แกะซีลเซ็ตหนังสือ
ฮีท โรกิเซียส เดวิโอ นักธุรกิจหนุ่มหล่อ เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ผู้ทรงอิทธิพลแห่งสเปน เดินทางมาเมืองไทย เพื่อจัดการคนโกงที่ยักยอกเงินบริษัทฯ ของเขาแล้วหนีมากบดานเมืองไทย และได้พบกับ น้ำหนาว นักข่าวสาวสายบันเทิงของหนังสือพิมพ์ “สยามนิวส์” ที่บังเอิญมาพบเห็นเหตุการณ์ ฮีทตกหลุมรักเธอตั้งแต่แวบแรกเห็น สั่งเลขาคนสนิทสืบประวัติจนรู้ว่าสยามนิวส์กำลังประสบปัญหาขาดทุน จึงเทกโอเวอร์เพื่อจะได้ใกล้ชิดเธอ ฮีทไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนวิ่งหนีมีแต่พวกหล่อนจะคลานมาขึ้นเตียงเพียงแค่เขากระดิกนิ้ว คงต้องยกเว้นน้ำหนาวที่ทำให้เขาต้องวิ่งวุ่นตามจับเธอมาปราบพยศ!
“ถ้าคุณไม่บอกว่าทำแบบนี้กับน้ำหนาวทำไม น้ำหนาวจะกลับเมืองไทยค่ะ”
“ถ้าเธอกลับ! ฉันจะปิดหนังสือพิมพ์สยามนิวส์ เดี๋ยวนี้!!” ฮีทจ้องนีรติกาที่อ้าปากค้างกับคำขู่แสนโหดร้ายของเขา
“คุณทำแบบนั้นไม่ได้นะคะ มีอีกหลายชีวิตที่ต้องตกงาน ถ้าคุณทำแบบนั้นน่ะ”
“เธอบอกฉันใจร้าย ฉันก็กำลังแสดงความร้ายกาจของฉันให้เธอเห็น ถ้าเธอไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานเดือดร้อน เธอก็ต้องอยู่ที่นี่ สัมภาษณ์ประธานคนใหม่ และเป็นคู่นอนฉัน!”
“คู่นอน! คุณมันบ้า! ใจร้าย! ไร้หัวใจ ฉันไม่ทำอย่างนั้นแน่ ฉันจะกลับเมืองไทย” นีรติกาโกรธจัดต่อว่าสารพัด เขาถือสิทธิ์อะไรมาบังคับให้เธอเป็นคู่นอน แค่อยู่สัมภาษณ์เธอยังพอทน แต่ให้เป็นคู่นอนมันมากเกินไป
“อีธาน ปิดสำนักพิมพ์สยามนิวส์เดี๋ยวนี้!”
“คุณลักพาตัวเพื่อนมาได้ยังไง และทำเพื่ออะไรคะ”
หากคำถามนี้ของคนถามเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งตื่นเต้น คาดหวัง กังวล ต่าง ๆ นานา พารินทร์สบตาคมที่นิ่งขรึมราวสายน้ำไร้แรงลมพัดผ่าน
ด้านคนถูกให้ตอบไพล่นึกถึงคำพูดของไมลส์ที่โทร.มาพอรู้ว่าเขาลักพาตัวพารินทร์มาสเปน ซึ่งประโยคหนึ่งชวนให้ฮันเตอร์นึกถึง
“ฮันเตอร์! นายทำเหมือนกับหึงหวงคุณพารินทร์”
แล้วคนปากแข็ง ใจน้ำแข็งโพล่งเสียงเคร่งขรึม “ฉันวางยานอนหลับในอาหารที่พวกเธอทานโดยอ้างว่าไมลส์จัดให้ เหตุผลก็เพราะเธอจะหนีฉันไปทำ งานกับไมลส์”
“คุณฮันเตอร์ คุณทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย แล้วเรื่องที่เพื่อนจะไปทำงานกับคุณไมลส์ก็ไม่ใช่การหนีด้วย” ใช่! เธอหนีหัวใจตัวเอง เธอไม่อยากอยู่ใกล้เขาอีกต่อไป ไม่อยากเป็นของเล่นชั่วคราวให้ไร้ศักดิ์ศรีมากไปกว่านี้แล้ว
“เธอต้องการหนีฉัน! และเลือกทิ้งทุกคนในสยามนิวส์” คนตาคมกริบ ทั้งเสียงและสีหน้าเข้มจัด
“แล้วถ้าเพื่อนทำแบบนั้น เพื่อนผิดตรงไหน คุณฮันเตอร์ไม่มีสิทธิ์ทำกับเพื่อนแบบนี้ เพื่อนแจ้งความเอาผิดคุณได้ คุณจับเพื่อนมาคนเดียวไม่พอยังลากน้องเข้ามาเกี่ยวด้วย แล้วตอนนี้น้องอยู่ที่ไหนคะ”
คนไม่คิดตอบด้วยอารมณ์กรุ่นขึ้นคว้าร่างเล็กที่หน้าบึ้งตึงมาประกบจูบรุนแรง ดูดดื่มพร้อมใส่ความเอาแต่ใจ เผด็จการเข้าเต็มพิกัด พารินทร์ครางอู้อี้พร้อมกับดิ้นขลุกขลัก เธอยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการเขาก็ใช้กำลังและความหน้ามึนเอาเปรียบเธออีกแล้ว
“สิทธิ์ของฉันอยู่บนตัวเธอ”
– Dion Kamberlanez –
‘ดีอ้อน’ คือชื่อของผมที่แปลว่า เทพเจ้า แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงเรียกผมว่า ‘มาเฟียหน้าหวาน’ ไม่เคยอยากเป็นมาเฟียเหมือนที่เขาขนานนามกัน แต่เพราะเหตุการณ์ในอดีตมันบีบบังคับให้ผมต้องเป็น หัวใจของผมไม่เคยสั่นไหวตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นที่ฝังลึกอยู่ในใจ แต่ตอนนี้…หัวใจของผมกลับเต้นแรงอีกครั้ง เพราะผู้หญิงคนหนึ่ง ‘อันนา’ เธอเปรียบเสมือน ‘แมวน้อย’ คนที่ทำให้หัวใจของผมกลับมาเต้นแรงและมีชีวิตชีวาเพียงแค่สบตากันตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ
แต่เรื่องราวระหว่างผมกับเธอดูเหมือนจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาย มันมี ‘เหตุผล’ บางอย่างที่ทำให้ผมต้องปล่อยเธอไป เมื่อถึงเวลาผมจะกลับมาทวงผู้หญิงของผมคืน!!!
“พะ..พี่ดีอ้อน มาได้ยังไงคะ..”
“มานี่เลยแม่ตัวดี จะลงโทษซะให้เข็ด!”
– Kevin Jaroslow –
ใครจะไปคาดคิดว่าผู้หญิงใส่แว่นหน้าตาธรรมดา จะทำให้ผมคลั่งได้ขนาดนี้ ไม่ได้คลั่งธรรมดา แต่เป็น ‘คลั่งรัก’ ทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัด ติดใจในรสชาติขนมที่เธอทำแถมยังติดใจในกลิ่นกายของเธออีกด้วย กลายเป็นผู้ชายที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์แย่งเธอไปจากผม
“คุณเควิน นั่นดอกไม้หนูนะคะ”
“ของเธอหรือ?”
“ใช่ค่ะ”
“หืม ลืมอะไรไปหรือเปล่าอิงดาว”
“….”
“เธอเป็นของฉัน ร่างกายและหัวใจเธอก็เป็นของฉัน”
“….”
“เพราะฉะนั้น ดอกกุหลาบของเธอก็เป็นของฉัน ฉันจะทำอะไรกับมันก็ได้” ผมแค่หักดอกกุหลาบที่ผู้ชายคนอื่นให้ แล้วทิ้งลงถังขยะมันผิดตรงไหนในเมื่อเธอ… เป็นของผม
แววตาของเธอสั่นระริกเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ ก่อนที่มือเล็กจะยกขึ้นง้าง และผมก็รู้ทันทีว่าเธอจะทำอะไร
หมับ!
“หึ! ถ้าเธอตบ ฉันจูบ… ลองดูไหมละ?”
– Zane Cruze –
ผมเจอ ‘เธอ’ ครั้งแรกในงานแต่งของเพื่อน ผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ส่วนเธอเป็นเพื่อนเจ้าสาว ผู้หญิงที่ทุกคนต่างปกป้อง และสั่งห้ามไม่ให้ผมเข้าใกล้ เพราะผมอันตรายเกินไปสำหรับเธอ
“ทำไมนุ่มนิ่มไปหมดทั้งตัวแบบนี้”
“คะ?”
“นิ่มแล้วก็หอมเหมือน ‘พาย'”
“……”
“น่ากิน”
“ขะ..หนม..น่ากินใช่มั้ยคะ”
“เปล่า น้องพายต่างหาก ที่น่ากิน”
หึ มีคนบอกว่าผม ‘อันตราย’ เหมือนเสือ เสือที่ลูกแมวแบบเธอไม่ควรเข้าใกล้ ถ้างั้นผมจะยอมเป็นเสือตามที่ทุกคนบอก แต่จะเป็นเสือที่ทำให้เธอขาดผมไม่ได้
“พะ…พี่เซนอย่าแกล้งพาย”
“พี่ไม่ได้แกล้ง พี่เอาจริง :)”
“ทำไมการปกครองประเทศและการดูแลประชาชนถึงง่ายกว่าการปกป้อง ‘เธอ’ มันคือคำตอบที่ผมต้องหาด้วยตัวเองสินะ…”
– Austin Crawford-
ชีวิตราบเรียบของการดำรงตำแหน่ง ‘ประธานาธิบดี’ ที่ผมทำอยู่ทุกวันเปลี่ยนไปตั้งแต่ได้พบกับเธอ ‘ฟ้าใส’ ผู้หญิงแปลกหน้าที่สอนให้ผมได้รู้จักความรัก เธอคือท้องฟ้าที่ผมอยากตื่นขึ้นมาเจอในทุกเช้า และบอกฝันดีในทุกคืน
แต่ทว่า…มันคงจะดีกว่านี้ถ้าโชคชะตาไม่กลั่นแกล้งเราสองคน
“พี่ขอโทษ…”
“ฮึก ฟ้า เกลียดพี่!”
– Alan Lennignz –
ผมเป็นคนดีเหรอครับ? ใครบอกละ ผมไม่เคยพูดว่าตัวเองเป็นคนดีสักหน่อย ทุกคนแค่คิดไปกันเอง ผมคือ นายแพทย์อลัน เล็นนิกซ์ ที่เป็นทั้งหมอและเจ้าของโรงพยาบาล ตอนทำหน้าที่หมอผมก็ทำอย่างเต็มที่ และแสดงอีกด้านหนึ่งเพื่อคนไข้ แต่ตอนที่ผมเป็นตัวของตัวเอง ผมก็แค่ผู้ชายเลว ๆ คนหนึ่งเท่านั้น อยู่ที่เราเลือกว่าจะแสดงด้านไหนออกมาต่างหาก เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่เคยพูดว่าผมเป็นคนดี 🙂
แต่เหมือนชีวิต Normal life ของอาชีพหมอจะเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ได้เจอกับเธอ ‘แพรวา’ คนไข้คนหนึ่งที่ผมช่วยชีวิตเอาไว้จากอุบัติเหตุ แต่เหมือนผมจะโดนคนไข้คนนี้ ‘ตก’
“แพรจริงจังนะคะ แพรรักคุณหมอ อยากได้คุณหมอมาเป็นแฟน เป็นสามี แล้วก็เป็นพ่อของลูก”
คนไข้ที่บอกรักผมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ และขยันอ่อยผมทั้งเช้าและเย็น! แต่เธอจะรู้ไหมครับว่าเธอกำลังทำให้หมอเลว ๆ คนนี้หวั่นไหว
บัดซบ ถ้าผมจับคนไข้เป็นเมียขึ้นมาจริง ๆ จะทำยังไง!!!
เหลียนหลิน เป็นเพียงสตรีเกิดจากอนุ แม้บิดามีตำแหน่งสูง แต่ฐานะมารดาดึงนางไว้ ถูกส่งตัวเข้า ตำหนักอ๋องหรูอ๋อง ความร้ายกาจของเขาทำให้ชีวิตเธอพลิกผัน ทว่าใครจะล่วงรู้ เบื้องหลังความร้ายกาจ กลับแอบแฝงไว้ด้วยความรักเปี่ยมล้น นางไม่รู้เรื่องนี้ จึงพยายามยืนหยัดด้วยตนเอง
ทว่าอุปสรรคไม่ได้น้อยลง กระทั่งถูกส่งตัวไปอยู่เมืองห่างไกลในท้องมีชีวิตน้อย ๆ ถือกำเนิด นางได้สร้างกิจการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพื่อลูกน้อย หนีจากแผ่นดินนี้ไป ทว่าเขาหวนกลับมา ความรักผลิบานไม่รู้ตัว แต่ครั้งนี้…นางยึดลูกเป็นหลัก
ความรักเป็นเช่นไร เยว่ซิง เพียงมองผ่านสายตาจากคนรอบกาย ไม่ได้มีเพียงแรกพบ ทว่าสายใยค่อย ๆ ถักทอ สุขหรือทุกข์ ร้อนหรือหนาว มีเพียงนางเท่านั้นที่รู้ สตรีถือดาบกวัดแกว่ง ทั้งชีวิตมุ่งปกป้องผู้คน
กระทั่งวันหนึ่ง ผู้คนรอบข้างเห็นพ้องว่านางควรออกเรือน แต่จะทำอย่างไรได้เล่าบุรุษที่หมายตากลับเจียมตนเสียอย่างนั้น ไม่เป็นไร นางหน้าหนาพอจะลงมือเกี้ยวพาบุรุษด้วยตนเอง
‘ถูกใจตั้งแต่แรกเจอ อยากได้เธอมาครองตั้งแต่แรกพบ’ เมื่อเชคฮหนุ่มผู้หล่อเหลา มาดขรึมเอาแต่ใจ ได้พบกับสาวไทยที่มาท่องเที่ยวยังสถานที่ในฝัน แล้วได้พบเจอกันด้วยความบังเอิญ รูปลักษณ์ใบหน้าที่ต้องตา มันสะกดเชคฮหนุ่มอย่างกับต้องมนตร์ จนเขาอยากได้เธอมาครอบครอง แต่ต้องถูกปฏิเสธจนหน้าชา แต่ว่าเขาหาได้สนใจไม่…ในเมื่ออยากได้เธอมาเคียงกาย จะต้องแลกด้วยวิธีไหนเขาก็ยอม แม้วิธีนั้นจะดูต่ำช้าในสายตาของเธอ
“อะไรที่คิดว่าผมลังเล”
“เราไม่เคยพบเจอ หรือรู้จักกันมาก่อน”
“แล้วไง”
“เอ้า!…คุณนี่”
“อย่าเซ้าซี้ให้มาก ผมเสียเวลามากพอแล้วที่โต้เถียงกับคุณ”
“ฉันไม่ได้ร้องขออยากกินข้าวกับคุณเสียหน่อย”
“ผมปล่อยเวลาผ่านโดยไร้ประโยชน์นานแล้ว…เอ๊ะ! หรือคุณคิดถ่วงเวลาเรียกค่าชดเชย”
“เหอะ~~ตลก ฉันไม่ใช่เด็กที่คิดแค่นั้น อย่าลืมว่านี่มันคือเวลาพักผ่อนของฉัน ป่านนี้เพื่อนฉันตามหาทั่ววุ่นวายแล้ว” ม่านฟ้าร่ายยาวถึงเหตุที่ควรจะเป็น เพราะเธอมากับบริษัททัวร์ที่ทุกอย่างต้องทำพร้อมกันตามที่บริษัททัวร์กำหนด การทานข้าว การตื่นนอน และนัดพบ ทุกอย่างล้วนถูกบริษัททัวร์กำหนดไว้แล้ว
“อยากพักผ่อน…อยู่กับผมตลอดไปซะสิ”
‘รักของคนอื่นคือสิ่งหอมหวานเสมอ แต่กับเธอมันคือยาขมที่พะอืดพะอมกลืนไม่ลงคอเสียที อยากมีความตายเป็นที่พึ่งก็ไร้สิทธิ์เรียกร้อง’
“อย่าคิดหนีไปจากที่นี่…ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
เสียงเหี้ยมของชายมาดขรึมอย่าง อานัส เอ่ยขึ้นพร้อมชี้หน้าข่มขู่
“ท่านจะฆ่าก็ฆ่าเลย สิ้นลมหายใจฟาตินคนนี้จะได้หมดทุกข์ ไร้ความทรมาน! อึก ฮึก ฮึก”
ฟาติน ตะเบ็งเสียงกร้าวโดยไม่คิดกลัว เมื่อตั้งแต่ที่ตัวเองมาอยู่ที่นี่ด้วยเม็ดเงินที่ถูกเขาซื้อมาย่ำยี มันทำให้หัวใจของเธอเจ็บช้ำระบม ร่างกายทุกข์ระทมขมขื่น แรงจะฝืนสู้ต่อแทบไม่มี ศักดิ์ศรีหดหายโดนทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำ
“อย่าปากดีให้มาก…เธอมันก็แค่ผู้หญิงในฮาเร็มที่ฉันซื้อมาสนองตัณหาเท่านั้น…อย่าได้คิดมีสิทธิ์มาต่อรอง แม้กระทั่งความตาย!!”
ร่างกายหนาปรี่ประชิดตัวฟาติน มือใหญ่บีบปากของเธอจนเจ็บร้าว ดวงตาคมเเข็งกร้าวดุดัน จ้องมองหน้าที่แปดเปื้อนด้วยคราบน้ำตาอย่างเฉยชา แต่คนร่างเล็กที่โดนทำร้ายเจ็บปวดเจียนตาย ร่างกายที่บอบช้ำอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดเมื่อโดนสัมผัสด้วยแรงชาย
“จะทรมานกันไปถึงไหน!”
“ตลอดชีวิต!”
ชีวิตแต่งงานของ อริสตา ล้มเหลวไม่เป็นท่า และด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีคุณค่า เธอจึงใช้เวลากับงานที่ตัวเองรักและไม่คิดให้หัวใจกับผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น จนกระทั่ง หรัญญ์ หวนมาพร้อมกับทุ่มเทให้กับเรื่องความรักอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง ทว่ามันไม่ได้ง่ายดายเหมือนที่คิดไว้เลย… เพราะตอนนี้เธอปักใจเชื่อว่าเขาเป็นผู้ชายเฮงซวยไปซะแล้ว
“บัดซบ! คุณท้องเหรอริตา… คุณท้องได้อย่างไร”
เธอมองหน้าเขาด้วยแววตาจริงจัง และแววตาของเธอนี่แหละที่ทำให้อารมณ์เขาขาดผึง
“โอ้ พระเจ้า! ผมไม่พร้อม… ผมไม่อยากมีลูก ไม่อยากมีแม้แต่ในความคิด แล้วนี่คุณกินยาคุมห่าเหวอะไรของคุณถึงปล่อยให้ท้องแบบนี้ฮะ”
“ฉัน… ไม่รู้…”
“นรกเฮ้ย ผมแต่งงานกับคุณได้ยังไง แค่การคุมกำเนิดขั้นพื้นฐานคุณก็ไม่ประสีประสา… ทำไมคุณถึงได้โง่ซ้ำซากอย่างนี้…”
“ฉันเกลียดคุณ!”
“เฮ้อ ไม่ใช่เรื่องใหม่เล้ย เพราะปากคุณประกาศปาว ๆ แบบนี้ทุกครั้งเมื่อเจอกัน… อา…แต่เมื่อนาทีที่แล้วดูเหมือนคุณไม่ได้เกลียดผมเท่าไหร่เลยนะ”
ใช่แต่ใบหน้าเธอที่เห่อร้อน เนื้อตัวเธอแดงเถือกด้วยเช่นกัน
พระเจ้า เธอเกลียดตัวเอง เกลียดพอ ๆ กับที่เกลียดเขา
“คนสารเลว… อย่าคิดว่าฉันจะไม่ขัดขวางคุณจากริตา… ฉะ”
“ตามสบาย…”
เขาสวนพร้อมหัวเราะหึหึต่อท้าย และนั่นทำให้เธอตวาดเสียงดังแว๊ดอีกหน
“และฉันก็ไม่มีทางเป็นผู้หญิงของคุณเหมือนกัน”
ทีนี้เขาหัวเราะก๊ากด้วยความขบขัน
“เอ… ผมจำไม่ได้ว่าเคยจีบคุณ?”
คำพูดของเขาทำให้ใบหน้าเธอชาหนึบ “แต่… แต่คุณ…”
“โธ่เอ๊ย คุณนี่ไม่ประสีประสาเสียจริง ๆ เชียว… เรื่องทำนองนี้…” เขากวาดมือระหว่างทั้งสอง “มันแค่เช็กซ์ฉาบฉวย ถ้าผมจริงจังกับผู้หญิงทุกคนที่มีเซ็กซ์เร่งด่วนตั้งแต่ผมอายุสิบหกล่ะก็… ป่านนี้ผมไม่มีแฟนเป็นภูเขาเลากาแล้วรึ”
เนื้อตัวเธอสั่น มือบางกำแน่นด้วยความเครียดแค้น
“คุณเป็นผู้ชายเฮงซวย!”
ปราณ ผู้ชายที่แสนยโส เขาถูกโซ่มีชีวิตผูกติดไว้กับตระกูลที่เขาแสนจะเกลียดชัง เมื่อแรกเขาชิงชังเธอยิ่งนัก แต่สุดท้ายเขาก็รักเธอสุดหัวใจ และเจ็บปวดอย่างที่สุดเมื่อเขาคือคนที่ทำร้ายเธอเองกับมือ เมื่อรักและรู้ตัวว่าผิด ปราณเดินหน้าอ้อนวอนขอโอกาส เพื่อให้ได้สิ่งที่รักกลับคืนมา เขายอมกระโดดลงสู่นรกแห่งความเกลียดชัง ขอแค่รั้งเธอเอาไว้ข้างกาย…
“ไม่…ทรายต้องกลับบ้านกับพี่เท่านั้น” เสียงเข้มดังขึ้นพร้อมกับรถเข็นที่หยุดทันที
“ฉันขอบคุณมากที่คุณอุตส่าห์เข้าไปช่วย แต่ฉันอยากกลับบ้านของตัวเองมากกว่า” เสียงหวานเบาหากแต่รุนแรงไม่ต่างจากเหล็กแหลมที่กระแทกเข้ามากลางหัวใจแกร่ง
“จากนี้ไปบ้านของพี่คือบ้านของทราย พี่อยู่ที่ไหนทรายก็ต้องอยู่ที่นั่น”
“ว่าไงที่รัก ผมให้เวลาตัดสินใจแค่นับสาม ถ้ายอมเป็นนายหญิงธีรโชติ ครอบครัวคุณจะปลอดภัย แต่ถ้าไม่ผมจะเผาให้วอด ฆ่าทิ้งให้หมด”
“คุณมันไม่ใช่คน” เธอดิ้นรนกรีดร้องทั้งน้ำตา
“ผมเป็นคน เป็นผู้ชายที่รักคุณมากด้วย และผมจะทำทุกอย่างให้ได้คุณมาเป็นเมีย รักแท้แบบผมคือครอบครอง” เขาพูดแล้วจูบปากเธอแรงๆ หญิงสาวดิ้นรนแต่ยิ่งถูกล็อกแน่นขึ้นอีก ร่างหนาเบียดอัดเข้าลึกและแรงจนเธอต้องแอ่นกายรับ น้ำตาหยาดรินอย่างเจ็บปวดกับการถูกบังคับให้ต้องยอมรับในสิ่งที่ไม่ต้องการ
“ทูนหัว อย่าให้ผัวต้องร้ายนะครับ ได้ผมแล้วก็แค่รับผิดชอบเท่านั้นเอง”
“คุณมันเลว”
“ผัวเลวกับคนทั้งโลกแต่รักเมียที่สุดนะครับ”
“ปากบอกว่ารักแต่บังคับเอาทุกอย่างจากฉันแบบนี้หรือ เขาไม่เรียกว่ารัก เขาเรียกว่าเห็นแก่ตัว”
“โถ่ ทูนหัว รักครับถึงต้องบังคับ ถ้าไม่รักผมเขี่ยคุณทิ้งตั้งแต่นอนด้วยครั้งที่สองแล้ว รู้ไว้อย่างนะเมียจ๋าผัวไม่ชอบใช้ผู้หญิงซ้ำๆ หรอก แต่กับเมียมันอยากไม่จบไม่สิ้นไม่พอ ยิ่งกินยิ่งหิว”
“ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ”
“นับถึงสามทูนหัวไม่อย่างนั้นผมยอมเลว แล้วอย่าคิดว่าพวกนั้นตายแล้วผมจะปล่อยคุณไปนะ ผมจะเอาคุณไปล่ามไว้ที่ห้องใต้ดินที่ธีรโชติ แล้วก็รักคุณทุกวันทุกคืนขังคุณเอาไว้ ใครก็ช่วยคุณไม่ได้ คุณก็รู้ว่าผมทำได้ ถ้าผมจะทำ”
แม่เนื้ออุ่นริอ่านมาขโมยหัวใจมาเฟียอย่างเขาแล้ว ก็อย่าหวังว่าเขาจะปล่อยให้เธอห่างกายไปได้อีก ไม่ว่าข้างกายเขาจะดำมืด อันตรายเพียงใด แต่เขาก็จะกระชากเธอไว้ ให้อยู่เคียงข้าง…ตลอดกาล
“ฉันจะกลับบ้านและคุณต้องปล่อยฉันไป”
“ไม่…เราจะพูดกันหลังจากที่พี่จัดการเรื่องบ้าๆ พวกนั้นเสร็จแล้ว”
หยางเว่ยถึงกับตัวชา คาดไม่ถึงเมื่อร่างบางขยับเร็วไปที่จานผลไม้ มีดปอกผลไม้อันเล็กอยู่ในมือของเธอ ก่อนจะหันปลายแหลมจ่ออยู่ที่คอของตัวเอง
“ถ้าฉันจะอยู่ คุณก็เก็บเอาศพฉันไว้ก็แล้วกัน ฉันจะไม่ยอมให้คุณใช้ฉันเป็นเครื่องมือทำร้ายแม่พัชอีก”
“วางมีดลง ! …พี่บอกให้วางมีดลง !!” เขาตวาดลั่นราวคนเสียสติ