เรืออากาศตรีปรารภ ทองประเทศ เลขาธิการสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย เป็นประธานพิธีมอบรางวัลให้กับ ทีมที่คว้าแชมป์เปตองมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง โอเพ่น ครั้งที่ 1 ที่สนามูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง ซอยรามคำแหง 9 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา
เปตอง “มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง โอเพ่น ครั้งที่ 1 พลิกล็อกเกินคาด เมื่อนักเตองแชมป์โลกและอดีตทีมชาติหลายสมัย ได้แค่รองแชมป์ไปครอง ด้าน เจ้ยาหลานรักกวาด 2 แชมป์รวด “ไกรสีห์ กรรณสูต” พอใจที่ประสบความสำเร็จความสำเร็จตามเป้าที่วางเอาไว “ปรารภ ทองประเทศ” ยืนยันจะจัดรายการแบบนี้อย่างน้อยอีก 5 ครั้งในปีหน้า
การแข่งขันเปตอง “มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง โอเพ่น ครั้งที่ 1 ชิงถ้วยเกียรติยศของ “ไกรสีห์ กรรณสูต” นายกสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย และประธานมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง ประเภทคู่ชายและคู่หญิง ที่ สนามเปตองมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง ซอยรามคำแหง 9 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เมื่อกลางดึกของวันที่ 19 ธ.ค.2563 โดยมีนายไกรสีห์ กรรณสูต นายกสมาคมกีฬาเปตองฯ เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขัน และมีเรืออากาศตรีปรารภ ทองประเทศ เลขาธิการสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย เป็นประธานพิธีปิดและมอบรางวัล ซึ่งมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 137 ทีม แบ่งเป็นคู่ชาย 73 ทีม และคู่หญิง 64 ทีม โดยใช้เวลาการแข่งขันกันแบบมาราธอนนานถึง 17 กว่าชั่วโมง
สำหรับทีมที่ชนะเลิศแต่ละประเภทมีดังนี้ ประเภทคู่ชาย เจ้ยาหลานรัก 2 ผู้เล่นประกอบด้วย ส.อ.สมชาย หยินมีลาภ ภาศกร อินภู่ ชนะ วังโบราณ 1 (“แจ๊ค” พ.จ.อ.ศราวุฒิ ศรีบุญเพ็ง แชมป์โลก “อ๋อง”ส.อ.เถลิงเกียรติ ภู่สะอาด อดีตทีมชาติหลายสมัย) 11-1 คว้าแชมป์ไปครอง เหรียญทองแดง PW 3 และตำรวจแห่งชาติ ประเภทคู่หญิง PW 2 ( “น้อง” นวพร มีแสง “เนย” ชวิสา กลิ่นบุหงา) ชนะ วังโบราณ 2 (“ต่าย” ร.ต.หญิง พันธ์ทิพา วงศ์ชูวงศ์ แชมป์โลก คันธรส ชูช่วย) 11-8 เหรียญทองแดง BTU 2 และBTU 4
นายไกรสีห์ กรรณสูต นายกสมาคมกีฬาเปตองเเห่งประเทศไทย ในฐานะประธานมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง เผยว่า ครั้งนี้ถือเป็นการจัดการเเข่งขันประเดิมสนามครั้งเเรกของมูลนิธิเพื่อกีฬาเปตอง ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร เพราะมีทีมเข้าร่วมการเเข่งขันจำนวน 137 ทีม แบ่งเป็นคู่ชาย 73 ทีม คู่หญิง 64 ทีม จากกรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมถึงทีมจากต่างจังหวัด ซึ่งทีมที่เข้าแข่งขันมีทั้งทีมเยาวชน จนถึงทีมของผู้สูงอายุ
“การจัดเเข่งขันรายการนี้ขึ้นมา ก็ตรงไปตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ เเละมูลนิธิฯ ที่อยากจะส่งเสริมกีฬาเปตองให้เเพร่หลาย รวมไปเป็นเวทีของการพัฒนานักกีฬาเปตองในประเทศไทย เเละที่ผ่านมากีฬาเปตองเป็นที่เเพร่หลายเเละนิยมในต่างจังหวัดมาก แต่ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีโดยเฉพาะนักกีฬาจากกรุงเทพฯ ที่จะได้ลงเล่นเเละเเข่งขันในสนามมาตรฐานใกล้บ้านตัวเอง”
นายกสมาคมกีฬาเปตองฯ ยังเผยอีกว่า ในปี 2020 ประเทศไทยประสบปัญหากับวิกฤตโควิด-19 มาตั้งเเต่ต้นปี เเน่นอนทำให้กิจกรรมทุกอย่างต้องชะงักลง รวมถึงการเล่นเเละจัดเเข่งขันกีฬาเปตองด้วย อย่างไรก็ตามหลังสถานการณ์คลี่คลาย สมาคมได้กลับมาเริ่มเก็บตกเเผนงานที่พอทำได้ภายในประเทศทุกอย่างจนเกือบครบ อาทิ การจัดการเเข่งขันชิงเเชมป์ประเทศไทย การจัดอบรมเจ้าหน้าที่ ผู้ตัดสิน รวมถึงโค้ช จะขาดเพียงการส่งนักกีฬาไปเเข่งขันต่างประเทศ ซึ่งยังทำไม่ได้ เพราะมีการระบาดของโควิด-19
“หลังจากจบรายการนี้ สมาคมก็จัดการแข่งขันเปตอง “เยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากล” ครั้งที่ 5 ที่สนามเปตองในร่มเทศบาลเมืองตราด จังหวัดตราด ระหว่าง 26-27 ธ.ค.นี้ เป็นการส่งท้าย ซึ่งเป้าหมายก็เพื่อเฟ้นหานักกีฬาเปตองเยาวชนทั้งชายเเละหญิง เป็นตัวแทนทีมชาติไปร่วมการแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลก ที่จ.อยุธยา จะเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปี 2021″ นายไกรสีห์ กล่าว
เรืออากาศตรีปรารภ ทองประเทศ กล่าวว่า การแข่งขันเปตอง “มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง” ในครั้งนี้ เริ่มทำการแข่งขันกันตั้งแต่เวลา 10.00 น.ของ วันที่ 19 ธ.ค.จบเกมในตอนเช้าของวันที่ 20 ธ.ค.2563 เวลา 03.30 น.รวมแล้วใช้เวลาการแข่งขันประมาณ 17 ชั่วโมงกว่า โดยมีพิธีเปิดการแข่งขัน แบบเรียบง่าย และมีการทดสอบสนามก่อนแข่งขันอีกด้วย อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย จะร่วมกับ มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง จัดรายการนี้อย่างต่อเนื่องต่อไปอีก 5 ครั้งในปี 2564