู้สึกไม่พึงพอใจอยู่เรื่อย ๆ”
ด็อกเตอร์ตระหนักถึงไอเดียเช่นนี้ในชีวิตของตัวเขาเอง “ผมโชคดีมาก ๆ ที่ได้ร่วมงานกับคนที่เหลือเชื่อและสร้างหนังที่ได้เข้าฉายทั่วโลก” เขากล่าว “แต่ผมก็ตระหนักได้ว่าถึงโปรเจ็กต์พวกนี้จะวิเศษสุดแค่ไหน แต่ชีวิตก็มีอะไรมากกว่าสิ่งเดียวที่คุณคลั่งไคล้ แม้ว่ามันอาจจะเติมเต็มและถ่ายทอดความรู้สึกของคุณได้มากแค่ไหนก็ตาม บางครั้ง สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่สลักสำคัญนี่แหละคือแก่นแท้ของชีวิต
“ผมจำได้ว่าวันหนึ่ง ผมกำลังขี่จักรยานอยู่ แล้วผมก็หยุดเพื่อเก็บลูกราสเบอร์รี” เขากล่าวต่อ “มันอุ่นเพราะแสงแดด และกลายเป็นลูกราสเบอร์รีที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยกิน ผมยังจำช่วงเวลาที่แทบจะไม่มีอะไรนั่นได้อย่างชัดเจน แทบทุกช่วงเวลาในชีวิตของเราสามารถเป็นช่วงเวลาแห่งการตื่นรู้ ที่จำกัดความถึงเหตุผลที่เรามาอยู่ตรงนี้ได้ หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการขยายไอเดียของการมีสิ่งที่คุณสนใจเพียงอย่างเดียวไปสู่การคิดให้กว้างขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ชีวิตเสนอมาให้กับเราและสิ่งที่เราเสนอให้กับชีวิตครับ”
“Soul” ที่ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง เจมี่ ฟ็อกซ์, ทีน่า เฟย์, ฟิลลิเซีย ราชาร์ด, อาเมียร์ เควสท์เลิฟ ธอมป์สัน, เดวีด ดิกส์ เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นในนิวยอร์ก ซิตี้ ศูนย์กลางดนตรีแจ๊ส ที่มีกระแสชีวิตเร่งรีบ และโลกในจินตนาการของนครก่อนเกิด ได้ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างระหว่างเมืองใหญ่และดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ แนวทางการสร้างภาพยนตร์และการเคลื่อนไหวตัวละครของทีมผู้สร้างได้รับแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งจากอิทธิพลสองอย่างที่แตกต่างกัน นั่นคือศิลปะของศิลปินและนักเขียนการ์ตูนเสียดสีชาวอังกฤษ โรนัลด์ เซียร์ และแอนิเมชั่นจากการ์ตูนแอนิเมชั่นคลาสสิกปี 1961 ของดิสนีย์เรื่อง “101 Dalmatians” จู๊ด บราวน์บิล ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายแอนิเมชั่นกล่าวว่า “เซียร์และ ‘101 Dalmatians’ ส่งอิทธิพลต่อลุคและความรู้สึกของ ‘Soul’ ในแทบทุกส่วน ตั้งแต่รูปทรงที่ไม่สมบูรณ์แบบของตึกต่าง ๆ เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ประกอบฉาก ไปจนถึงจำนวนรอยยับย่นบนเสื้อผ้าของตัวละคร สำหรับแอนิเมชั่น อิทธิพลจากเซียร์เป็นแรงบันดาลใจสำหรับการโพสต์ท่าที่เด่นชัดและตรงไปตรงมาภายในองค์ประกอบภาพที่ชัดเจน ซึ่งเป็นตัวดึงสายตาของผู้ชมตลอดทั้งฉาก การศึกษา ‘101 Dalmatians’ เป็นการตอกย้ำความสำคัญของการใช้ไอเดียการแสดงหนึ่งเดียวในชั่วขณะนั้น และวางท่าโพสต์หลัก ๆ เอาไว้เพื่อให้ช่วงเวลาสำคัญฉายแสงได้ชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ”
25 ธันวาคม นี้ คุณจะได้พบ “Soul” ในโรงภาพยนตร์