เมืองประวัติศาสตร์…สิงห์บุรี ถิ่นวีรชนคนกล้า
ถิ่นวีรชนคนกล้า คู่หล้าพระนอน นามกระฉ่อนแม่ลา เทศกาลกินปลาประจำปี คำขวัญของจังหวัดสิงห์บุรี ที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสิงห์บุรี เป็นเจ้าภาพหลัก เชิญผู้ประกอบการและสื่อมวลชนในนามสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) เดินทางมาเยือนเมืองแม่ลาปลาช่อน เมืองที่มีวีรชนคนกล้าบ้านบางระจัน กลับมาเรียนรู้เมืองประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา หรือมาค้นหาเมืองโบราณสมัยทราวดีหรืออาจจะก่อนยุคทราวดีก็ได้ การเดินทางมาครั้งนี้มีเรื่องราวมากมาย แม้ว่าสิงห์บุรีจะเป็นเมืองเล็กไม่ใหญ่ วิถีชีวิต สโลว์ไลฟ์ เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน มาสูดอากาศบริสุทธิ์ มากินปลาช่อนที่โต ในลำน้ำแม่ลา รสชาติของเนื้อปลาที่แตกต่างจากปลาช่อนที่แห่งอื่นๆสามารถนำมาทำขนมเค้กและไอศกรีมปลาช่อนได้เลย
จุดนัดหมายคือโรงแรมเอเซีย พันธมิตรที่ ให้ความเมตตากับ สทน.มาโดยตลอด ล้อหมุนตอนพระอาทิตย์โผล่ขอบฟ้าได้ไม่นานนัก เส้นทางสายเอเซียผ่านอยุธยา อ่างทอง ก่อนไปตัวจังหวัด เราแวะกราบนมัสการพระพรหมองค์ใหญ่ที่สุด มาเรียนรู้การไหว้พระพรหมอย่างถูกต้องเพื่อเป็นสิริมงคล พระพรหมมี4หน้า เราต้องไหว้ทางทิศเหนือก่อนแล้วค่อยมาไหว้ทางตะวันตก แล้ววนมาทางทิศใต้ สุดท้ายค่อยมาทางทิศตะวันออกคือตรงหน้า ถ้าขึ้นมาแล้วไหว้ตรงนั้นคือจบ แต่ละทิศมีกุศโลบายแห่งมิติทั้ง4ทิศเกี่ยวกับโชคลาภหน้าที่การงานและความสุข ซึ่งมาไหว้พระพรหมที่นี่จะมีผู้รู้แนะนำทิศทางกราบไหว้ได้อย่างถูกต้องตามหลักการไหว้เทพชั้นสูงที่ควรเรียนรู้
กราบพระพรหมเทวาลัยแห่งนี้เสร็จ เราเดินทางไปวัดพิกุลทอง เพื่อไปกราบอัฐิของหลวงพ่อแพ เกจิอาจารย์ชื่อดังบารมีสูงของเมืองสิงห์บุรี ท่านสร้างพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ หันหน้าไปทาทิศตะวันตก เมื่อท่านละสังขารลูกศิษย์ท่านได้สร้างรูปปั้นหลวงพ่อแพ องค์ใหญ่มากเอาไว้ในวิหารจำลอง มาวัดพิกุลทองครั้งเดียวมีหลายสิ่งหลายอย่างให้กราบไหว้ รวมทั้งพระสิวลีอยู่ตรงหน้าสระน้ำวัด มีเขตอภัยทานให้อาหารปลาได้ทุกวัน
พักทานอาหารกลางวันแล้วไปไหว้รูปปั้นหมอชีวกโกมารทัต ริมถนนสายเอเซีย ที่คุณหมอสมหมาย หมอเทวดารักษาโรคมะเร็งจนหาย ท่านมีเจตนาสร้างไว้ให้คนรุ่นหลังได้ รับรู้ถึงประวัติหมอชีวกโกมารทัตในสมัยพุทธกาล เสร็จแล้วเราไปเรียนรู้เรื่องราวของชาวไทยพวน ที่วัดกุฏีทอง ตำบลบางน้ำเชี่ยว ซึ่งชาวไทยพวกอพยพเข้ามาสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์จากเชียงขวางประเทศ สปป.ลาว มีศิลปะวัฒนธรรมเฉพาะตน มีประเพณีกำผีฟ้า ทุกเดือนสามของแต่ละปี การแสดงการฟ้อนรำแบบชาวไทยพวน ทำให้เราซึมซาบได้ดีว่าชาวไทยพวนยังคงรักษาเอกลักษณ์เอาไว้ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ การเดินทางมาสิงห์บุรีแม้จะมาหลายครั้งแต่สิงห์บุรียังมีเรื่องราวทางศิลปะวัฒนธรรมให้ศึกษาไม่จบสิ้น เสน่ห์ความเรียบง่ายของวิถีชีวิต คนเมืองนี้ยังรักษาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ไม่นำเอาวัฒนธรรมที่อื่นมานำวิถีพื้นบ้านทำให้เรามีความสุขทุกครั้งที่มาสิงห์บุรี คิวงานเราจบลงที่วัดกุฏีทอง เราแวะไปดูการย้อมผ้าด้วยโคลนของชาวไทยพวนว่าสวยงามขนาดไหนเพิ่มมูลค่าได้เป็นอย่างดี พรุ่งนี้เรายังมีโปรแกรมเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเดินตามรอยพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เราพักผ่อนเตรียมพลังไปลุยแปลงสาธิตให้เห็นกับตา
