กับเรื่องราวและโมเมนต์สุดประทับใจที่แต้มสีสัน เติมเต็มอารมณ์ให้คนไทยตลอดปี ได้ขนานนามให้ปี 2020 เป็นปี “มหาโหด” กับสารพัดเหตุการณ์เขย่าโลกที่รุมเร้า จนแทบจะไม่อยากมองย้อนกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ไม่ว่าปีนี้้จะโหดขนาดไหน เน็ตฟลิกซ์ก็ยังคงอยู่เคียงข้างผู้ชมทุกหน้าจอ ให้คนไทยได้เพลิดเพลินและคลายเครียดไปกับเรื่องราวดี ๆ หลากรสจากทั่วโลก กับความประทับใจมากที่สุดใน 7 มู้ด 11 เดือน แต่หลากหลายรสชาตินับอารมณ์ไม่ถ้วนเลยทีเดียว!
มกราคม – มีนาคม: Korean Winter
เริ่มปีด้วยหลากรสชาติจาก K-Series ตั้งแต่การทำธุรกิจ ความรักของแม่-ลูก จนไปถึงซอมบี้ยุคโชซอน
แน่นอนว่าตลอดปีนี้ ซีรีส์เกาหลีมากมายต่างผลัดกันขึ้นมายึดหัวตารางในท็อป 10 ของเรากันแทบจะทั้งปี โดยคอซีรีส์สายเกาในปีนี้ใช้เวลาหน้าจอกันมากกว่าปีที่แล้วถึง 3 เท่าตัว จึงไม่น่าแปลกใจที่เราเริ่มต้นปี 2020 กันด้วยการกระหน่ำ 3 ซีรีส์เกาหลีสุดฮิตต่อกันไปยาว ๆ ตลอดหน้าหนาว (ที่ไม่หนาว) ของบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้บนเส้นทางธุรกิจสุดเข้มข้นของ Itaewon Class (ธุรกิจปิดเกมแค้น) ที่เปิดฉายตอนแรกช่วงสิ้นเดือนมกราคม ก่อนจะยืนหยัดในท็อป 10 ได้ต่อเนื่องยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ ตามมาติด ๆ ด้วย Hi Bye, Mama! (บ๊ายบายแม่จ๋า) เรื่องราวความรักกลิ่นแฟนตาซีของแม่ผู้กลับมามีชีวิตอีกครั้งกับครอบครัว ในเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนจะระเบิดฟอร์มเต็มที่กับซีซั่นสองของ Kingdom (ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด) ที่สร้างปรากฎการณ์ได้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ซีซั่นแรก ชวนแฟน ๆ ทั่วไทยร่วมโกยอ้าวหนีซอมบี้กับองค์รัชทายาทแห่งโชซอนได้อย่างล้นหลามในเดือนมีนาคม จนกลายเป็นซีรีส์เกาหลีที่มีผู้ชมสูงสุดของปี 2020 ไปในที่สุด
เมษายน – พฤษภาคม: Summer Big-Hitters
ฤดูร้อนที่ร้อนแรงสมชื่อ กับหนัง-ซีรีส์อันดับหนึ่งสารพัดแนว ยกขบวนกันยึดทุกหน้าจอทั่วไทยปกติแล้ว ถ้าพูดถึงหน้าร้อน เราก็คงนึกถึงแดดเปรี้ยง ๆ กับวันหยุดยาวที่ทุกคนแห่กันหนีเมืองไปนอนริมหาด หรือไม่ก็กระแสความตื่นตาตื่นใจกับหนังฟอร์มยักษ์มากมายที่เปิดฉายกันรัวแบบไม่มีเว้นแม้สัปดาห์เดียว ถึงปีนี้เราจะต้องอยู่ติดบ้านกันหมด แต่เน็ตฟลิกซ์ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ขนทั้งหนังและซีรีส์ที่ชนะใจคนดูแบบครบทุกแนว ทุกอารมณ์ เริ่มกันเดือนเมษายน ที่เปิดฉากด้วย Howl’s Moving Castle (ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์) หนึ่งในผลงานแอนิเมชันเหนือจินตนาการที่นำทัพภาพยนตร์จากสตูดิโอ จิบลิ เข้าป้ายเป็นภาพยนตร์อนิเมะที่มีผู้ชมสูงสุดของปี ก่อนจะไปแรงกันต่อด้วยเรื่องราวความรักข้ามมิติใน The King: Eternal Monarch (จอมราชัน บัลลังก์อมตะ) ที่ได้พระเอกตลอดกาลอย่าง ลีมินโฮ มาเป็นแม่เหล็กใหญ่ ดูดคนดูติดจอจนทำผลงานติดท็อป 10 ได้ยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 ของปี แถมยังเข้าป้ายซีรีส์เกาหลีที่มีผู้ชมสูงสุดอันดับ 2 รองจาก Kingdom เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
ปลื้มพระเอกเกาหลียังไม่ทันเสร็จ ผ่านมาแค่สัปดาห์เดียว เราก็ได้พระเอกฮอลลีวูดสุดบึกอย่าง คริส เฮมส์เวิร์ธ มาเพิ่มจุดเดือดเดือนเมษาใน Extraction (คนระห่ำ ภารกิจเดือด) หนังแอ็คชั่นอันดับ 1 ของปี กับปฏิบัติการระเบิดภูเขา เผากระท่อม ช่วยลูกชายเจ้าพ่อแก๊งค้ายาที่ถูกลักพาตัวไป เสร็จแล้วสลับฉากไปผจญภัยกับเหล่านักล่าอสูรในซีรีส์อนิเมะที่ร้อนแรงที่สุดของปี Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba (ดาบพิฆาตอสูร) ที่ย้ายสมรภูมิมาฟาดฟันกันบนเน็ต ฟลิกซ์ทันสิ้นเดือนเมษายนพอดี ก่อนจะส่งไม้ต่อเข้าสู่ Snowpiercer (ปฏิวัติฝ่านรกน้ำแข็ง) ซีรีส์ไซไฟอันดับหนึ่งของปีนี้ ที่พาเราฝ่าฟันเอาตัวรอดในโลกที่เป็นน้ำแข็ง กับขบวนรถไฟที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายของมนุษยชาติ
มิถุนายน: Romance in the Rain
ลมฝนกลางปี เติมความชุ่มฉ่ำให้เต็มหัวใจกับสารพัดเรื่องราวสุดโรแมนติก
ไม่แปลกที่บรรยากาศชวนเหงาของหน้าฝนจะทำให้หลายหลายคนหันมาดื่มด่ำกับเรื่องราวของความรัก จนทำให้คนไทยดูหนังรักในปีนี้มากกว่าปีที่แล้วกว่า 4 เท่าตัว เราจึงเปิดฉากเดือนมิถุนายนด้วย Guardian: The Lonely and Great God (ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ) ซีรีส์ฮิตของพระเอกกงยู ที่กลับมาคืนจออีกครั้งบนเน็ตฟลิกซ์ ก่อนจะไปหวานกันต่อในซีรีส์แนวโรแมนติกอย่าง It’s Okay Not to Be Okay (เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน) ซึ่งทำสถิติยืนระยะติด ท็อป 10 ในไทยเป็นเวลานานที่สุดปีนี้ และยังเป็นซีรีส์เกาหลีที่มีผู้ชมสูงสุดอันดับ 3 ของปีด้วยเรื่องราวความรักสุดฮีลลิ่งระหว่างนักเขียนนิทานสาวผู้เห็นแก่ตัว ที่ไม่เคยรู้สึกรู้สาอะไรเลยในเรื่องความรัก กับเจ้าหน้าที่หนุ่มที่ทำงานกับผู้ป่วยแผนกจิตเวช และความพิเศษในการหยิบยกเรื่องสุขภาพจิตมานำเสนอผ่านคำพูดของตัวละครที่เยียวยาซึ่งกันและกัน เพื่อเตือนใจว่าการที่เรารู้สึก “ไม่โอเค” ในบางครั้ง ช่างเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต
กลิ่นอายความรักยังไม่หมดแค่นี้ เพราะในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน เรายังมีหนังไทยอย่าง Low Season สุขสันต์วันโสด ที่พาไปพบกลุ่มคนโสดที่โคจรมาพบกันที่โฮมสเตย์แห่งหนึ่งในฤดูที่ไม่เป็นใจ ขนความน่ารักปนฮาจากเมื่อครั้งที่เข้าโรงไปช่วงวันวาเลนไทน์ กลับมาให้เราได้สนุกกันอีกครั้ง จนกลายเป็นภาพยนตร์ไทยที่มีคนดูมากที่สุดบนเน็ตฟลิกซ์ แถมยังควบด้วยตำแหน่งหนังรักอันดับ 1 ของปีอีกด้วย ก่อนจะส่งท้ายกับ La La Land (นครดารา) ภาพยนตร์มิวสิคัลเปี่ยมเสน่ห์ระดับรางวัลที่ใคร ๆ ก็ต้องกลับมาดูซ้ำ ที่ลงจอเน็ตฟลิกซ์ในวันที่ 1 กรกฎาคมพอดี
กรกฎาคม – สิงหาคม: Superheroes Return!
การกลับมาของชีวิตหลังคลายล็อกดาวน์ และการหวนคืนจอของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่
เมื่อชีวิตล็อกดาวน์สิ้นสุดลง ผู้คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านกันคึกคัก ชาวเน็ตฟลิกซ์ก็เริ่มมองหาสีสันและความตื่นเต้นเลยจัดทัพซูเปอร์ฮีโร่ ทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าออกมาแสดงพลังกันครบทีม นับตั้งแต่ทีมทหารรับจ้างอมตะของชาร์ลิซ เธอรอน กับภารกิจปกป้องโลกมนุษย์ใน The Old Guard (ดิ โอลด์ การ์ด) ที่ทะลุทะลวงขึ้นมาเป็นหนังแอ็คชั่นที่มีผู้ชมมากเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ ไปจนถึงภาพยนตร์ออริจินัลฟอร์มยักษ์อย่าง Project Power (โปรเจกต์ พาวเวอร์ พลังลับพลังฮีโร่) เกี่ยวกับยาเม็ดลึกลับที่ใครกินเข้าไปแล้วจะมีพลังซูเปอร์ฮีโร่ชั่วคราว โดยแทรกระหว่างกลางด้วยซีซั่น 2 ของ The Umbrella Academy (ดิ อัมเบรลลา อคาเดมี่) ซีรีส์ออริจินัลจากเน็ตฟลิกซ์ ที่เล่าเรื่องราววุ่น ๆ ของครอบครัวซูเปอร์ฮีโร่บ้านแตกกับภารกิจข้ามเวลากู้โลกในสไตล์ย้อนยุคสุดเก๋
กันยายน: Flavors of Love
ฝนที่แผ่วกับลมที่เย็นลง ทำให้หลากแง่มุมของความรักกลับมาครองชาร์ตอีกครั้ง
สำหรับเดือนกันยายน คอนเทนต์ที่ติดท็อปชาร์ตเต็มไปด้วยเรื่องราวความรักในหลายแง่มุม มีทั้งความชุลมุนของสองสาว ‘พลอยซวย’ กับ ‘พลอยสวย’ ใน Unlucky Ploy ชีช้ำกะหล่ำพลอย ซีรีส์ไทยที่ติดท็อป 10 ยาวนานที่สุดของปีนี้ ซึ่งมาออกอากาศตอนสุดท้ายในเดือนนี้พอดี ต่อด้วยซีรีส์เกาหลีฟินจิกหมอนกับความรักในวงการแฟชั่น Record of Youth (เส้นทางดาว) ก่อนจะสลับฉากไปสัมผัสเรื่องจริงที่เปี่ยมด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ใน Hope Frozen: A Quest to Live Twice (ความหวังแช่แข็ง ขอเกิดอีกครั้ง) สารคดีไทยอันดับหนึ่งแห่งปีบนเน็ต ฟลิกซ์
แต่ความรักที่แหวกแนวที่สุดคงต้องยกให้การจ้องตาข้ามตึก (และข้ามหัวซอมบี้) ของยูอาอินกับพัคชินฮเยใน #Alive (คนเป็นฝ่านรกซอมบี้) ที่ผสมเรื่องราวของทั้งสองเข้ากับความลุ้นในการเอาตัวรอดได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นหนังสยองขวัญที่คนไทยดูมากที่สุดในปีนี้
ตุลาคม: Women Power
ทรงพลังสุด ๆ กับเรื่องราวของหญิงแกร่งบนเส้นทางชีวิตของพวกเธอ
เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี ก็ปรากฎว่าหัวแถวในชาร์ตของเน็ตฟลิกซ์เต็มไปด้วยหญิงแกร่งมากมายจากหนัง-ซีรีส์สารพัดแนว ไม่ว่าจะเป็น ลิน นักเรียนอัจฉริยะกับลูกเล่นสีเทาในโลกการศึกษาจาก Bad Genius: The Series ฉลาดเกมส์โกง ซึ่งขึ้นแท่นเป็นซีรีส์แนวทริลเลอร์อันดับ 3 ของปีนี้ สาวสายแฟชั่น เอมิลี่ กับความป่วนแบบเริ่ด ๆ และงานในฝันที่ปารีส ใน Emily in Paris (เอมิลี่ในปารีส) ซีรีส์คอมเมดี้อันดับหนึ่งแห่งปีของไทย หรือเบธ ฮาร์มอน เซียนหมากรุกหญิงกับเส้นทางการเป็นมืออาชีพในแวดวงหมากรุก ที่ดูเหมือนจะผูกขาดไว้แค่สำหรับผู้ชาย จาก The Queen’s Gambit (เกมกระดานแห่งชีวิต) ที่ขึ้นแท่นเป็นซีรีส์แนวดรามาอันดับหนึ่งในไทย และยังปลุกกระแสหมากรุกให้กลับมาฮิตไปทั่วโลกอีกด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ ในเดือนตุลาคม เน็ตฟลิกซ์ยังชวนกองทัพ “บลิ๊งค์” ไปใกล้ชิด 4 สาว BLACKPINK แบบสุด ๆ ในสารคดีสุดเอ็กซ์คลูซีฟเรื่องแรก BLACKPINK: Light Up the Sky ที่คว้าตำแหน่งสารคดีที่คนไทยดูมากที่สุดไปครองแบบไม่เซอร์ไพรส์นัก แถมยังมีการประเดิมจอของ Start-Up (สตาร์ทอัพ) ซีรีส์เกาหลีที่ฮอตที่สุดกับเส้นทางสู่ฝันและตำแหน่ง CEO ของซอดัลมี จนมาแรงแซงโค้ง ขึ้นเป็นซีรีส์เกาหลีระดับท็อป 5 ของปีไปแล้ว
พฤศจิกายน: Welcoming School Break
เทศกาลและการปิดเทอม พาความสดใสของคอนเทนต์สำหรับเด็กขึ้นท็อป 10
เข้าสู่บรรยากาศอันสดใส กระชุ่มกระชวยของช่วงท้ายปี เมื่อหลายคนต้องหยิบหนังเกี่ยวกับวันหยุดคริสต์มาสในวัยเด็กออกมาดูอีกครั้ง แต่กับเน็ตฟลิกซ์ เรายังมีสีสันใหม่ ๆ มาเสิร์ฟแบบต่อเนื่อง อย่างความน่ารักของ Over the Moon (เนรมิตฝันสู่จันทรา) ภาพยนตร์สำหรับเด็กอันดับ 1 ของปี ที่ฟุ้งด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมแบบเอเชีย กับการถ่ายทอดตำนานของเทศกาลไหว้พระจันทร์อย่างงดงามผ่านเรื่องราวของเฟยเฟย เด็กหญิงที่เดินทางไปยังดวงจันทร์พร้อมน้องกระต่ายคู่ใจ เพื่อตามหาเทพีบนดวงจันทร์ที่แม่ของเธอชอบเล่าให้ฟัง หรือจะเป็นบรรยากาศคริสต์มาสเต็มตัวใน Jingle Jangle: A Christmas Journey (จิงเกิ้ล แจงเกิ้ล คริสต์มาสมหัศจรรย์) ที่เติมกลิ่นอายแฟนตาซีให้วันหยุดช่วงปิดเทอมได้อย่างลงตัว จนเข้าป้ายเป็นอันดับ 2 ในหมวดภาพยนตร์สำหรับเด็ก
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วัน กี่ปี Netflix จะยืนหยัดมอบความสุขทุกสารพัดหนัง-ซีรีส์กับความบันเทิงระดับโลกที่มีสมาชิกจ่ายเงินรับชม 193 ล้านคน ในจำนวนกว่า 190 ประเทศทั่วโลก
